WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน                                      

                                                                                                                       

แม้ SET จะมีบวกสลับ แต่ยังมีแนวโน้มแกว่งลงต่อได้อีก จึงยังเน้นซื้อลบ                                                                                                                    

                                                                                                                                                           

  ตลาดหุ้นวานนี้ : ถึงแม้ว่า SET จะสามารถรีบาวด์กลับมาแกว่งบวกและปิดสิ้นวันได้ดีขึ้นอีกครั้ง หลังจากปรับตัวลงค่อนข้างแรงในวันก่อนหน้า แต่กรอบบวกก็ยังค่อนข้างจำกัด และมีแรงขายช่วงบวกคอยกดดันให้ผันผวนตลอด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน โดยนักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามรายงานการประชุมของเฟดที่จะออกมาในช่วงค่ำของวานนี้ว่าจะมีสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หรือไม่                                                                                                                                                      

  แนวโน้มตลาดวันนี้ : แม้ว่าเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะยังปิดเป็นบวกและทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 9 แล้ว แต่ก็มีลักษณะแกว่งตัวผันผวนตลอดทั้งวัน โดยปิดเป็นบวกแคบๆ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวเป็นบวก-ลบไม่กว้างนัก แม้ว่าจะมีข่าวบวกจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีขยับสูงกว่าคาด แต่นักลงทุนบางส่วนยังรอดูรายงานการประชุมของเฟดอยู่ ซึ่งจากรายงานการประชุมพบว่าเจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และเห็นสมควรที่จะให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยการประชุมเฟดครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 14-15 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ทำให้มีแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้พอควร ซึ่ง FSS ก็คาดว่า SET ยังมีโอกาสแกว่งปรับตัวลงอีกครั้ง ก่อนกลับไปขยับขึ้นจริงจังในช่วงถัดไปมากกว่าเช่นกัน                                                                                                                                                    

  กลยุทธ์ : เราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วงลบต่อไป โดยไม่ต้องรีบซื้อช่วงบวก จากนั้นเน้นถือเพื่อรอลุ้นเป้าหมายตามพื้นฐานในช่วงถัดไป                                                                                                                                                             

  แนวรับ  1570-1565 , 1562-1558 จุด                                                                                                                                                       

  แนวต้าน  1574-1577 , 1580-1583 จุด                                                                                                                                                    

  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SQ, BIZ, SGP(short)                                                                                                                                                

  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$531ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$421ล้าน ไต้หวัน US$99ล้าน และไทย US$26ล้าน ขณะที่ไหลออกจากฟิลิปปินส์ US$20ล้าน แนวโน้มเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอตัวเนื่องจากความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก Fed กลับมาอีกครั้ง หลังการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ได้ระบุว่าเจ้าหน้าที่ Fed เห็นว่าควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานและเงินเฟ้อดีกว่าที่คาดการณ์                                                                                                                                                    

                                                                                                                                                               

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น                                                                                         

(-) ตลาดกังวลดอกเบี้ยปรับขึ้น เจ้าหน้าที่ Fed หลายรายระบุควรขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ (การประชุมครั้งถัดไป 14-15 มี.ค., 3-4 พ.ค., 14-15 มิ.ย.) แต่ความกังวลกับนโยบายทรัมป์กลับกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่า เราเชื่อว่า SET Index กระทบจำกัด เห็นได้จากการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed 2 ครั้งที่ผ่านมาคือ ธ.ค. 2015 SET ปรับลง 3 วันรวม 3.7% ส่วน ธ.ค. 2016 SET ปรับลง 3 วันรวม 1%                                                                                                                                                      

(+) GFPT กำไรสุทธิ 4Q16 ทำได้ดีแม้เป็น Low Season โดย -1% Q-Q, +9% Y-Y จากปริมาณขายไก่ส่งออกที่ทำจุดสูงสุดใหม่ ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี +37.6% Y-Y เราคาดกำไรปี 2017 +2.5% Y-Y โตชะลอลงเพราะแนวโน้มราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้นและเพราฐานสูงในปีก่อน แต่เรายังมองบวกต่อการเติบโตของปริมาณไก่ส่งออก น่าจะหนุนราคาไก่ให้ปรับขึ้นในระยะถัดไป ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 18.30 บาท                                                                                                                                                 

(+) MTLS เราปรับราคาพื้นฐานขึ้นอีกครั้งเป็น 36 บาทจากเดิม 34 บาท จากการปรับลดสมมติฐานค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลงเป็น 48% จากเดิม 50% เพราะการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้จะเริ่มชะลอลงเหลือ 600 สาขา หลังจากบริษัทมีถึง 1,600 สาขาแล้วซึ่งจะเริ่มเห็น economy of scale มากขึ้น ซึ่งทำให้คาดกำไรปีนี้ +48% Y-Y ยังคงคำแนะนำซื้อ                                                                                                                                                          

(+) IT ผลประกอบการ 4Q16 พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 9 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายปรับปรุงสาขาและเปิดสาขาใหม่ การตัดจำหน่ายซอฟแวร์และตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี -31% Y-Y แต่กำไรปกติ +27% Y-Y ฟื้นต่อเนื่องปีที่ 2 เราคาดกำไรปีนี้โตต่อ +267% Y-Y จากการลดขนาดสาขา ใช้พื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ รุกขายมือถือร่วมกับ Mobile Operator เราแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 4.70 บาทมีโอกาสปรับขึ้น ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นซื้อคืน โดย IT ประกาศซื้อหุ้นคืน 65 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.00 บาท 8-19 พ.ค.นี้                                                                                                                                                  

(0) BEM แม้กำไรสุทธิ 4Q16 จะต่ำกว่าคาด -26.8% Q-Q แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 2017 ซึ่งรับอานิสงส์จากการเดินรถสายสีม่วง และทางด่วนศรีรัชรอบนอกเต็มปี และยังแนะนำซื้อ ยังคงราคาพื้นฐาน 10.50 บาท                                                                                                                                                             

(+) MGT เป็นผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่ใช้เป็นส่วนเติม (additive) ในส่วนประกอบหลัก เพื่อทำปฏิกิริยาเคมีให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆโดยเฉพาะยานยนต์และอสังหาริมทรัพย์ การแข่งขันไม่รุนแรง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวในระดับสูงกว่า 25% แม้กำไรสุทธิปี 2016 คาด -33% Y-Y จากการปรับโครงสร้างองค์กร แต่คาดปี 2017-18 จะกลับมาโตเฉลี่ย 45% ต่อปี ตามการเติบโตของธุรกิจยานยนต์และอสังหาฯ เพิ่มสินค้า และขยายตลาด เราประเมินราคาพื้นฐาน 2.70 บาท (PE 20 เท่า) (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ MGT)                                                                                                                                                 

(0) กลุ่มยานยนต์ผ่านจุดต่ำสุดแต่ยังไม่ฟื้นมากนักในปีนี้ เราปรับน้ำหนักการลงทุนเพิ่มเป็น Neutral จากเดิม Underweight เพราะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ตลาดส่งออกยังน่าห่วง ในกลุ่มมีเพียง SAT และ EPG ที่แนะนำ                                                                                                                                                             

                                                                                                                                                               

ปัจจัยที่ต้องติดตาม                                                                                                        

23-ก.พ.  - ไทย: MGTเทรดวันแรก (ราคา IPO 1.89บาท)                                                 

                - เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม                                                                                                                                           

27 ก.พ.   - ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.),ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ม.ค.)                                                

                - สหรัฐ:คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.)                                                                                                                                    

28 ก.พ.   - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ม.ค.                                                                                                                                  

                - สหรัฐ:4Q16 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 2) (ตลาดคาด +2.1%), ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส                                                                                                                                    

                - ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)                                                                                                                                             

1 มี.ค.     - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)                                                                                                   

                - จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ก.พ.)                                                

                - ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.พ.)                                                                   

                - สหรัฐ: Fed Beige Book                                                                                                                                   

2 มี.ค.     - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)                                                                                                                                              

3 มี.ค.     - จีน:Caixin China PMI Composite (ก.พ.)                                                                                       

                - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)                                                                                                                                        

                                                                                                                                                               

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสมหลังจากมีการเปิดเผยรายงานการประชุม FED ที่ระบุว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็วๆนี้ โดย DJIA ยังสามารถทำจุดสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 9                                                                                                                                                             

(0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดค่อนข้างทรงตัวโดยตอบรับกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมา ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด                                                                                                                                                             

(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดค่อนมาในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นที่ปรับตัวผสม หลัง FED เปิดเผยรายงานการประชุมและส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้                                                                                                                                                    

(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวออกข้างบริเวณ 35 บาท/ดอลลาร์บวกลบ                                                                                                                                                       

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 0.74 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยลดลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังมีคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะปรับตัวเพิ่มขึ้น                                                                                                                                                  

ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 5.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,233.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายและจับตาดูรายงานการประชุม FED ที่ประกาศออกมาหลังตลาดปิดทำการไปแล้ว                                                                                                                                                           

                                                                                                                                                               

Contact person : Somchai Anektaweepon    Register : 002265                                                                                                                                                               

Tel: 02-646-9967, 02-646-9852                       www.fnsyrus.com                                                                                                                                                

FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch                                                                                                                                                                                       

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!