- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 February 2017 17:46
- Hits: 1328
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ จิตวิทยาภายนอกยังไม่ดีนัก
KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์/ลดลงในกรอบจำกัด กลัวเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว + แผนลดภาษีสหรัฐฯ อาจใช้เวลามากกว่าเดิม ยังถ่วงจิตวิทยาหุ้นเอเชีย ทั้งนี้แม้ค่าเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อคืนนี้ แต่ในระยะนี้ตลาดการเงินให้น้ำหนักค่อนข้างมากกับสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ ซึ่งล่าสุดให้โอกาส 52% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ค. (วานนี้ให้โอกาสที่ 50%) ด้าน รมว.คลังสหรัฐฯ คนใหม่ สตีเวน นูชิน ให้สัมภาษณ์ว่าแผนภาษีของสหรัฐฯ ทั้งหมดน่าจะเรียบร้อยภายในเดือน ส.ค. 2560 ซึ่งเป็นข่าวบวกในช่วงพื้นฐานเศรษฐกิจและกำไรของ บจ. สหรัฐฯ แต่ถือว่าช้ากว่าที่ตลาดคาดหวังไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 2/2560 อย่างไรก็ดีมองความเสี่ยงทางลงของ SET มีจำกัด หนุนโดยเงินปันผลระหว่างกาลของหุ้นตัวหลักๆ ด้านผลประกอบการไตรมาส 4/2559 ขณะที่ออกมาแล้ว 75 ตัวจาก KGI Universe ทั้งหมด 98 ตัว ทั้งนี้หากตัวที่เหลือเป็นไปตามที่เราประเมิน กำไรสุทธิปี 2559 จะเติบโตเด่น 29.9% ในปี 2559 ก่อนชะลอตัวสู่ 6.4% ในปี 2560
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร CPN*, COM7*, TASCO*
CPN* (เป้าพื้นฐาน 77 บาท) 1) รูปแบบราคาดีดขึ้นมาเหนือแนว 55.25 บาทได้ ประเมินมีโอกาสดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน 56.5 บาท และถัดไปที่ 58.25 บาท ตามลำดับ แนวรับ 55 บาท (Stop loss 53.75 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 4Q59 = 1.4 พันล้านบาท (+26.2% YoY) จากการใช้พื้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ยอดขายและอัตรากำไรโต ... อ่านรายละเอียดเพิ่มในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันที่ 11 ม.ค.
COM7* (เป้า Consensus 14.6 บาท) 1) รายงานกำไร 4Q59 ทำนิวไฮ และมากกว่า Consensus คาด 11% (ขณะที่คู่แข่งค้าปลีกอย่าง IT ขาดทุน และ SPVI กำไรไม่โต คาดโดน COM7 แย่งส่วนแบ่งตลาดฯชัดเจน) และ Consensus คาดผลการดำเนินงานปีนี้โตต่ออีก +45% YoY เพราะ i) ซื้อสินค้าตรงจาก Apple เต็มปี ii) รับรู้ผลการเป็นพันธมิตรกับ TRUE* เต็มปี iii) รับรู้ผลการเข้าซื้อกิจการ BKK999 เต็มปี 2) การปรับ Payout ratio ขึ้นเป็น 74% จากปีก่อนที่ 67% ของกำไรสุทธิ (นโยบาย ≥40%) เป็นการส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคต (ตามทฤษฎี Dividend Signaling) 3) Valuation ไม่แพง เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไร +29.5% ต่อปี CAGR (2559 - 2561) คิดเป็น PEG 1.2 เท่า ถูกกว่ากลุ่มค้าปลีกที่ PEG > 2 เท่า (กลุ่มค้าปลีก มีความเสี่ยงธุรกิจต่ำ + กระแสเงินสดแข็งแกร่ง + ROE สูง ทำให้ PE มักจะพรีเมี่ยมตลาดฯ) 4) ประเมินแนวรับ 11.8 บาท แนวต้านแรก 12.3 บาท และถัดไปที่ ±13 บาท (Stop loss 11.4 บาท)
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 32.5 บาท) 1) ยืนเหนือแนวราคา 25.5 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” โดยประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 27 บาท และถัดไปที่ 30 บาท เป็นจุดขายทำกำไร แนวรับ 25.5 บาท (Stop loss 24.1 บาท) 2) วานนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานปรับประมาณการฯขึ้น สะท้อนแนวโน้มราคายางมะตอยที่ฟื้นตัว จากอุปสงส์ที่แข็งแกร่ง ทั้งในและต่างประเทศ ... อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์วานนี้เพิ่มเติม
หุ้นในกระแส
UKEM + GIFT: กองทุน Templeton ซื้อหุ้น GIFT 2.6% (8 ล้านหุ้น) จาก UKEM เราประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น GIFT ที่มีกองทุนต่างชาติเข้าลงทุน และเป็นบวกต่อ UKEM (คาดรับรู้เงินสดจากการขายเงินลงทุน) แนะนำ “เก็งกำไร” GIFT แนวรับ 5.6 บาท หากวันนี้ผ่านแนวราคา 6.1 บาท มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.5 บาท (Stop loss 5.25 บาท) และ UKEM แนวรับ 2.0 บาท แนวต้าน 2.14 บาท และ 2.23 บาท (Stop loss 1.9 บาท)
กลุ่มรับเหมาฯ (STEC*, CK*, UNIQ*) นายกฯ ใช้ ม 44 ปลดบอร์ด ฟรท และ ผู้ว่า รฟท คาดเป็น Sentiment บวกต่อการประมูลโครงการภาครัฐฯต่างๆที่อาจจะเดินหน้าเร็วขึ้น (คล้ายกรณี อินเตอร์เนตประชารัฐฯ) แนะนำ “เก็งกำไร” STEC* และ CK*
รายงานผลประกอบการ 4Q59 ที่ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์
1) BANPU* (แนะนำ “ซื้อ” / เป้าพื้นฐาน 22.5 บาท) กำไร 4Q59 = 1.6 พันล้านบาท (Trunaround YoY, +2,191% QoQ) ดีกว่าคาด 105%
2) BPP (แนะนำ “ถือ” / เป้าพื้นฐาน 25 บาท) กำไร 4Q59 = 1.1 พันล้านบาท (+3.9% YoY, +124% QoQ) ดีกว่าคาด 44%
3) AP* (แนะนำ “ซื้อ” / เป้าพื้นฐาน 9.9 บาท) กำไร 4Q59 = 1.26 พันล้านบาท (+30.5% YoY, +76.3% QoQ) ตามคาด
4) CPALL* (แนะนำ “ซื้อ” / เป้าพื้นฐาน 75 บาท) กำไร 4Q59 = 4.3 พันล้านบาท (+10.9% YoY, +4.5% QoQ) ตามคาด
5) MALEE* (แนะนำ “ซื้อ” / เป้าพื้นฐาน 151 บาท) กำไร 4Q59 = 115 ล้านบาท (+10% YoY, -29% QoQ) ตามคาด
6) BA* (แนะนำ “ซื้อ” / เป้าพื้นฐาน 30.2 บาท) รายงานผลขาดทุน = 320 ล้านบาท ใน 4Q59 แย่กว่าคาด
หุ้นมีข่าว
(+ กลุ่มรับเหมาฯ) เด้ง'วุฒิชาติ'เซ่นงานล่าช้างัดม.44 ตั้งบอร์ดการรถไฟฯเพิ่มเป็น 9 คน (กรุงเทพธุรกิจ) เผยเกิดความไม่ไว้ใจ หลัง"รถไฟทางคู่-ไฮสปีดเทรน"ช้า นายกฯใช้ม.44 ปลดผู้ว่าการร.ฟ.ท. พร้อมตั้งบอร์ดใหม่ครบ 9 คน เผยสาเหตุจากความล่าช้า-ไม่ไว้วางใจ โครงการทางคู่-รถไฟความเร็วสูง ขณะ "อาคม" มั่นใจ กำกับดูแลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
(+) ดิเอราวัณลุยควัก 9,100 ล.ผุดโรงแรม (โพสต์ทูเดย์) ดิเอราวัณเดินหน้าขยายโรงแรมถึงปี 2563 งบ 9,100 ล้าน ระดับกลางถึงบน เผยยังเน้นแนวพระราม 1-สุขุมวิท นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมปีนี้ถึงปี 2563 บริษัทจะลงทุน 9,100 ล้านบาท ตามแผน 5 ปีที่วางไว้ จะลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งปีที่ผ่านมาลงทุนไปแล้ว 900 ล้านบาท สำหรับปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 2,200 ล้านบาท ส่วนปี 2561-2663 จะใช้ 6,900 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้โรงแรมปีนี้โต 10%
(+) COM7* จ่อสรุปดีลซื้อกิจการ โกยยอดขายสาขาสนุกมือ (ทันหุ้น) COM7 รับทรัพย์ยอดขายเดิมพุ่งกระฉูด ชูสมาร์ทโฟน-โน้ตบุ๊ก สินค้าเรือธงทำเงิน มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 1.7 หมื่นล้านบาท มองผลงานไตรมาส 1/2560 ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนจากยอดขายสาขาเดิมที่โตขึ้นกว่า 10% เผยอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ คาดสรุปชัดเจนในช่วงครึ่งแรกปีนี้
(+) WIIK ปันผล 20 สต.หลังกำไรโต 61%ดัน "วิค วอเตอร์" เข้าจดทะเบียนในตลาด (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) วิค แอนด์ ฮุคลันด์ ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 20 สตางค์ หลังผลงานปี 59 กำไรโต 60.54% เดินหน้าดัน "วิค วอเตอร์" เข้าจดทะเบียนในตลาด ระดมทุนเพื่อการขยายงาน
(+) “มาร์ค โมเบียส”บิ๊กล็อต เก็บหุ้น WHA* เพิ่มอีก 3.2% (ข่าวหุ้น) “WHA” เนื้อหอม “มาร์ค โมเบียส” ส่งกองทุนเทมเพิลตันเข้าซื้อบิ๊กล็อตเพิ่มอีก 485 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3.2% ในราคาหุ้นละ 2.80 บาท มองธุรกิจสดใสรับอานิสงส์ EEC ส่วนงบปี 59 แจ่ม! โชว์กำไรสุทธิ 2,898 ล้านบาท โตทะลัก 48%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
STEC* (เป้าพื้นฐาน 35.25 บาท) ประเมินหากผ่านแนวต้าน 27.25 บาทได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 28 – 29 บาท แนวรับ 26.5 บาท (Stop loss 26 บาท) ... อุตสาหกรรมรับเหมาฯเป็นขาขึ้น + ร่วม JV ลงทุนโรงไฟฟ้า Solar farm 155MW ที่ประเทศญี่ปุ่นกับ TSE (STEC ถือหุ้นตามสัดส่วน 46%)
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop ที่ 73 บาท
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) แนะนำ “Let profit run” มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 65 บาท แนวรับ 61 บาท (Stop loss 58 บาท)
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) แนะนำ “สะสม” บริเวณแนวรับ ±2 บาท (Stop loss 1.92 บาท) … ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 จะอ่อนแอเป็นไตรมาสสุดท้าย (อยู่ระหว่างการย้ายเครื่องจักรจากไทยไปเวียดนาม และจะเริ่มการผลิตใน 1H60) และกำไรปี 2560 จะฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q60 กลับมาเติบโตระดับ 33% ต่อปี CAGR 2559 – 2562 ทำให้ PEG ตอนนี้ต่ำเพียง 0.75 เท่า (อิง Based EPS 2559)
SQ (เป้า Consensus 6.05 บาท) สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อตามที่เราแนะนำ พิจารณาขายทำกำไรที่แนวต้าน 5.2 – 5.3 บาท
TMT (เป้าพื้นฐาน 20 บาท) ประเมินกรอบแนวรับ – แนวต้าน 17.5 – 19.7 บาท แนะนำ “เก็งกำไรในกรอบฯ” ... ประกาศปันผล 1.5 บาท/หุ้น (Dividend yield 8.1%) ขึ้น XD วันที่ 3 มี.ค.
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 19.2 – 20 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) แนะนำ “ถือ” แต่หากต่ำกว่า 176 บาท แนะนำ “ขายล๊อกกำไร”
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
CBG* แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 69 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน Valuation ยังคงสูง ด้วย PE ปี 2560 = 39.2 เท่า เทียบกับอัตราการเติบโตช่วง 1 – 2 ปีนี้ เฉลี่ยที่ 18% ต่อปี โดยประเมินปัจจัยเสี่ยงยังคงอยู่ที่การขยายตลาดในจีนและยุโรปจะยังสร้างผลขาดทุนในปี 2560 - 61
GLOW* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 88 บาท ภาพโดยรวมของการประชุมนักวิเคราะห์ของ GLOW อยู่ในเชิงกลางๆ การต่ออายุสัญญาเฟสที่ 2 ของ Glow Energy ยังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในขณะเดียวกัน เมื่อดูจากสถิติในปี 2559 แล้ว อัตราการจ่ายไฟฟ้าของ GIPP ให้กับ กฟผ. ก็มีแนวโน้มจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป อย่างไรก็ตามคาดว่า GLOW จะคงจ่ายเงินปันผลในปี FY60 ในระดับที่สูงต่อเนื่อง (คาด Dividend yield 7.3% ต่อปี)
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- กรอบราคา 1564 – 1572 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1572 จุดได้นั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นในกรอบ 1572-1589 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1564 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1564-1552 จุด
แนวรับวันนี้: 1564/1554 แนวต้านวันนี้: 1572/1582
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]