- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 March 2017 17:35
- Hits: 1338
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาดเกิด Relief rally ก่อนไปลุ้นเฟดประชุม 14-15 มี.ค. พลังงานหนุนตลาดมีโอกาสฟื้นตัว แต่หุ้น EM ยังมีแนวโน้ม Underperform ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อหลังเฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น แต่ให้ระวัง de-rating ในหุ้นแพง ส่งท้ายปีเก่า 2559 ต้อนรับปีใหม่ 2560
คาดตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว หลังการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิปดีทรัมป์ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากนัก เป็นเพียงการพูดย้ำถึงนโยบายกว้างๆและแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าตอบรับ โดยเฉพาะเมื่อความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดปรับเพิ่ม ซึ่งแม้เป็นปัจจัยลบ แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดมีลุ้นเชิงบวกหากเงินจากตลาดพันธบัตรที่ถูกกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าหุ้น เลือกไหลกลับมายังตลาดหุ้นและสินทรัพย์ ซึ่งจะทำให้หุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคาร กลับมานำตลาด และหนุนการเก็งกำไรรายตัวในหุ้น อาทิ การเงิน เช่าซื้อ ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ เดินเรือ // หุ้นแนะนำวันนี้ SCB, BANPU, KBS เก็งกำไร TTA*, TK*
โอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยมี.ค.สูงขึ้น – ความน่าจะป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ รอบประชุม 14-15 มี.ค.60 ปรับสูงขึ้นเป็น 80% (จาก 52% วันก่อน และ 34% เมื่อสัปดาห์ก่อน) หลังคณะกรรมการเฟดหลายท่านพูดถึงการพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบในการประชุมรอบต่อไปอย่างจริงจัง ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ สะท้อนโดยแข็งค่าขึ้น โดยตลาดรอจับตาการกล่าวสุทรพจน์ของ ประธานเฟด เจเน็ต เยลเลน วันศุกร์นี้
โภคภัณฑ์– ราคาพลังงานลดลงเล็กน้อย ขณะที่โลหะมีค่าทรงตัว แต่สินค้าเกษตรมีทิศทางฟื้นตัวดี โดยปรับขึ้นราว 1-3% บวกต่อการเก็งกำไรหุ้นน้ำตาล ยาง และปิโตรเคมีบางตัว ส่วนค่าระวางเรือ (BDI) เพิ่มขึ้น 1.40% บวกเป็นวันที่ 10 ใน 11 วันทำการ
เงินเฟ้อ – ดัชนีราคาผู้บริโภค ก.พ.สูงขึ้น 1.44% YoY ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจก.พ.ปรับลดลงเล็กน้อยสู่ 49.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ 50.1 โดยหลักมาจากผู้ค้าปลีก เป็นผลจากการสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 3 มี.ค. –การแถลงของประธานเฟด (US) / 6 มี.ค. – SUPER-W3 ซื้อขายวันสุดท้าย / 14-15 มี.ค. – ประชุมเฟด / มี.ค. – ธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2560
คำแนะนำทางกลยุทธ์: แม้เรายังเห็นเงินทุนไหลออกจากการปรับพอร์ตของต่างชาติในภูมิภาค แต่มองตลาดมีโอกาสฟื้นทดสอบ 1570-1610 ก่อนเฟดประชุม 14-15 มี.ค. หลัง SET Index กลับมายืนเหนือ 1560 จุด เรามีมุมมองเชิงบวกระยะสั้นมากขึ้น และขอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นขึ้น 10% (เป็น 60% ) แต่ยังคงแนะนำระวัง de-rating ในหุ้นแพง (PER สูง) // สำหรับหุ้น top pick วันนี้ SCB, BANPU, KBS / เก็งกำไร TTA*, TK*
แนวรับ 1560/แนวต้าน : 1570-1580 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU
หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT*, JWD*, TSR* TU
กลุ่มการเงินที่ Valuation สมเหตุผล: SCB, TK*, S11*, AMNAH*, GCAP*
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%) คาดตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นหลังจากปรับลดลงแรงถึง 14 จุด จากการผลักดันของหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีแนวโน้มจะฟื้นตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามหุ้นในตลาดเกิดใหม่ (EM) ยังมีแนวโน้มจะปรับขึ้นได้น้อยกว่า หรือมีการเคลื่อนไหวที่ด้อยกว่า (Underperform)ตลาดพัฒนาแล้ว เนื่องจากค่าเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่ากดดันเงินทุนไหล ขณะที่ตลาดพัฒนาแล้วเงินทุนไหลเข้าจากเศรษฐกิจที่มีโอกาสได้ผลดีจากการฟื้นตัวของสหรัฐฯ มากกว่า โดยเรามองตลาดยังมีแรงผลักดันในหุ้นที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือกำลังจะผ่านจุดต่ำสุด อาทิ เช่าซื้อท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์เดินเรือ เป็นต้น// หุ้นแนะนำวันนี้ BANPU, KBS, TASCO / เก็งกำไร SQ, TTA*
โภคภัณฑ์–ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวจากคาดการณ์โอเปคสามารถดำเนินการปรับลดการผลิตได้ตามที่สัญญา ในขณะที่ราคาโลหะฟื้นตัวเล็กน้อย ส่วนสินค้าเกษตรฟื้นตัวดี นำโดยราคาน้ำตาลที่ดีดตัวขึ้นมากกว่า 2%/ ราคายางธรรมชาติ TOCOM ยังผันผวน / ดัชนี BDI ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยขึ้นอีก2% บวกต่อการเก็งกำไรกลุ่มเดินเรือ
กลุ่มการบิน –เริ่มมีปัจจัยบวกจากการที่ผู้ประกอบการเริ่มทยอยได้รับการรับรองมาตรฐาน นำโดย BA ได้ใบรับรองผู้ดำเนินอากาศ (AOC) ใหม่ 27 ก.พ.นี้ ส่วน AAV-THAI มี.ค. 60 โดยICAO จะเข้าตรวจสนามบิน 2 แห่ง "สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง" ตามโครงการ USAP ระหว่างวันที่ 13-21 ก.ค. 60
AOT– ธนารักษ์สรุปเบื้องต้น เก็บค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิเป็น 2 ส่วน พื้นที่กิจการบินคิดเท่าเดิม 5% แบบส่วนแบ่งรายได้ ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์คิด 3% ของมูลค่าทรัพย์สินหากสูงไปกว่าเดิม 1.5 พันล้านต่อปีต่อรองได้อีก ผอ. AOT คาดทุนเพิ่ม 300-400 ล้านบาท หากใช้ ROA โดยเริ่มพ.ย.60
JAS – ระมัดระวังแรงทำกำไร แม้การขายสินทรัพย์อาจทำให้มีกำไรก้อนใหญ่ และตามมาด้วยการประกาศจ่ายปันผลพิเศษได้ แต่คาดการดำเนินเกิดขึ้นช่วงปลายปี ขณะที่กำไรไตรมาส 1-2/60 คาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการไม่มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เช่นในปี 2559
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:28 ก.พ. – อาจมีการเปิดเผยแผนการลดภาษีในการแถลงต่อสภาคองเกรสของทรัมป์ (US)
คำแนะนำทางกลยุทธ์ :แกว่งตัวในกรอบ 1550-1580 และยังไม่กลับเป็นบวกหากไม่ผ่าน 1580 จุด ซึ่งในสถานการณ์ที่ดี ตลาดจะพักฐานในเชิงของเวลาทั้งนี้ความผันผวนของตลาดรวมเริ่มเพิ่มขึ้น ยังคงระวัง de-rating ในหุ้นแพง (PER สูง) การเข้าเก็งกำไร เลือกหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและไม่ไล่ราคา หรือหุ้นที่มีปัจจัยผลักดันเฉพาะตัวที่ชัดเจน// สำหรับหุ้น top pick วันนี้ BANPU, KBS, TASCO / เก็งกำไร SQ, TTA*
แนวรับ 1570/แนวต้าน : 1585จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นเด่นจากสัมมนา 21 ม.ค. – TU, MAJOR, PTTGC /เก็งกำไร VNG*, WHA*, JWD*, TSR*, TTA*
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%) เราประเมินหุ้นไทยยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องจากวานนี้ หลังเฟดมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้แข็งขึ้นมากนักและยังอยู่ในทิศทางอ่อนตัวเนื่องจากนักลงทุนที่ถือสถานะ long สุทธิใน USD ในระดับสูงมากอยู่แล้ว ทำให้ค่าเงินสหรัฐแข็งค่าในระยะสั้นได้ยาก เป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของโภคภัณฑ์ในภาพรวมกลยุทธ์เรายังขอเลือกเก็งกำไรรายตัว ในหุ้นที่ขึ้นไม่มาก หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเพื่อรอจังหวะสะสมหุ้นดีจากการแกว่งตัว//หุ้นแนะนำวันนี้ IVL, KBS/ เก็งกำไร SF*, TSR*, SGP*
ก.พ.มีแนวโน้มเสี่ยงพักฐานเพิ่มขึ้น: เนื่องจากความผันผวนในตลาดเงินจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกที่เร่งตัวขึ้น กดดันต่อความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะหากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนออกมาไม่ดี จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการปรับฐานของตลาดในช่วงหลังการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 (ก.พ.) อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองการลงทุนครึ่งปีแรกเป็นบวกและคงมุมมองตลาดมีโอกาสทดสอบเป้าหมาย 1640 จุด ในช่วงครึ่งแรกของปี
ระมัดระวังการเกิด de-rating: ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเตือนให้นักลงทุนระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ PER สูงและขึ้นมามาก เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่กลับมาและดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ส่วนชดเชยความเสี่ยง (risk premium) และอัตราคิดลด (discount rate) เพิ่มสูงขึ้น และกดดันอย่างมากต่อมูลค่าของหุ้นเติบโตที่ซื้อขายด้วย PER สูง โดยในภาวะเช่นนี้หุ้นใรเชิงมูลค่า หรือหุ้นที่มีการเติบโตกับความแพงในระดับราคาที่เหมาะสม จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า // ตัวอย่าง สัญญาณของ de-rating คือ SET Index ปรับขึ้นจาก 1504-1600 จุด (22 ธ.ค.-26 ม.ค.) แต่หุ้นอย่าง PTG, COM7, KCE, BLA, STPI, ROBINS, TRUE, BEAUTY, TKN, GL, CPALL กลับปรับตัวลดลง
เงินเฟ้อ:ม.ค. เพิ่มขึ้น 1.55% สูงสุดรอบ 28 เดือน สูงสุดรอบ 28 เดือน บวกต่อการขึ้นค่าน้ำของ EASTW
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:3 ก.พ.- การจ้างงานนอกภาคเกษตร สหรัฐฯ/ 10 ก.พ.- MSCI rebalancing
คำแนะนำทางกลยุทธ์ :มีโอกาสกลับขึ้นทดสอบ 1,585-1,600 แต่ยังคงระวัง de-rating ในหุ้นแพง (PER สูง) การเข้าเก็งกำไร เลือกหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและไม่ไล่ราคาหรือหุ้นที่มีปัจจัยผลักดันเฉพาะตัวที่ชัดเจน// สำหรับหุ้น top pick วันนี้IVL, KBS / เก็งกำไร SF*, TSR*, SGP*
แนวรับ/แนวต้าน : 1570/1585 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นเด่นจากสัมมนา 21 ม.ค. –TU, MAJOR, PTTGC/เก็งกำไร VNG*, WHA*, JWD*, TSR*, TTA*
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก: AMATA, WHA*, CCP*, EASTW*
หุ้น Laggard: JWD*, SCN*, BA*, WHA*, SCC, TU, EGCOและอสังหาฯ เช่น SPALI, PSH, AP
หุ้นพลังงานทดแทนที่น่าสนใจ: PSTC*, TSE*, CHOW*, TLUXE*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%) ในวาระส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก โปรดจงดลบันดาลให้ท่านนักลงทุนและครอบครัว พบแต่ความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัย และประสพความสำเร็จในการลงทุนสมดังที่ท่านตั้งใจทุกประการ
เราคาดดัชนีหุ้นไทยวันสุดท้ายยังแกว่งตัวบวกเล็กน้อยได้ ปริมาณการซื้อขายวานนี้อยู่ที่ 3.20 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิถึง 5,396 ล้านบาท และมีสถานะ Long สุทธิอีก 18,941 สัญญา ซึ่งคาดว่ามาจากการทำ Windows dressing เนื่องจากการปรับขึ้นมาจากการซื้อช่วงท้ายตลาดในหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นใหญ่อย่าง FTTHL ปิดปรับขึ้น 1.08% เหนือกว่า FSTHM และ FSTHS (หุ้นกลางและเล็ก) ที่ขึ้นเพียง 0.47% และ 0.82%ตลาดยังมีโอกาสซึมขึ้นจากเงิน LTF/RMF ที่เข้ามาและการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันอย่างไรก็ตาม เราประเมินโภคภัณฑ์ยังต้องเผชิญกับราคาที่อาจอ่อนตัวลงจากปัจจัยด้านฤดูกาลในช่วงม.ค.60อาจกดดันหุ้นไทยในช่วงต้นปีหน้า ทำให้ในเชิงกลยุทธ์เรามองหุ้นที่ยัง Laggard และมีปัจจัยผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59-1/60 แข็งแกร่ง น่าสนใจ รวมทั้งกลุ่มที่ใช้โภคภัณฑ์เป็นต้นทุนอย่าง รับเหมาและสายการบินฟื้นตัวในช่วงปลายปี-ต้นปี หุ้นแนะนำวันนี้ STEC,BDMS / เก็งกำไร BA*, TIP*, DTAC*, PSTC*
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:30 ธ.ค. –Chicago PMI, จำนวนแท่นขุดเจาะ(สหรัฐฯ)
คำแนะนำทางกลยุทธ์ :สำหรับผู้ต้องการใช้สิทธิ์ลดภาษี ซื้อ LTF/RMF เป็นวันสุดท้าย ทั้งนี้เรายังมองตลาดมีการแกว่งตัวลงบ้างในช่วง ม.ค.60 ซึ่งจะเป็นจุดซื้อที่ดี ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงจากการที่ตลาดแข็งแกร่งกว่าที่คาด ทำให้ในเชิงการเก็งกำไร เราขอเลือกหุ้นที่น่าจะทนกับการแกว่งได้หรือปัจจัยบวกเฉพาะตัว เน้นหุ้นที่ Laggard และทยอยสะสมหุ้นเด่นปี 2560 ซึ่งได้แก่ BANPU, PTTEP, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*// สำหรับหุ้น top pick วันนี้STEC,BDMS / เก็งกำไร BA*, TIP*, DTAC*, PSTC*
แนวรับ/แนวต้าน : 1530/1540-1550 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
การประมูลโครงการขนาดใหญ่ปีหน้า: STEC, SEAFCO*, PYLON*, UNIQ*, CK
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)
หุ้นแนะนำ
SCB (172) : Laggard play ในกลุ่มการเงิน ราคาที่ลดลงสะท้อนการเพิ่มขึ้นของ NPL ในไตรมาส 4/59 ไปแล้ว ขณะที่ภาระการตั้งสำรองในอนาคตน่าจะต่ำกว่าธนาคารใหญ่อื่น จากหนี้ SSI ถูกจัดชั้นพิเศษ ยังไม่ถูกรับรู้ในราคาหุ้น การจัดโครงสร้างธุรกิจประกันภัยเพิ่มความสามารถในการปล่อยกู้และทำธุรกิจ
BANPU (26) : รายงานกำไรไตรมาส 4/59 ที่ 1.5 พันล้าน ดีกว่าที่ตลาดคาด คาดกำไร 2560 เติบโตโดดเด่น อีกทั้งผลการดำเนินงานปัจจุบันผันผวนน้อยลงจากการมีธุรกิจไฟฟ้า (BPP)เป็นสัดส่วนถึง 35%และได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนจาก MSCIมีผลสิ้นก.พ.60 ช่วยจำกัดความเสี่ยงของหุ้น
KBS (15) : คาดผลประกอบการปี 2560 พลิกฟื้นกลับมากำไรอย่างโดดเด่น จากขาดทุนในปี 58-59 เนื่องจากราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้น 30%, การกลับมาดำเนินงานได้เต็มที่หลัง boiler ระเบิดไปในปีก่อน, กำไรจากเงินชดเชยการดำเนินงาน, กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าเติบโตดี และมี upside risk จากโรงหีบใหม่ปี 2561
TTA* (12) : แม้รายงานขาดทุนไตรมาส 4/59 แต่ค่าระวางเรือเข้าสู่ช่วง high season ขณะที่ราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 11.50 บาท อีกทั้งบริษัทยังมีเงินสดในมือรอการลงทุนอีกมาก
TK* (15) : ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้วจากการตั้งสำรอง ขณะที่ยอดการเช่าซื้อจักรยานยนต์เริ่มกลับเป็นบวก นอกจากนี้มีแผนเข้าสู่การปล่อยสินเชื่อที่กัมพูชาและอินโดนีเซียตามลำดับ
หุ้นที่มีประเด็นเก็งกำไร JWD*, ERW, SAWAD*, SF*, SQ, CPN*, DTC*
นักกลยุทธ์: กิจพล ไพรไพศาลกิจ Email: [email protected]