- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 February 2017 08:52
- Hits: 1707
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (23/02/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “เคลื่อนไหวในกรอบเก็งผลประกอบการ”
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แม้แกว่งตัวในกรอบ แต่ยังยืนแดนบวกได้เป็นส่วนใหญ่จากแรงซื้อกลุ่ม Big Cap นำโดยกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี, ขนส่ง และค้าปลีกท่ามกลางประกาศงบฯ และการจ่ายปันผล ขณะที่ต่างประเทศตลาดยังรอติดตามนโยบายภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตลอดจนรายงาน Fed Minutes รอบประชุมเดือน ม.ค. 60 หลังเฟดมีมุมมองบวกต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หนุนดัชนีปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.62 จุด (+0.49%) มาอยู่ที่ 1,572.04 จุด ด้วย Vol. 44,893 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวมีทั้งบวกและลบโดยดาวโจนส์ +32.6 จุด (0.16%) แต่ S&P500 -2.56 จุด (0.11%) และ Nasdaq -5.32 จุด (0.09%) ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป DAX +0.26% CAC40 +0.15% และ FTSE +0.38%
(+)ยอดขายบ้านมือสองเดือน ม.ค. +3.3%MoM สูงสุดตั้งแต่เดือน ก.พ.50
(+)ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีเดือน ก.พ. อยู่ที่ 111.0 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 109.7 จุดและสูงกว่าเดือน ม.ค.ที่อยู่ที่ 109.9 จุด
(+) ค่าเงิน US Dollar Index เช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ที่ 101.40 (+0.1%)
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน วานนี้ +4%Day มาอยู่ที่ 806 จุด เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ TTA, PSL
(+)บอร์ด AOT อนุมัติแผนขยาย 6 ท่าอากาศยานระยะ 10 ปี (59-68) รองรับโดยสาร 200 ล้านคน
(+)ยอดผลิตรถยนต์เดือน ม.ค. +12%MoM และ +3%YoY
(-) FED เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินว่าเจ้าหน้านที่ FED ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและสมควรปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในเร็วๆนี้ โดยบางส่วนให้ความเห็นว่าควรปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป (14-15 มี.ค.) ทันที
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -1.4% มาอยู่ที่ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสหรัฐฯผลิตน้ำมันจาก Shale Oil มากขึ้น รวมถึงมีการคาดหมายว่าสหรัฐฯจะมี สต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล
(-) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้ลดลงไปกว่า 4%Day มาอยู่ที่ 316.5 Yen/Kg.
(-) ส.อ.ท.รายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมประเทศไทยเดือน ม.ค. อยู่ที่ 87.2 ลดลงจาก 88.5 ในเดือน ธ.ค. ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
(+/-) สินเชื่อรวมธนาคารไทยเดือน ม.ค. -0.7%MoM แต่ +1.3%YoY TMB โตมากที่สุด +1.5%MoM และ 5.1%YoY ด้าน KTB ลดลงมากที่สุด -7.7%YoY
(+/-) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันนี้ CPALL,TICON,BANPU,BEC,AP
(+/-) ราคาถ่านหินปรับลดลง -0.2% มาอยู่ที่ 83.70 US/Tons
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
อยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการ 4Q59/งบปี 59 (สิ้นสุด~สิ้นเดือน ก.พ.)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (23 ก.พ.) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.(23 ก.พ.)
กลยุทธ์การลงทุน 'เน้นรายตัว'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวลดลง จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงสร้างแรงขายในกลุ่มพลังงานกดดัน เราแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัวจากราคา commodity ที่โดดเด่น เช่นราคา LPG และราคายางมะตอยที่ปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงต้นไตรมาส 1Q60 เรายังคงมีมุมมองระมัดระวังในทิศทางของตลาด โดยยังมองว่าตลาดมีปัจจัยหนุนจำกัด และจะถูกกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี่ยของสหรัฐ สำหรับกลุ่มที่ลงทุนระยะกลาง เราแนะนำทยอยสะสมกลุ่มนิคมฯ
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TASCO เก็งกำไร
ราคา Asphalt ในประเทศจีนปรับตัวขึ้น 39.73% นับจาก 24/11/59 มาที่ระดับ 2,768 หยวนต่อตัน คาดไตรมาส 1Q60 เติบโตต่อเนื่องจาก 4Q59
ปี 60 งบประมาณการลงทุนในถนนของกรมทางหลวง เพิ่มขึ้น 12%YoY โดยคิดเป็นระยะทางของถนนลาดยางมะตอย เพิ่มขึ้น 2.9% YoY
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ PER 12.99X เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี +1SD ที่14.3X
SGP เก็งกำไร
รายงานผลประกอบการ 4Q59 โดดเด่นที่ 899 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 9M59 ที่ 220 ล้านบาท
ได้ปัจจัยบวกจากราคา Propane +17%MoM และ Butane +21% MoM
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ PER 12.64 และ PBV 1.29 เท่า
ทีมวิเคราะห์