- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 March 2017 17:43
- Hits: 3652
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตัวยืนบวก ขยับทำจุดสูงสุดของวันที่ 1573.31 จุด เพิ่มขึ้น 6.12 จุด พร้อมกับแกว่งตัวสลับขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ ที่ยืนอยู่ในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน โดยมีจุดต่ำสุดของวันที่ 1568.42 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันเพียง 4.89 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ BANPU, SCC, KBANK, KKP, BBL, THAI, TKN, TIPCO ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1569.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด (+0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 44,532ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ยังคงเดินหน้าต่อในลักษณะแกว่งตัวแคบ ๆ ทั้งวันเพียงแค่ 5 จุด โดยเปิดตัวแรงสร้าง Gap เล็ก ๆ ที่มีความกว้าง(1567.36-1568.42) 1.06 จุด และขยับขึ้นทำ High ที่ 1573 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาทำปิดต่ำกว่าเปิด 1569 จุด ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนดูไม่ค่อยสวยนัก และภาพโครงสร้างรายชม.ส่งสัญญาณอ่อนตัว ทำให้มองว่าดัชนีมีโอกาสชะลอตัวเพื่อลงมาปิด Gap ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ โดยไม่ควรหลุด 1560 จุด เพื่อขยับขึ้นทำ High ได้ต่อ แนวรับ 1560-1565 จุด แนวต้าน 1574-1577 จุด
แกว่งตัวผันผวน
Support 1560 // 1550-1546 จุด Resistance 1590-1600 // 1619 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst เลขทะเบียน : 060110
Tel 02- 6481124 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(-) กลุ่มรับเหมาฯ - รฟท. : เสนอแก้ไขทีโออาร์สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง เปิดกว้างให้มีผู้เข้าประมูลมากขึ้น
(0) VNG : คาดกำไรสุทธิ 1Q17 ชะลอตัวชั่วคราว แต่จะกลับมาเด่นใน 2Q17
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
เมื่อผ่านช่วงยินดีต่อนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯไปแล้ว นักลงทุนก็กลับมาสนใจกับผลพวงเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งนี้ 14-15 มี.ค. และยังอาจไปเพิ่มจำนวนครั้งที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จากเดิมที่ 3 ครั้ง อีกด้วย
นโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นบวกต่อประเทศสหรัฐฯโดยตรง ประเทศอื่นได้แค่ผลบวกทางอ้อม แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ นั้นแม้จะสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจหรือ GDP กล่าวคือ ในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขยายตัว การเพิ่มดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ จะไม่ถูกมองในทางลบ (สำหรับประเทศนั้นๆ) แต่ประเทศอื่นๆ ที่อิงกับเงินลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินลงทุนเพื่อเก็งกำไร อาจถูกมองเป็นลบ เป็นเพราะ ดอกเบี้ยสหรัฐฯที่สูงขึ้น จะทำให้ความต้องการสินทรัพย์สกุลเงินสหรัฐฯ (พันธบัตร-หุ้น-เงินดอลล่าร์) มีความต้องการมากขึ้น เงินจะไหลออกจากสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ต่ำไปสู่สินทรัพย์ที่เป็นสกุลดอลล่ารมากขึ้น แต่ของไทย มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ เศรษฐกิจขยายตัวดี และผลประกอบการบริษัทในตลาดทหุ้นไทยที่ออกมาดี (ในเบื่องต้น กำไรบริษัทใน SET ปี 2559 ที่รวบรวมโดย KTBST ขยายตัว 32% ดีกว่าที่เราเคยคาดที่ 29%)
ค่าความน่าจะเป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เดือน มี.ค. ปรับขึ้นจาก 80% เป็น 90% ในคืนที่ผ่านมา ตอกย้ำว่านักลงทุนเชื่อมั่นว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้มากขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดที่ $52 เหรียญ จากตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินดลล่าร์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเวลานี้ ราคาสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมีขั้นต้น โลหะ และเกษตร(บางตัว) ดูจะเป็นบวกมากกว่าผู้ผลิตน้ำมันหรือโรงกลั่นน้ำมัน
ปัจจัยในประเทศ ผ่านช่วงของการรายงานผลประกอบการไปแล้ว ตลาดก็รอในเรื่องของการขึ้นเครื่องหมาย "XD" การเก็งในเรื่องงบจะลดลงเพราะราคาหุ้นจะตอบรับกันไปแล้ว ปัจจัยในประเทศที่จะมีผลมาก น่าจะเป็นเรื่องของ Fund Flow หรือเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ว่าจะปรับพอร์ตในไทยหรือไม่
ทิศทางตลาดหุ้น ด้วยโอกาสที่ Fed จะปรับดอกเบี้ยมีมากขึ้น ยังเป็นตัวถ่วงตลาดเพราะอาจเกิดการขายหรือปรับพอร์ตของนักลงทุนตามดอกเบี้ยและค่าเงินดออล่าร์สหรัฐฯ ภาพตลาดหุ้นวันนี้ เรามองในทางบวก แต่จะมีความผันผวนจากการทำ cover short และการขายหุ้นของนักลงทุนที่มีความกังวลในเรื่อง Fund Flow ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯบวกได้ก็ไม่มาก
กลยุทธ์การลงทุน การเข้าลงทุนของนักลงทุนวันนี้ น่าจะให้ความสนใจกับหุ้นที่มีปัจจัยบวก ทั้งจากนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ หุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงานยังดีและอิงกับภาวะเศรษฐกิจ เช่นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มส่งออกที่จะเริ่มพลิกกลับหลังเงินบาทอ่อนค่าลง .......... ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น TCAP , IVL , SVI , KSL , WICE , AMATA , LOXLEY , STA , PERM
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (02 มี.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,569.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด หรือ +0.18% มูลค่าการซื้อขาย 44,531.53 ล้านบาท ตลาดฯปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีผลบวกจากนโยบายทรัมป์
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 21,002.97 จุด ร่วงลง 112.58 จุด หรือ -0.53% โดยมีแรงกดดันจากกระแสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนส่งสัญญาฯดังกล่าว เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 ปิดลบ -0.02% แตะที่ 375.61 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ -2.3% ปิดที่ 52.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานจำนวนสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวลง 19,000 ราย สู่ระดับ 223,000 ราย
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - นักลงทุนจับตากล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งมีจะมีขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นางเยลเลนอาจจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กลุ่มรับเหมาฯ - รฟท. เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะกรรมการ รฟท.จะประชุมแก้ไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 สัญญา มูลค่า 1.36 แสนล้านบาท และจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อเปิดทางเอกชน 50 รายให้สามารถเข้าร่วมได้
กลุ่มสายการบิน - กระทรวงคมนาคมเผยคณะกรรมการการบินพลเรือนเห็นชอบให้สายการบินที่มีเส้นทางบินในประเทศปรับขึ้นราคาค่าโดยสารประมาณ 150 บาทต่อคนต่อเที่ยว เนื่องจากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน
นิคมฯ- สศอ.แย้มไทยมีศักยภาพในการลงทุน ส่งผลจากการผลักดันพื้นที่อีอีซี เผยเอกชนรายใหญ่ ปตท.-เอสซีจี แห่ลงทุนคาดภายใน 2 ปีเห็นผลเป็นรูปธรรม
News Release :
TRUE ไล่กวดDTAC มาร์เก็ตแชร์พุ่ง24.8% ผู้บริหารขายฝันผลงานปี60พลิกมีกำไร
+ "TRUE" ไล่บี้ DTAC หนัก ชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดมือถือพุ่ง 24.8% หายใจรดต้นคอ DTAC ที่ลดเหลือ 25.5% "ผู้บริหาร" ลั่นรายได้ให้บริการปี 60 โต 20% ลุ้นปีนี้พลิกมีกำไร โชว์ลูกค้าในมือโต 24.5 ล้านราย โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เป้าราคา 9.80 บาท(ข่าวหุ้น)
IFEC ตั้งบอร์ดใหม่สำเร็จจ่อเรียกประชุมสางปัญหา
0 "วิชัย" โชว์ตั้งบอร์ดใหม่ IFEC สำเร็จ หลังจดทะเบียนเปลี่ยนกรรมการใหม่ 7 รายเรียบร้อยแล้ว พร้อมร่อนหนังสือเรียกกรรมการชุดใหม่ทุกรายประชุมเร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกันแก้ไขปรับปรุงกิจการของบริษัทให้เจริญก้าวหน้าได้(ข่าวหุ้น)
TOP มั่นใจปีนี้โตไม่หยุด น้ำมันพุ่งมีลุ้นสต๊อกเกน
+ "ไทยออยล์" มั่นใจงบปี 60 เติบโตไม่หยุด ทั้งรายได้-กำไร บุ๊คผลตอบแทนโครงการ LABIX ควบโรงไฟฟ้า TOP SPP กำลังผลิต 239 MW เต็มปี ชี้ราคาน้ำมันขาขึ้น มีลุ้นบันทึกสต๊อกเกน (ข่าวหุ้น)
FN ลั่นปีนี้โต20% บุ๊คอยุธยาเต็มปีเปิดเพิ่ม2สาขา
0 "FN" มั่นใจรายได้ปี 60 โต 20% ดันอัตรากำไรสุทธิพุ่ง 15% บุ๊คสาขาอยุธยาเต็มปี แง้มไตรมาส 1/60 กำลังซื้อเริ่มกลับมา ทุ่มงบ 240 ล้านบาทลุยขยายเพิ่มอีก 2 สาขา โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เป้าราคา 10.20 บาท คาดปี 60 กำไรพุ่ง 209 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
'IRPC'ส่งซิกเทิร์นอะราวด์ จ่อบุ๊กโครงการUHVเต็มที่
+IRPC ส่งสัญญาณผลงานเทิร์นอะราวด์ จ่อบุ๊กรายได้โครงการ UHV-PPE และ PPC เข้าเต็มพิกัดพร้อมทุ่มงบลงทุนกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ขยายกำลังการผลิต ฟากโบรกส่งสัญญาณงบฟื้นตัวดี เชียร์ "ซื้อ" เข้าพอร์ต ส่องราคาเหมาะสมปี 2560 ไว้ที่ 5.80 บาท(ทันหุ้น)
PTTจับตารายได้ปีนี้แรง อัดฉีดงบ8.3หมื่นล้าน
+PTT คาดรายได้ปีนี้เติบโตดีกว่าปี 2559 ตามทิศทางราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แย้มมีลุ้นรับทรัพย์กำไรสต๊อกน้ำมัน ส่วนค่าการกลั่นคาดอยู่ที่ 6.3-7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทุ่มงบลงทุน 8.3 หมื่นล้านบาท ขยายท่อแก๊สเส้นที่ 5 และคลัง LNG เฟส 2 โบรกคาดกำไร Q1/2560 ฟื้นตัวโดดเด่น แนะ "ซื้อ" เป้า 430 บาท(ทันหุ้น)
'SE' ปั๊มกำไรก้าวกระโดดไฟเขียวปันผล 0.08 บาท
+SE ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโต 11% หลังปีก่อนทำรายได้รวม 434.31 ล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อย ไฟเขียวแจกปันผล 0.08 บาทต่อหุ้น ด้านผู้บริหารเร่งทำการตลาดเชิงรุกผลักดันยอดขายสินค้าอุตสาหกรรมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ในปีนี้ พร้อมเตรียมก่อสร้างศูนย์บริการวิศวกรรมใน Q2 หวังเพิ่มรายได้จากกลุ่มงานบริการในปีนี้ 40 ล้านบาท หนุนเป้ากำไรปี 60 โตก้าวกระโดด(ทันหุ้น)
SMT เด่นเข้าตาโบรกเร่งเครื่องขยายฐานคาดออเดอร์ล้นหลาม
+SMT กูรูส่งซิกปี 2560 พลิกฟื้นโดดเด่น หลังเดินเครื่องขยายฐานลูกค้า พร้อมรุกเดินหน้าผลิตสินค้าป้อนลูกค้าเพิ่ม นำโดย IC Packaging และ Wafer Dicing ให้มาร์จิ้นดีคาดออเดอร์ปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น 40% และ 50% ตามลำดับ(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์