- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 February 2017 17:01
- Hits: 1719
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ยังคงซึมตัวลงเป็นวันที่ 3 ทดสอบแนว 1,555 จุด ทั้งนี้หุ้นเหล็กขนาดเล็กปรับตัวลงแรง เช่น PERM, AMC, BSBM เป็นต้น ขณะที่หุ้นหลักยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX เท่ากับ 1,558.03 จุด ลบ 6.56 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 37,148 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 707 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,110 ล้านบาท และ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 7 อีก 2,047 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• ติดตามถ้อยแถลงประธานาธิบดี Trump ต่อสภาคองเกรสคืนนี้
• การปรับดัชนี MSCI ณ ราคาปิดวันนี้
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของไทยบ่ายวันนี้
• นายกฯ ยกเลิก EIA – EHIA ของโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่
• วานนี้ เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดเอเชียเกิดใหม่ทุกตลาด แม้ว่าจะไม่หนาแน่นก็ตาม
• ตลาดประเมินโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15 มี.ค. แตะระดับ 50% แล้ว
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 22)
เราประเมิน Downside risk ของ SET INDEX จำกัดมากยิ่งขึ้น แนวรับ 1,550-1,555 จุดจะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง หลัง SET INDEX ปรับฐานเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 โอกาสเกิด Technical rebound แบบอ่อนๆ มีความเป็นไปได้ แต่ภาพรวมยังคงเป็นความอ่อนแอ ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงต่ำกว่า 4.0 หมื่นล้านบาท/วันวานนี้ แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานการลงทุนทั้งในแง่ของผลการดำเนินงาน ตัวเลขเศรษฐกิจ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม SET INDEX วันนี้ ณ ระดับปิดอาจมีความผิดปกติจากการปรับดัชนี MSCI Thailand ที่มีปรับน้ำหนักเพิ่ม – ลดลง เล็กน้อย แต่มูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง อาจทำให้ระดับปิดผิดปกติจากก่อนหน้า
สำหรับปัจจัยสำคัญคืนนี้ ถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสของ Trump เป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกรอฟัง โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระยะกลางถึงยาว
ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุน “ลดการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก และกลับมาทยอยสะสมหุ้น Big Cap ที่ผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 2559 หรือ 2H59 สูงกว่า 2%”
Daily Pick
1. สะสม HMPRO : ราคาปิด 9.75 บาท ราคาเหมาะสม 12.20 บาท
a) รายงานกำไรสุทธิ 4Q59 เติบโต +16% yoy และ +39% qoq เป็น 1,320 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท และดีกว่าคาดการณ์เกือบ 10% จากอัตรากำไรที่ดีกว่าคาด โดยอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 26.2% ใน 4Q59 จาก 25.7% ใน 4Q58 จากกลยุทธ์ปรับ Product Mix เพิ่มสัดส่วนสินค้า Private Band มากขึ้น
b) ทิศทางผลประกอบการ 1Q60 คาดเติบโตต่อเนื่อง yoy จาก SSSG ที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคบริโภคในประเทศ และอานิสงค์จากมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมบ้านจากผลกระทบของน้ำท่วมภาคใต้ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2559 – 31 พ.ค.2560
c) ประกาศเงินปันผล 2H59 หุ้นละ 0.15 บาทขึ้น XD วันที่ 12 เม.ย. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.5% และผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาดเชื่อว่าจะส่งผลให้ราคาหุ้นกลับมา Outperform ตลาด หลัง YTD ราคาหุ้น HMPRO -4.4% เทียบกับ SET INDEX +1.0%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$41 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$65 ล้าน
เป็นการขายสุทธิทุกตลาด
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) 2560(US$ ล้าน) 2559(US$ ล้าน) 2558(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน)
TAIEX n.a -67.7 3,072.2 10,956.4
3,383.6 13,190.4
KOSPI n.a 15.3 1,576.6 -21.5 -3,579.9 6,165.50
JSE -14.9 -25.0 -142.0 1,258.7 -1,579.5 3,750.60
PSE -2.6 1.1 -82.3 83.4 -1,194.4 1,256.1
VEX -2.7 3.0 51.4 -344.7 100.4 135.6
SET INDEX -20.3 8.1 103.3 2,240.5 -4,371.9 -1,091.4
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไร้ทิศทาง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -707 +284
SET50 Index Futures (สัญญา) -2,049 -398
SSF (สัญญา) -1,328 +1,043
Metal Futures (สัญญา) +415 +2,181
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -1,110 +1,619
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพียง 707 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,260 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 3,788 ล้านบาท
แต่ SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนึ้ยังคง Short สุทธิเป็นวันที่ 7 เร่งขึ้นเป็น 2,049 สัญญา รวม 7 วันทำการ Short สุทธิ 15,453 สัญญา คาดเป็นการทยอยเปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง และทำให้ยอดสุทธิ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 55,422 สัญญา โดย S50H17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 0.56 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 6.81 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,110 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,871 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.06bps จากวันก่อนหน้าลดลง 1.81bps ปิดที่ 2.727%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 405 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 871 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 52 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 55 หลักทรัพย์
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Value Avg.Price(Bt)
ADVANC 65.95 6.15% 169.83
SCB 54.12 7.89% 152.18
BANPU 50.02 6.45% 19.60
PTT 47.87 4.91% 398.92
AAV 27.25 12.57% 6.09
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ ลดน้ำหนักกลุ่มอาหารและค้าปลีกเป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 825 ล้านบาท จาก 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,877 ล้านบาท โดย NVDR กลับมาลดน้ำหนักกลุ่มอาหารสูงสุด 257 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีก 143 ล้านบาท และกลุ่ม ICT 112 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิกลุ่มชิ้นส่วนฯ สูงสุดเพียง 39 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
TISCO 148.54 27.41 KBANK -161.95 31.55
PTTEP 118.17 18.73 CPF -138.04 24.28
SCB 70.39 17.35 ADVANC -132.17 13.53
TASCO 58.05 8.71 SPRC -121.93 40.41
BCP 44.96 40.61 AOT -107.43 19.24
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450 Krittapol Itthithumsakul
Assistant Analyst
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong