- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 February 2017 09:02
- Hits: 6203
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Short term rebound
วันนี้คาดดัชนีฯ Short term rebound กรอบ 1,562-1,579 จุด อิงตลาดเกิดใหม่เช้านี้รีบาวด์ จากผ่อนคลายวิตก หลังรายงานประชุมเฟดเมื่อวานนี้ นักเศรษฐศาสตร์ ส่วนใหญ่ใน Bloomberg มีมุมมองไม่ต่างไปจากถ้อยแถลงเฟดต่อสภาฯเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยคาดโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ย วันที่ 15 มีค. อยู่ที่ 34% และมองโอกาสน่าจะขึ้น 3 พค. หรือ 14 มิย. มากกว่าโดยให้น้ำหนัก 61.8% และ 76.1% ตามลำดับ ขณะที่ บจ.ไทย ทยอยประกาศปันผลหลังงบออก คาดช่วยจำกัด Downside risk ของตลาดหุ้นไทย
ระยะสัปดาห์ คงคาดดัชนีฯจะมี Upside จำกัด หลังจากการปรับฐานผิดคาด เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยสัปดาห์นี้คาดกรอบ 1,560-1,600 จุด และคงแนะนำ Investment theme หลักรอบนี้ ได้แก่ หุ้น Reflation (เน้น หุ้นปันผลสูง) ส่วนหุ้นกลาง-เล็ก แนะเลือกรายตัวเน้นหุ้น Events play และ หุ้นที่มี Earning upwards revisionm
จากความผันผวนของตลาดหุ้นเกิดใหม่และไทยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Upside ดัชนีฯ ในระยะสัปดาห์คาดว่าจะเริ่มจำกัด อิงจากข่าวปันผลและงบหุ้นบูลชิพใหญ่หลายตัวรอบนี้ ทยอยประกาศไปแล้ว เหลือแค่งบและปันผลของ หุ้นกลาง-เล็ก ที่คาดมีอิทธิพลจำกัดต่อดัชนีฯ ขณะที่การ Rotation หรือหมุนกลุ่มเล่น คาดว่าจะไม่สามารถผลักดันดัชนีฯในรอบนี้ให้ขึ้นไปได้ไกล ดังนั้นจากแนวโน้ม Upside ดัชนีฯที่จำกัด เราคาดว่าหุ้นปันผลสูง หุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นหนุน เช่น Events play กระแสข่าว M&A, การปรับประมาณการณ์กำไรขึ้น เป็นต้น จะ Outperform ตลาดในระยะสัปดาห์
คาดกรอบดัชนีฯ ระยะเดือน 1,550-1,620 จุด แนะเลือกลงทุน ไปที่หุ้นที่ ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง จากเงินปันผลปี 2016 (หักระหว่างกาลแล้ว) สูงกว่า 4% ขึ้นไป ดูรายงานกลยุทธ์หุ้นปันผลวันที่ 30 มค.17
หุ้นแนะนำวันนี้TSE แนวรับ ต้าน Stop loss เราอยู่ระหว่างการทบทวนมูลค่าเหมาะสมขึ้น (DCF) จากการได้ PPA โรงไฟฟ้าโซลาร์ญี่ปุ่นโดยร่วมลงทุนกับ STEC กำลังการผลิตไฟ 155MW ซึ่งคิดเป็นเพิ่มเป็นเท่าตัวจากปัจจุบัน / COM7 แนวรับ ต้าน Stop loss แจ้งปันผล 0.25 บ. สูงเกินคาด จากกำไรที่เติบโตสูงกว่าคาดโดยกำไรปี 2016 อยู่ที่ 407 ลบ. (จากปี 2015 269 ลบ.) ดูรายงานวันนี้
รายงานวันนี้
(+) COM7 บริษัทประกาศกำไร 4Q16 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 146 ล้านบาท เติบโต 35%YoY และ 62%QoQ กำไรออกมาสูงกว่าที่เราและตลาดคาดราว 10% เพราะยอดขายเติบโตมากกว่าคาด และอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่าคาดภาพรวมปี 2016 บริษัทมีกำไรที่ 407 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดถึง 51% จากปี 2015 ที่ มุมมองกำไร 1Q17 จะเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง YoY และยังมีปัจจัยหนุนจากกระแสข่าวการเปิดตัว iPhone และ iPad Pro รุ่นใหม่ในช่วงเดือน มี.ค. นี้ เราคงคาดกำไรปี 2017 ที่ 592 ล้านบาท เติบโตราว 45% คำแนะนำ {ซื้อ| ราคาเป้าหมาย 14.50 บาท พร้อมกันนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาท/หุ้น (XD วันที่ 25/4/2017)
(-) SC กำไรหลัก 4Q16 ที่ 224 ล้านบาท ลดลง 70% YoY และ 35% QoQ. กำไรต่ำกว่าคาด 8% เพราะรายได้ต่ำกว่าคาด สำหรับ 1Q17 คาดกำไรจะหดตัว YoY เพราะฐานกำไรที่สูงใน 1Q16 เราคาดกำไรปี 2017 จะลดลงเพราะรายได้โอนคอนโดคาดลดลง และมาร์จิ้นคาดหดตัวลง อย่างไรก็ดีบริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.19 บาท/หุ้น คิดเป็น yield สูง 5% เราคงคำแนะนำ ถือ
(+) SAMTEL รายงานกำไร 4Q16 ที่ 39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% YoY และ 32% QoQ หากตัดรายการพิเศษออก กำไรหลักอยู่ที่ 44 ล้านบาท ลดลง 44% YoY แต่เพิ่มขึ้น 59% QoQ กำไร 4Q16 ส่งสัญญาณว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q16 โดยในไตรมาสนี้ อัตรากำไรขั้นต้นเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 15 บาท
(+) RS รายงานขาดทุนสุทธิที่ 63 ล้านบาทใน 4Q16 พลิกกลับมาเป็นขาดทุน YoY และทรงตัว QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ ขาดทุนหลักอยู่ที่ 155 ล้านบาท พลิกกลับมาเป็นขาดทุน YoY และ ขาดทุนมากขึ้น 193% QoQ บริษัทประกาศแจกวอแรนต์ (RS-W3) ไม่เกิน 193 ล้านหน่วย ในสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอแรนต์ ราคาใช้สิทธิ์ 12.50 บาท อายุ 3 ปี XD วันที่ 19 เม.ย. เราเชื่อว่าภาพรวมของธุรกิจเสริมความงามและดิจิตอลทีวีจะดูดีขึ้น ซึ่งธุรกิจเสริมความงามคาดจะกลับมาสร้างการเติบโตอีกครั้งหลังจากบริษัทปรับกลยุทธ์มาเน้นช่องทางการจัดจำหน่ายแบบเดิม (การขายผ่านทางโทรศัพท์) อีกทั้งดิจิตอลทีวีมีโอกาสฟื้นตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาดิจิตอลทีวีในเดือน ธ.ค และ ต่อเนื่องมาถึง ม.ค. รวมถึงระดับของเรตติ้งช่อง 8 ที่กลับมาสู่ปกติ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 10.40 บาท
(+) TRC รายงานกำไร 4Q16 ที่ 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% YoY และ 90% QoQ ดีกว่าเราคาดราว 30% เพราะอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ สูงถึง 28% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทที่ราว 15-20% เพราะบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าคาด เรามีแนวโน้มทบทวนประมาณการกำไร
(+) BEM รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 592 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 947% YoY แต่ลดลง 27% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักอยู่ที่ 561 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY แต่ลดลง 31% QoQ ผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาด 15% และต่ำกว่าตลาดคาด 24% จากดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าคาด เรามองว่ากำไรหลักใน 1Q17 จะเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ จากจำนวนผู้ใช้ที่มากขึ้นทั้งทางด่วนและ MRT ประกอบกับการรับรู้รายได้ของสายสีม่วง ซึ่งจากข้อมูลในอดีตจำนวนผู้ใช้โดยเฉลี่ยของทางด่วนและระบบขนส่งมวลชนจะเพิ่มขึ้น 1% และ 2% QoQ ตามลำดับ ราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมาราว 8% หลังจากเราปรับลดคำแนะนำ ครั้งก่อน เราเชื่อว่าราคา ณ จุดนี้เป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนอีกครั้ง (PEG 0.8 เท่า ต่ำกว่าภูมิภาคที่ 2 เท่า) เราปรับเพิ่มคำแนะนำ จาก ถือ เป็น ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท
(-) CBG รายงานกำไร 4Q16 ที่ 282 ล้านบาท ลดลง 2% YoY และ 36% QoQ ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาด 34% จากขาดทุนที่มากกว่าขาดในฝั่งการดำเนินงานที่ UK เรายังคงประมาณการไว้ เพื่อรอข้อมูลเพิ่มเติมจากกาปรระชุมนักวิเคราะห์ช่วงบ่ายของวันนี้ เรายังมองว่า CBG ยังเทรดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพง PER 39 เท่า เทียบกับการเติบโตที่ 16% ยังคงคำแนะนำ ขาย ราคาเป้าหมาย 64 บาท
(-) DCC เราปรับคำแนะนำลง เป็น ขาย จาก ถือ ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 4 บาท (จาก 4.6 บาท) จากกำไร 4Q16 ที่ต่ำกว่าเราคาด 18% เรามีการปรับปรมาณการกำไรปี 2017 ลง 8% (ปรับรายได้ลง 2% จากปริมาณการขายที่ชะลอตัวและราคาขายที่ทรงตัว และปรับ NM ลง 1.4% จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของต้นทุนพลังงานและการขนส่ง) บริษัทยังประกาศอัตราจ่ายเงินปันผลที่ 77% ซึ่งน้อยกว่าที่เราคาดไว้ที่ 80% หนุนให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลลงมาที่ 3.8% เราเชื่อว่าจุดที่น่าสนใจคือ ณ ระดับราคาที่ต่ำกว่า 4 บาท ซึ่งคิดเป็นอัตราเงินปันผลราว 4.3%
(+) GFPT รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY แต่ลดลง 1% QoQ กำไรที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาจากยอดส่งออกที่ปรับตัวได้ดีและต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ต่ำ กำไรที่ออกมาสูงกว่าที่เราคาด 17% เราเชื่อว่าจากราคาไก่ที่ฟื้นตัว (34 บาท/กก. เป็น 38 บาท/กก.) หลังเทศกาลตรุษจีน, ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นและราคาวัตถุดิบที่ยังต่ำจะช่วยหนุนผลประกอบการใน 1Q17 เราอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการกำไรปี 2017 ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) CHG RJH BCH พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข่าวรัฐบาลเตรียมล้มเลิกโครงการบัตรทอง โดยในปีงบประมาณ 2561 กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นจำนวนเงิน 128,533 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3,197.32 ต่อหัวประชากร เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2560 จำนวน 87.75 บาทต่อหัว ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2-3 ปีนี้ (ที่มา อินโฟเควส)
(+) ADVANC TRUE DTAC และกลุ่มขายอุปกรณ์ COM7 SYNEX เลขา กสทช. เปิดเผยว่า จะเร่งประมูลคลื่น 2600MHz ปีนี้ โดยคาดผ่าน พรบ.ใหม่เดือน มีค.-เมย. และเปิดประมูล เดือน ธค. ปีนี้ (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(0) พฤหัส ประชุมธนาคารกลาง เกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25%, ไต้หวัน Industrial production มค. คาด +1.6% จาก6.3% (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ US new home sale มค. คาด 5.75k จาก 5.36k. US U of M Consumer sentiment กพ. คาด 96 จาก 95.7, Singapore Industrial production มค. คาด 8.1 จาก 21.3% (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
Technical Analysis
ROBINS
Position: ซื้อ
เป้าหมาย: 65-66
Stop loss: < 60.5
Reason: ส่งสัญญาณแข็งแกร่งมากกว่าตลาด ขณะที่ค่า MACD เส้น signal line ขึ้น คล้ายรูปแบบในอดีตและเหนือเส้น 0 บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง
ASEFA
Position: ซื้อ
เป้าหมาย: 9
Stop loss: < 8.1
Reason: เรามองหาตำแหน่งการกลับตัวภายหลังจากราคาหุ้นปรับตัวลง มากกว่า 10% จากจุดยอด โดยพบสัญญาณกลับตัวจากเส้นค่าเฉลี่ย Golden cross และ MACD > 0
MONO
Position: ซื้อ
เป้าหมาย: 4.1-4.2
Stop loss: < 3.7
Reason: ปัจจุบันพบว่าหุ้นปรับตัวขึ้นทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่เครื่องมือ Stochastic ส่งสัญญาณบวก หนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 เดือน
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค