WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

จุดสนใจอยู่ที่คำปราศรัยของ Trump จนท. Fed จะขึ้นดอกเบี้ย
      คาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัว นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของ Trump วันนี้ 9:00 น. (เวลาประเทศไทย) ว่าจะมีรายละเอียดเรื่องการปฏิรูปภาษี การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและแก้กฎหมายให้เอื้อธุรกิจตามที่หาเสียงไว้อย่างไร อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นทั่วโลกถูกกดดันจากคำกล่าวของบรรดาผู้บริหาร Fed ที่ทั้งหมดต่างมองการขึ้นดอกเบี้ยในทันทีในเดือน มี.ค. ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ค่อนมาทางบวกในขณะที่ผู้ส่งสินค้าออกทางเรือยังคงมุมมองเป็นกลางต่อการส่งออกของไทยปีนี้จากนโยบายการค้าของ Trump แต่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน

หุ้นเด่นวันนี้ : TTA(ราคาปิด 9.75 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย IAA consensus 11.50 บาท)
     TTA เป็นหุ้นที่เราคาดหวังเห็นการฟื้นตัวในปีนี้ จากสัญญาณของการฟื้นตัวการค้าโลกที่เริ่มมาตั้งแต่ไตรมาส 4/59 ดังเห็นได้จากอัตราการเติบโตของการส่งออกและการนำเข้าของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึงประเทศไทยด้วย เชื่อว่าดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry lndex: BDl) ได้ผ่านจุดต่ำสุดและเป็นที่คาดว่าจะกลับขึ้นมาเป็นวงจรขาขึ้นนับจากปีนี้เป็นต้นไป การส่งออกในเอเชียจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันค่าระวางเรือขึ้น คือการที่จีนนำเข้าถ่านหินมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ หลังจากมีนโยบายลดการผลิตถ่านหินในประเทศลง เพื่อลดมลพิษในหลายเมืองของประเทศ เราประมาณการว่า BDl ใน 680 จุด เป็นระดับที่ทำให้ TTA ถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งในขณะนี้ BDl ขึ้นมาอยู่ระดับ 880 จุด ธุรกิจเดินเรือของ TTA คาดว่าจะเริ่มมีกำไรในปี 2560-2561

      ส่วนธุรกิจอื่น ได้แก่ บมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ ให้บริการด้านวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ และงานขุดเจาะ นอกชายฝั่งแก่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ คาดว่ามีการฟื้นตัวดีขึ้นจากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมาจากค่าเฉลี่ยปีก่อนที่ 43 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 55 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ในปัจจุบัน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายปุ๋ยในเวียดนาม ของ PMTA ซึ่งเป็น บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกำไรสุทธิปี 2559 ที่ 277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องตามการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมเกษตรในเวียดนาม ส่วนธุรกิจที่ยังมีผลขาดทุนถ่วงอยู่คือ ถ่านหินของ UMS ขาดทุนเพียง 58 ล้านบาทในปี 2559 ดังนั้น lAA Consensus คาดว่า TTA จะฟื้นจากขาดทุน 418 ล้านบาท ในปี 2559 มาเป็นกำไรสุทธิราว 550 ล้านบาท ในปี 2560 นอกจากนี้ TTA มีค่า P/BV เพียง 0.8 เท่า ซึ่งเมื่อพิจารณาเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น ที่มีสูงถึง 12,000 ล้านบาท หรือ 6.80 บาทต่อหุ้น เราเห็นว่า TTA น่าลงทุนเพื่อรองรับธุรกิจที่เริ่มเป็นขาขึ้น โดยราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ lAA Consensus อยู่ที่ 11.50 บาท เทียบเท่ากับค่า BV ของ TTA ล่าสุดที่ 11.50 บาท ทำให้ราคาปัจจุบันยังมี Upside 18% Price Pattern ของ TTA ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้นจากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยในระยะสั้น มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 11 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 13.40 บาท ทั้งนี้ TTA มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 9.55 บาท (Resistance: 9.80, 9.90, 9.95; Support: 9.70, 9.65, 9.55)

 

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ผู้ส่งออกคงคาดการณ์ส่งออกด้วยมุมมองเป็นกลาง สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย คงเป้าส่งออกปีนี้ไว้ที่เติบโต 2-3% ระบุว่ายอดส่งออกเดือน ม.ค. ที่สูงขึ้นเป็นเพราะตัวเลขฐานต่ำ ม.ค. ปีที่แล้วและราคาน้ำมันอยู่ระดับต่ำ สภาฯ กล่าวว่าการส่งออกของประเทศยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิดจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ดี สภาฯ คาดว่าส่งออกจะค่อยๆ ฟื้นตัวคาดโต 1-2% ในไตรมาสแรก กว่า 2% ในไตรมาส 2 และ 3-4% ในไตรมาส 3 (Bangkok Post)
กิจกรรมการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่อใน ม.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPl) เดือน ม.ค.60 เท่ากับ 109.89 เพิ่มขึ้น 3% MoM และ 1.3% YoY จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (+29.8% YoY) เหล็ก (+13.6% YoY) และผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม (+23.3% YoY) สศอ. คาดว่าปีนี้จะดีขึ้นจากภาคยานยนต์ การซื้อขายในโลกที่มากขึ้นและการเพิ่มขึ้นของการลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) (Bangkok Post)
ครม.อนุมัติหลักการลดภาษีเงินได้บุคลากรต่างชาติที่เข้ามาทำงานใน 10 อุตฯเป้าหมายใน EEC โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้โครงสร้างภาษีปัจจุบันที่เป็นอัตราก้าวหน้าหรือเลือกใช้อัตราภาษีคงที่ที่ระดับ 17% ของเงินได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน (Bangkok Post)
BDMS (ราคาปิด 20.10 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 32.00 บาท) รายงานกำไรปกติไตรมาส 4/59 ที่ 1.98 พันล้านบาท ลดลง 9.6% QoQ และ 3.5% YoY การลดลง QoQ เป็นไปตามผลของฤดูกาล ในขณะที่การลดลง YoY สาเหตุจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าแพทย์และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการปรับตัวขึ้นของค่าเสื่อมราคาจากโรงพยาบาลแห่งใหม่ นอกจากนี้ กำไรปกติปี 59 ของบริษัทอยู่ที่ 8.18 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% YoY (SET) ความเห็น: กำไรปี 59 ต่ำกว่าประมาณของเรา 8.5% แต่เป็นไปตามประมาณการของตลาด

 

ต่างประเทศ :
นักลงทุนทั่วโลกรอฟังประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส ในเวลา 9.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย / 21.00 น. ตามเวลาสหรัฐ / 2.00 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช) เกี่ยวกับการปฏิรูปภาษี การกระตุ้นการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภคและปรับปรุงกฎระเบียบที่ก่อผลเสียแก่ธุรกิจต่าง ๆ (Reuters)
ความเห็นสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กเผยว่าในกรณีที่ใช้นโยบายทางการเงินแบบตึงตัว เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำมากขึ้น นับแต่ทรัมป์ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่าเขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากมีการจ้างงานเต็มที่ ภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น และมีความเสี่ยงอัพไซด์จากแนวโน้มการปรับลดภาษี (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร จากการซื้อพันธบัตรในวันสิ้นเดือน ในขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนปธน.ทรัมป์แถลงต่อสภาคองเกรสในช่วงค่ำได้จำกัดการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ราคาพันธบัตรสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดเพิ่มขึ้น 8/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.972% จากที่ระดับ 2.985% เมื่อวันจันทร์ โดยที่อัตราผลตอบแทนแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 2.966% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเล็กน้อยเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันอังคาร ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาคองเกรส ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปิดลดลง 0.03% ที่ระดับ 101.10 โดยในเดือนก.พ. ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 1.6% (Reuters)

สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบต่อเมื่อวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลบหลังจากที่ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกัน 12 วันทำการก่อนการแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาคองเกรส นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรที่น่าผิดหวังจากทาร์เก็ต ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ฉุดตลาดลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีหลักทั้งสามปรับตัวขึ้นในเดือนก.พ. โด่ยดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 3.7% (Reuters)
ประมาณการ GDP ไตรมาส 4/59 ของสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ระดับ 1.9% จากประมาณการก่อนหน้า ต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 2.1% (Reuters)
เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาส 35% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเฟดระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค. เทียบกับเมื่อวันจันทร์ที่ 31% จากรายงานของ CME Group,s FedWatch (CME)
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.พ. พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.ค. 2001 จากผลสำรวจของ Conference Board ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 114.8 ในเดือนก.พ. หลังจากแตะระดับ 111.6 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าประมาณการตลาดที่ 111 (Reuters)
ทรัมป์มีแผนในการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค รวมทั้งด้านกลาโหมครั้งใหญ่ ก่อนการแถลงต่อสภาคองเกรส ประธานาธิบดีทรัมป์ได้พบกับผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ที่ทำเนียบขาวและกล่าวว่าเขามองว่าจะมีการใช้จ่ายในโครงการสาธารณูปโภคจำนวนมากและการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมมากกว่า 9% (Reuters)

ยุโรป :

ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเผ้ารอก่อนที่ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ โดยดัชนี STOXX 600 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.2% และปิดเดือนก.พ. ด้วยการปรับตัวสูงขึ้น 2.8% และเข้าไปใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนที่เคยทำได้ในช่วงระหว่างเดือน (Reuters)

เอเชีย :
ปธน. สี จิ้นผิง พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจจีนในเชิงคุณภาพและประสิทธิภาพ และลงลึกในการปฏิรูปในเชิงโครงสร้าง ภายใต้แนวทางของความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจภายใต้ความมีเสถียรภาพ (Reuters)
การขยายตัวในภาคบริการจีนชะลอลงเล็กน้อยในเดือนก.พ. โดยจีนรายงานดัชนี PMl ภาคการบริการเดือนก.พ. ออกมาอยู่ที่ระดับ 54.2 ลดลงจาก 54.6 ในเดือนก่อนหน้า แต่ยังสามารถยืนเหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะการขยายตัวอยู่ (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบร่วงกว่า 1% วันอังคาร แต่ยังซื้อขายในกรอบแคบเพราะความกังวลเกี่ยวกับสต็อกของสหรัฐที่ยังเพิ่มขึ้นก่อนที่ตัวเลขจะออกมากลบผลความร่วมมือระดับสูงของผู้ผลิตที่จะลดกำลังผลิต น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าส่งมอบ เม.ย. ลบ 64 เซนต์ ปิด 55.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐลบ 77 เซนต์ ปิด 53.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นวันอังคาร เพราะดอลลาร์สหรัฐอ่อนลงและตลาดการเงินรอฟังแผนเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Donald Trump ที่จะแถลงต่อสภาคองเกรส ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.4% ปิดที่ 1,257.19 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากวันก่อนขึ้นไป 1,263.80 ดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง (Reuters)

Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!