- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 February 2017 18:07
- Hits: 2517
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
ซื้อหุ้นปันผลสูง เน้นตัวที่กำลังจะประกาศ
วันนี้คาดดัชนีฯ ผันผวน ในกรอบ 1,560/1,550 -1,570/1,573 จุด หลังจากลงหลุดแนวรับ 1,570 จุด
เมื่อวานนี้ และเราอัพเดทระหว่างวันโดยแนะนำให้ เริ่มกระชับพอร์ตหุ้นที่เราแนะนำไปก่อนหน้า ซึ่งจาก
ความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้น และ เรามอง Upside ตลาดมีจำกัด... คาดหุ้น Low Beta จะเป็นกลุ่ม
ที่กองทุนฯ เริ่มหมุนเงินมาพัก (โรงไฟฟ้า, ประปา, โรงพยาบาล, ทางด่วน รถไฟฟ้า) และมีโอกาส
Outperform ตลาด และ แนะนำหุ้น High yield stocks ที่กำลังจะประกาศปันผลเร็วๆนี้ คาดเป็น
ทางเลือกที่ดีของนักลงทุน/กองทุน ในช่วงเวลาที่ ตลาดมีความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้น
ระยะสัปดาห์ คงคาดดัชนีฯจะมี Upside จำกัด หลังจากการปรับฐานผิดคาด เมื่อสัปดาห์ก่อน โดย
สัปดาห์นี้คาดกรอบ 1,560-1,600 จุด และคงแนะนำ Investment theme หลักรอบนี้ ได้แก่ หุ้น
Reflation (เน้น หุ้นปันผลสูง) ส่วนหุ้นกลาง-เล็ก แนะเลือกรายตัวเน้นหุ้น Events play และ หุ้นที่มี
Earning upwards revision…
จากความผันผวนของตลาดหุ้นเกิดใหม่และไทยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Upside ดัชนีฯ ในระยะสัปดาห์คาดว่า
จะเริ่มจำกัด อิงจากข่าวปันผลและงบหุ้นบูลชิพใหญ่หลายตัวรอบนี้ ทยอยประกาศไปแล้ว เหลือแค่งบ
และปันผลของ หุ้นกลาง-เล็ก ที่คาดมีอิทธิพลจำกัดต่อดัชนีฯ ขณะที่การ Rotation หรือหมุนกลุ่มเล่น
คาดว่าจะไม่สามารถผลักดันดัชนีฯในรอบนี้ให้ขึ้นไปได้ไกล ดังนั้นจากแนวโน้ม Upside ดัชนีฯที่จำกัด
เราคาดว่าหุ้นปันผลสูง หุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นหนุน เช่น Events play กระแสข่าว M&A, การ
ปรับประมาณการณ์กำไรขึ้น เป็นต้น จะ Outperform ตลาดในระยะสัปดาห์
คาดกรอบดัชนีฯ ระยะเดือน 1,550-1,620 จุด แนะเลือกลงทุน ไปที่หุ้นที่ ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง
จากเงินปันผลปี 2016 (หักระหว่างกาลแล้ว) สูงกว่า 4% ขึ้นไป ดูรายงานกลยุทธ์หุ้นปันผลวันที่ 30
มค.17
หุ้นแนะนำวันนี้ หุ้นที่กำลัง จะประกาศปันผลระหว่างกาล ให้ผลตอบแทนเกิน 4%: SC (รับ 3.74 ต้าน
3.9/4 Stop loss 3.7) คาดวันนี้จะประกาศปันผลระหว่างกาล 0.19 บ./หุ้น, AP รับ 7.25 ต้าน 7.75
Stop loss 7.2 (คาดประกาศ DPS พรุ่งนี้ 0.31 บ.) / SIRI รับ 1.94 ต้าน 2.04 บ Stop loss 1.90 บ.
คาดประกาศสัปดาห์หน้า DPS 0.08 บ./หุ้น / GLOW รับ 77.5 บ ต้าน 80 บ. Stop loss 77 บ. เพิ่ง
ประกาศปันผล 4.29 บ. คิดเป็นผลตอบแทน 5.5% ตามคาด
รายงานวันนี้
(+) AOT จากข่าว เผยธนารักษ์ฯเปลี่ยนวิธีเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุพื้นที่ Non-Aero ในสุวรรณภูมิเป็น
ROA ไม่เกิน 3% ต่อปี เช่น ในพื้นที่ของ Duty Free พื้นที่เชิงพาณิชย์อื่นๆ ให้มีรูปแบบการจ่ายค่าเช่า
แบบผลตอบแทนเปรียบเทียบกับมูลค่าทรัพย์สิน (ROA) ไม่เกิน 3% หรือคิดเป็นภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ประมาณไม่เกิน 300-400 ล้านบาทต่อปี สำหรับพื้นที่ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน(AERO) กว่า 200,000
ตารางเมตร ยังคงรูปแบบการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ที่ 5% เช่นเดิม และไม่มีการ
ปรับเพิ่มขึ้นเหมือนที่มีกระแสก่อนหน้านี้ / เราคิดว่าข่าวดังกล่าวจะเป็น positive sentiment ต่อราคา
หุ้น เนื่องจากตลาดน่าจะคลายความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการดำเนินงานที่อาจเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากก่อน
หน้านี้ และภาระต้นทุนส่วนเพิ่มคิดเป็นเพียง 1% ของกำไรต่อปีของบริษัทเท่านั้น เรายังคงคำแนะนำ
"ซื้อ" (ราคาเป้าหมาย 49 บาท)
(0) SPALI กำไรหลัก 4Q16 ออกมาที่ 1.2 พันล้านบาท ลดลง 17% YoY แต่เพิ่มขึ้น 42% QoQ
เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด มุมมอง 1Q17 คาดกำไรจะทรงตัว YoY เพราะใน 1Q16 มีอานิสงค์จาก
มาตรการรัฐหนุน เราคงคาดกำไรของบริษัทจะเติบโตได้ดี 15% และ 12% เป็น 5.6 และ 6.3 พันล้าน
บาท จาก backlog ที่มีสูงถึง 55% และ 38% ในปี 2017-18 ตามลำดับ เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคา
เป้าหมาย 30 บาท
(0) ERW กำไรหลัก 4Q16 ออกมาที่ 101 ล้านบาท ลดลง 1%YoY แต่เพิ่มขึ้น 80%QoQ ผลประกยอ
การเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้ม 1Q17 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด QoQ และคาด
อย่างน้อยกลับไปสูงเท่า 1Q16 ได้ คาดได้ปัจจัยหนุนจาก Occupancy rate ที่คาดสูงขึ้น และจำนวน
ห้องพักที่มีมากขึ้น 11% และการ refinance คาดช่วยลดดอกเบี้ยจ่าย เราคงประมาณการกำไร และคง
คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.6 บาท
(+) AU รายงานกำไรสุทธ 4Q16 ที่ 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 5% QoQ. กำไรมากกว่าคาด
10% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด แนวโน้ม 1Q17 คาดกำไรจะเติบโตขึ้นที่ง YoY และ QoQ จาก
อัตรากำไรขั้นต้นที่คาดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.2 บาท
(+) TU รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY แต่ลดลง 43% QoQ หากตัด
รายการพิเศษออก กำไรหลักอยู่ที่ 1.29 พันล้านบาท ลดลง 29% YoY และ 9% QoQ ผลประกอบการ
มากกว่าที่เราคาดถึง 44% เพราะมาร์จิ้นสูงกว่าคาด และค่าใช้จ่าย SG&A น้อยกว่าคาด เราคง
คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 26 บาท
(0) MAKRO รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 1,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%YoY และ 15%QoQ เป็นไป
ตามคาด คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 40 บาท
(+) MONO รายงานขาดทุนสุทธิ 4Q16 ที่ 193 ล้านบาท ขาดทุนมากกว่า 4Q15 ซึ่งอยู่ที่ 76 ล้านบาท
และพลิกกลับมาเป็นขาดทุน QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษขาดทุนหลักอยู่ที่ 131 ล้านบาท ผล
ประกอบการที่ออกมาแย่ตามคาดจากผลกระทบของช่วงไว้อาลัย แต่บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.03
บาท/หุ้น (เหนือคาดการณ์) ติดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 38.66% (ซึ่งจ่ายจากงบเฉพาะกิจการ)
มุมมองในอนาคตเรามองว่า MONO มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นกำไรอีกครั้งตั้งแต่ 1Q17 จากเม็ดเงิน
โฆษณาดิจิตอลทีวีที่ฟื้นตัวรวมถึงเรตติ้งของช่องที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
เก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท
(+) SAWAD รายงานกำไร 4Q16 ที่ 608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% YoY และ 12% QoQ กำไรที่ออกมา
สูงกว่าที่เราคาด 11% เนื่องจาก การตั้งสำรอง LLP ที่ต่ำกว่าคาด โดยตั้งแค่ 24 ล้านบาท จากที่เรา
คาด 91 ล้านบาท เรามีมุมมองเชิงบวกสำหรับ 1Q17 โดยคาดกำไรจะทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง รวมถึง
เติบโตทั้ง YoY และ QoQ หนุนโดยกลุ่ม HP ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคา
เป้าหมาย 56 บาท
(0) กลุ่มธนาคาร อัตราการปล่อยสินเชื่อเดือน ม.ค. ของกลุ่มธนาคารโดยรวมลดลง 0.7% MoM ซึ่งมี
เพียง 2 ธนาคารที่ยังเติบโตได้ดี คือ TMB และ KBANK ในขณะที่ KKP และ KTB ทรงตัว และ ธนาคาร
อื่นๆปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามอัตราการปล่อยสินเชื่อโดยรวมยังเป็นบวก 1.2% YoY เราเชื่อว่าจาก
ภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจะช่วยหนุนให้อัตราการเติบโตของสินเชื่อโดยรวมเป็นไปตามเป้า เรายังชอบ
SCB และ TISCO ที่สุดในกลุ่ม
(-) THREL รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 40 ล้านบาท ลดลง 60% YoY และ 40% QoQ กำไรที่ออกมา
ต่ำกว่าที่เราคาด จาก จากค่าใช้จ่ายค่า Commission สำหรับสินค้า Non-conventional ที่สูงขึ้น เรา
มองว่ากำไร 1Q17 จะทรงตัว YoY เนื่องจากค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่สูง เรามีการปรับประมาณ
การกำไรปี 2017 ลง 17% มาที่ 350 ล้านบาท สะท้อนค่าใช้จ่ายที่มากกว่าคาด เรายังคงคำแนะนำ ถือ
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(0/-) AOT เคาะอัตราค่าเช่าที่ สุวรรณภูมิ ธนารักษ์-ทอท. เลือกคิดเปอร์เซ็นต์ (1) ที่ใช้ในกิจการ การ
บิน คิดเท่าเดิมให้ใช้อัตราค่าเช่า 5% แบบส่วนแบ่งรายได้ (2) พื้นที่เชิงพาณิชย์ คิด 3% ของมูลค่า
สินทรัพย์ หากสูงไปกว่าเดิม 1.5 พันล้านบาทต่อรองได้ / คาดต้นทุนเพิ่ม 300-400 ล้านบาท กระทบ
กำไรปี 2561/62 ไม่เกิน 1% (ที่มา ไทยรัฐฯ, BLS Research)
(+) อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่าในการทบทวนโครงการ GSP สหรัฐฯ ประจำปี 2559
ปรากฏว่าไทยไม่มีรายการที่สหรัฐฯ ประกาศตัดสิทธิ GSP ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าที่ไทยเคยได้รับสิทธิ
GSP จากสหรัฐฯ จะยังคงได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าทุกรายการ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการ
และผู้ส่งออกทราบโดยทั่วกันและควรเร่งใช้ประโยชน์จากสิทธิ GSP ที่ไทยยังคงได้รับให้มากที่สุด เพื่อ
เพิ่มมูลค่าส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ให้มากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย
(ที่มา กรมการค้าต่างประเทศ)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) เมื่อ 20 กพ. ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินสดสุทธิเข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านการดำเนินงานทาง
ตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO โดยธนาคารกลางจีนได้ดำเนินการดังกล่าว
ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เพื่อบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัว ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 1.7 แสนล้าน
หยวน (2.47 หมื่นล้านดอลลาร์) ผ่านทางข้อตกลงซื้อคืนธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo)
ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนใน
อนาคต (ที่มา ASPEN, อินโฟเควส)
(+) พุธ US FOMC meeting minutes US Existing home sales มค. คาด 5500 จาก 5490
(000s), เยอรมนี Ifo Expectation คาดลดลงเหลือ102.9 จาก103.2 ส่วน Business climate คาด
คงที่ 109.8, UK GDP 4Q 2nd คาด +0.7% จาก +0.6%, Hong Kong GDP
4Q16 ค า ด +2.3% จ า ก 1.9% ม า เ ล เ ซีย เ งิน เฟ้อ เ ดือ น ม ค . ค า ด +3.1% จ า ก 1.8%
(ที่มา Bloomberg)
(0) พฤหัส ประชุมธนาคารกลาง เกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25%, ไต้หวัน Industrial
production มค. คาด +1.6% จาก6.3% (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ US new home sale มค. คาด 5.75k จาก 5.36k. US U of M Consumer sentiment กพ.
คาด 96 จาก 95.7, Singapore Industrial production มค. คาด 8.1 จาก 21.3% (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค