- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 March 2017 17:52
- Hits: 3605
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET อาจทรงตัวและมีบวกสลับ แต่สุดท้ายยังลุ้นปรับลงต่อ รอซื้อลบดีกว่า
ตลาดหุ้นวานนี้ : แม้ว่า SET จะพยายามแกว่งตัวด้านบวกทั้งวัน หลังจากอ่อนแอลงต่อเนื่องมาหลายวัน แต่ก็ขยับบวกได้ไม่มาก และในช่วงบ่ายก็ยังมีแรงขายกดดันให้ย้อนลงเหลือบวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แสดงถึงแรงซื้อในตลาดที่เริ่มแผ่วลงไปมาก ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการที่ยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่ม
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มมีแรงขายกดดันให้แกว่งตัวด้านลบ และปิดเป็นลบเล็กน้อย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ขยับบวกต่อเนื่องขึ้นมา 12 วันทำการ เพื่อลุ้นสุนทรพจน์ของ ปธน.สหรัฐต่อสภาคองเกรส ซึ่งจะมีขึ้นในเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดบวกเพื่อรอลุ้นสุนทรพจน์ของ ปธน.สหรัฐอยู่ ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งยังเปิดบวก แต่กรอบบวกก็ไม่ได้กว้างมากนัก เพราะยังถูกกดดันจากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มอ่อนแอลงอีกครั้ง ดังนั้น FSS จึงคาดว่า SET อาจแกว่งทรงตัวและมีจังหวะบวกอีกสักพัก เพื่อรอติดตามรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ แต่กรอบบวกน่าจะค่อนข้างจำกัด และสุดท้ายยังต้องระวังแรงขายกดดันให้อ่อนตัวลงต่ออีกมากกว่า
กลยุทธ์ : ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อในช่วงลบต่อไปดีกว่า
แนวรับ 1555-1552 , 1550-1546 จุด
แนวต้าน 1562-1565 , 1568-1572 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TCAP, SAWAD, TVO(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$21ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$58ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$32ล้าน และฟิลิปปินส์ US$15ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางผันผวนรอการกล่าวสุนทรพจน์ของทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในช่วงเช้าวันนี้ (9 โมงเช้าตามเวลาไทย) ตลาดคาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการปรับลดภาษี
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) มุมมองตลาดหุ้นเดือน มี.ค. ตลาดหุ้นครึ่งเดือนแรกจะถูกดดันจากความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed (ตลาดคาดความเป็นไปได้ 50% เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่มีโอกาส 35%) และนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ ขณะที่ผลประกอบการที่ออกมา หากไม่นับกลุ่มแบงก์ ถือว่าเป็นไปตามคาด ไม่มีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มประมาณการ การ Sell on fact ของหุ้นในเดือนก่อนจึงเปิด upside ไม่มากพอ (เมื่อเทียบกับ SET Target ที่ 1,650 จุด) ที่จะกลับเข้าไปซื้อใหม่ หุ้นปันผลจึงยังสร้างผลตอบแทนได้ดีต่อเนื่องจากเดือนก่อน หาก Fed ไม่ขึ้นดอกเบี้ย จะเป็น Positive surprise ที่ทำให้กระแสเงินทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาด EM อีกครั้ง เดือนนี้แนะนำ CK, CPF, GLOBAL, MINT, TU
(0) ผลประกอบการโดยรวมใกล้เคียงคาด กำไรของบริษัทใน FSS Coverage ที่ประกาศเกือบครบแล้ว ใกล้เคียงคาด หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติ 4Q16 +7% Q-Q, +13% Y-Y ทำให้กำไรปกติทั้งปี +8% Y-Y แต่กำไรสุทธิ +32% Y-Y หลักๆมาจากกลุ่มพลังงานที่มี stock gain จำนวนมากในไตรมาสสุดท้าย
(+) CK กำไรดีกว่าคาด แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากในหลายโครงการที่ต้องส่งมอบงาน แต่กำไรสุทธิ 4Q16 ยังทำได้ 342 ล้านบาท ใกล้เคียงระดับปกติของบริษัท +4% Q-Q และดีกว่า 4Q15 ที่ขาดทุน รวมทั้งดีกว่าเราและตลาดคาด น่าจะทำให้ความกังวลของตลาดหายไป และมองถึงศักยภาพในการได้งานใหม่ในอนาคต ขณะที่ Backlog และงานที่กำลังจะเซ็นสัญญามีร่วม 1 แสนล้านบาท รองรับรายได้ 2-3 ปีข้างหน้า เรายังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 40 บาท (ปรับลงเล็กน้อยตาม BEM ที่ปรับลงไปก่อนหน้า)
(+) FN กำไรดีกว่าคาด แม้เราจะคาดไว้ว่าสูงแล้วแต่กำไร 4Q16 ยังโตถึง 53% Q-Q, +193% Y-Y สาขาอยุธยาที่เพิ่งเปิดในเดือน พ.ย. ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เรายังคาดกำไรปีนี้ +43% Y-Y บนสมมติฐานการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 10.20 บาท
(-) TKN เราลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมถือ แม้ว่ากำไรปี 2016 จะดีกว่าคาด +97% Y-Y ทั้งที่ต้องเผชิญกับต้นทุนสาหร่ายปรับตัวสูงขึ้น และเราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 5% เป็นเติบโต 38% Y-Y (เดิมคาด +32% Y-Y) การเติบโตในปีนี้จะมาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มเท่าตัว Economy of scale ช่วยชดเชยต้นทุนสาหร่ายที่เพิ่มขึ้นได้ แต่ราคาหุ้นก็ยังมี PE แพงถึง 36 เท่า และแม้จะปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 27.5 บาทแต่หุ้นเต็มมูลค่าแล้ว
(-) TRUE แย่กว่าคาด ผลประกอบการ 4Q16 ขาดทุนหนักขึ้นเป็น 1,658 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษ ผลการดำเนินงานหลักขาดทุนถึง 3,418 ล้านบาทจากต้นทุนการขยายโครงข่ายและต้นทุนใบอนุญาตทั้ง 1800MHz และ 900MHz ชดเชยไม่ได้กับส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น ปรับประมาณการปีนี้ลงเป็นขาดทุน 1,701 ล้านบาท คาดเริ่มสร้างกำไรได้ปี 2018 ปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 8.50 บาทจาก 10 บาท คำแนะนำยังเป็นซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1 มี.ค. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
- จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ก.พ.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.พ.)
- สหรัฐ: Fed Beige Book
2 มี.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
3 มี.ค. - จีน:Caixin China PMI Composite (ก.พ.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)
7 มี.ค. - ยูโรโซน: 4Q16 GDP
8-มี.ค. - ญี่ปุ่น: 4Q16 GDP
- สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (ก.พ.)
9 มี.ค. - ฟิลิปปินส์:ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
10 มี.ค. - จีน:ดุลการค้า (ม.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยหลังจากที่บวกขึ้นติดต่อกัน 12 วันทำการ โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขานยก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของทรัปม์ต่อหน้าสภาคองเกรสในช่วงเช้าวันนี้
(0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดบวกได้เล็กน้อยโดยคาดหวังว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแผนการปรับลดภาษีของทรัมป์ในการกล่าวสุนทรพจน์เช้านี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตาเช้านี้คือการกล่าวสุนทรพจน์ของทรัมป์
(-) ค่าเงินบาทเริ่มมีการเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น โดยล่าสุดอ่อนค่าขึ้นมาเข้าใกล้ระดับ 35 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ขยับลง 0.04 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 54.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 4.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,253.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่บวกติดต่อกัน 3 วันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามตลาดยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของทรัมป์เช้านี้
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch