- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 February 2017 18:15
- Hits: 3498
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีจังหวะอ่อนตัว"
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้แรงขายกลับมากดตลาดอีกครั้ง นำโดยกลุ่มแบงค์ใหญ่ และพลังงาน (PTTEP, PTT) หลังมองว่าแบงค์ใหญ่ยังต้องเผชิญความเสี่ยงเรื่อง NPL และราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นได้ช้าก็กดดันบริษัทผลิตและสำรวจก๊าซ & น้ำมัน ขึ้น ปิดตลาด SET Index ลดลง 4.72 จุดที่ 1567.32 อย่างไรก็ดี สถาบันในประเทศเริ่มซื้อสุทธิมาก สำหรับปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ ได้แก่
+ สหรัฐ : ทรัมป์ยืนยันกับผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่สหรัฐอย่างน้อย 20 แห่งที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่าจะเดินหน้าลดภาษีทั้งภาคธุรกิจและบุคคลธรรมดา (เน้นชนชั้นกลาง) ด้านดอกเบี้ย คาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นในการประชุม 14-15 มี.ค.นี้
+ WORK : ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลที่มี Rating อันดับ 3 ที่ 1.49% ในเดือนม.ค.60 (เพิ่มจาก 0.85% ในปี 58) บริษัทพยายามเพิ่มรายการให้ตรงกับลูกค้าในทุกเพศทุกวัย คาดกำไรปีนี้ +139% จาก Ad Rate ที่ +20% เป็น 6 หมื่นบาท/นาที, Rating ดีขึ้น
+ CPALL : คาดปี 60 จะมีสาขาเพิ่มแตะ 1 หมื่นแห่ง (สิ้นปี 59 อยู่ที่ 9,542 แห่ง) ส่วนของ MAKRO มี 106 แห่งในสิ้นปี 59 บริษัทยังเน้นบริหารมาร์จิ้นด้วยการปรับ Product Mixed & ขยายบริการที่ให้กำไรสูง
+ HANA : 4Q59 มีสัญญาณที่ดีขึ้น กำไรเติบโต YoY ได้เล็กน้อยจากที่หดตัวใน 3 ไตรมาสแรก แนวโน้มปี 60 แข็งแกร่งจากเซมิคอนดัคเตอร์โลกฟื้นตัว คาดกำไรสุทธิจะเติบโตแกร่ง +22% ในปีนี้ (จาก -13% ในปี 59) ยังคงคำแนะนำซื้อ ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 50 บาท
จัดพอร์ตบนความสมดุลของ Risk & Return (แบ่งเป็น 3 หมวด : หุ้นปันผล, หุ้นมั่นคง และหุ้นเติบโต) และทำ Re-balancing ต่อเนื่อง ทั้งนี้หุ้นไทยปี 60 น่าจะผันผวนขึ้นหลังปรับขึ้นมากในปีก่อน หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานดีที่แนะนำวันนี้เป็น HANA
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพเป็นลบ เน้นซื้ออ่อนตัว แนวรับ 1560-1550 จุด กรณีรีบาวด์มีแนวต้าน 1570-1585, 1590 จุด
สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ SYNEX, BPP, PERM, BSBM ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ PACE, DTAC, HANA สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะ Take Profit คือ TISCO, TRC, AMATA, KKP, PAP, INOX, ROBINS หุ้นหลุด List -ไม่มี-
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
สหรัฐ : คาดเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มิ.ย.นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.60 เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. ซึ่งเฟดมีความระมัดระวังที่จะระบุถึงกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปพอสมควร
ตลาดหุ้นสหรัฐ : บวกลบในกรอบแคบ
ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ให้คำมั่นกับบรรดาผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่กว่า 20 แห่งของสหรัฐที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมหารือที่ทำเนียบขาวว่าเขาจะนำการจ้างงานหลายล้านตำแหน่งกลับสู่สหรัฐ ด้านนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่าเขาจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค.60 ปิดตลาดดัชนี DJIA อยู่ที่ 20,810.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,835.51 จุด ลดลง 25.12 จุด หรือ -0.43% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,363.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด หรือ +0.04%
+ สัญญาน้ำมันดิบ : เพิ่มขึ้นกว่า 1%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 54.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 56.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม 0.564 แสนบาร์เรลเป็น 518.7 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเพิ่มน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้
+ สัญญาทองคำ : พุ่งขึ้นแรง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 18.1 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ระดับ 1,251.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกลางมี.ค.นี้
ปัจจัยในประเทศ :
LHBANK (ราคาปิด 1.77 บาท) : ยังเดินหน้าแผนร่วมทุนธนาคารไต้หวัน
ผู้บริหาร LHBANK กล่าวว่าแผนดำเนินการเข้าร่วมทุนกับ CTBC Bank ของไต้หวันยังเดินหน้าต่อ โดย CTBC จะเข้ามาถือหุ้นธนาคาร 35.61% ขณะนี้อยู่ระหว่างรอทางการไต้หวันอนุมัติ หลังจากนั้นก็ส่งเรื่องให้ทางธปท.อนุมัติ ซึ่งยังไม่มีกำหนดเวลา สำหรับปี 60 LHBANK ตั้งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อ 6-10% (สิ้นปี 59 มีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 1.5 แสนล้านบาท) และจะขยายธุรกิจนอกกลุ่มมากขึ้น ด้าน NPL จะคุมไว้ไม่เกิน 2% (สิ้นปี 59 อยู่ที่ 1.7%) โดยอาจมีการขายหนี้เสียออกไปบางส่วน
ณ สิ้นปี 59 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2.7 พันล้านบาท เติบโต 63%YoY มีสินทรัพย์ 2.1 แสนล้านบาทและมีส่วนของผู้ถือหุ้น 2.0 หมื่นล้านบาท คิดเป็น BVS 1.49 บาท/หุ้น ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ Trailing P/E 9 เท่าและ P/BV 1.2 เท่า ราคาเป้าหมายเฉลี่ยใน IAA Consensus 1.95 บาท (คำแนะนำซื้อ-3 ราย, แนะนำขาย-2 ราย)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]