- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 February 2017 17:37
- Hits: 2335
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์ไม่ไกล ก่อนผันผวนต่อ
KGI คาด SET วันพุธรีบาวด์ก่อนผันผวนต่อ น่าจะเด้งไม่ไกล ฟันด์โฟลว์ยังถูกกดดันจากมุมมองดอกเบี้ยเฟด แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อไปด้วยความคาดหวังต่อมาตรการลดภาษีของ ปธน. ทรัมป์ที่กำลังจะประกาศเร็วๆ นี้ และตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวตามตัวเลข flash PMI ของมาร์กิต เดือน ก.พ. ที่ทำจุดสูงสุดรอบเกือบ 6 ปี แต่เราคงมุมมองว่าตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยจะด้อยกว่าตลาดหุ้นฝั่งตะวันตก หลังดัชนีเงินดอลล่าร์ฯ ฟื้นตัวแรงเมื่อวาน ตามความเห็นของผู้ว่าการเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ที่หนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ค. ส่งผลให้เฟดฟันด์ฟิวเจอร์มองว่ามีโอกาสประมาณ 50% ที่จะเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน พ.ค. (เดิมมองเป็น มิ.ย. ชัดเจน) ขณะที่ปัจจัยในยุโรปยังมีความเสี่ยงช่วงสั้นจากการโหวตของสภาขุนนางอังกฤษในค่ำวันนี้ ว่าจะเดินหน้าออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ กลยุทธ์สั้นจึงยังเน้นหุ้นปันผลเด่น และหุ้น valuations ต่ำ เป็นสำคัญ ทั้งนี้อิง PE band เรามองว่าการปรับฐานของ SET รอบนี้จะไม่ลงต่ำกว่า 1,540 จุด (อิง current PE เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 15.7 เท่า และ EPS สิ้นไตรมาส 1/2560 ที่ 98 จุด)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PTTGC*, AH
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) 1) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 68 บาท แนวต้าน 70.5 บาท และถัดไปที่ 73 บาท (Stop loss 65.5 บาท) 2) เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้ม Spread ปิโตรเคมีในปีนี้ 3) บอร์ด PTTGC* อนุมัติการเข้าซื้อกิจการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเคมีจาก PTT* มูลค่าเงินลงทุน 2.63 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการที่ดีในช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา โดยราคาพื้นฐาน 76 บาทของฝ่ายวิจัยฯยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มจากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้
AH (เป้า Consensus 17.8 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้น Laggard SAT (SAT +8.2% YTD ขณะที่ AH -1.9% YTD) 2) เราประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพ้นจุดต่ำสุด โดย i) ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัว (เป็นบวกต่อกำลังซื้อ) ii) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว iii) หมดภาระรถคันแรก และ iv) ประเมินการส่งออกรถยนต์ปีนี้ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก 3) ประเมินวานนี้ปิด 15.7 บาท ยืนเหนือแนวราคา 15.6 บาทได้ เป็นการ Breakout เทรนไลน์ขาลง ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 16 บาท และถัดไปที่ 16.7 บาท (กำหนด Stop loss 15.4 บาท) 4) PE ปี 2560 ไม่แพง = 9.5 เท่า (ข้อมูล Bloomberg consensus)
หุ้นในกระแส
รายงานผลประกอบการ 4Q59 ที่ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์
1) MINT* (Under review) กำไรปกติ 4Q59 = 1.3 พันล้านบาท (-25% YoY, +26% QoQ) ต่ำคาด -13% / ต่ำกว่า Consensus คาด -23%
2) MTLS* (Under review) กำไร 4Q59 = 483 ล้านบาท (+101% YoY, +20% QoQ) ดีกว่าคาด +12% / ดีกว่า Consensus คาด 13%
3) SAWAD* (Under review) กำไร 4Q59 = 610 ล้านบาท (+53% YoY, +12% QoQ) ดีกว่าคาด +10% / ดีกว่า Consensus คาด 8%
4) AMA (Under review) กำไร 4Q59 = 43 ล้านบาท (+16.4% YoY, -0.7% QoQ) ต่ำกว่าคาด -30%
5) SPALI* (เป้าพื้นฐาน 26.8 บาท) กำไร 4Q59 = 1.2 พันล้านบาท (-17.1% YoY, +42.4% QoQ) ต่ำกว่าคาด -8.6% / ต่ำกว่า Consensus คาด 4%
กลุ่มสินเชื่อรายย่อย / สินเชื่อทะเบียนรถ (SAWAD, MTLS, SGF) ประเมิน Catalyst บวก 3 ประเด็นคือ 1) รถคันแรกผ่อนหมด ทำให้มีโอกาสในการทำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถมากขึ้น 2) แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องในปีนี้ (นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ คาด กนง คงดอกเบี้ยนโยบายทั้งปี) 3) นโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบภาครัฐฯหนุนให้สินเชื่อนอกระบบกลับสู่ในระบบมากขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” SAWAD, MTLS และหุ้นน้องใหม่ SGF (กำลังเริ่มต้นธุรกิจ เช่าซื้อและสินเชื่อทะเบียนรถ โดยแถลงข่าวแผนธุรกิจไปสัปดาห์ก่อน)
หุ้นมีข่าว
(+) AOT* เจรจาต่อรองกับกรมธนารักษ์เรื่องการคิดค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิได้ข้อสรุปที่ดี โดยพื้นที่การบินยังคงคิดอัตรา 5% จากส่วนแบ่งรายได้ ส่วนพื้นที่ไม่ใช่การบินจะใช้เกณฑ์ ROA (อินโฟร์เควสท์) เราเห็นว่า เป็นพัฒนาการเชิงบวกสำหรับ AOT เมื่อเทียบกับความกังวลของตลาดในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่จะเกิดขึ้นยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขณะที่อัตราค่าเช่าในส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ยังไม่ได้มีการสรุปตัวเลขในขณะนี้ แต่คาดการณ์ว่าจะคิดที่อัตรา 3% ของมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งประเมินว่า มีผลกระทบต่ำ อีกทั้ง AOT ยังสามารถผลักภาระดังกล่าวไปสู่ผู้เช่าพื้นที่ (ได้แก่ King Power และร้านค้าต่างๆ) ได้อีกด้วย เรายังคงแนะนำซื้อ AOT โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 45.40 บาท
(+) ยกเครื่องกม.การบิน (โพสต์ทูเดย์) ครม.ผ่านร่างกฎหมายการบินพลเรือนเทียบเท่าสากล หวังดันไทยศูนย์กลางการบิน ลุ้น ICAO ปลดล็อกกลางปี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการบินพลเรือน โดยได้กำหนดให้ครอบคลุมถึงกิจการการบินพลเรือนทุกด้านที่รัฐต้องกำกับดูแลตามพันธกรณีที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศตามมาตรฐานของ ICAO และองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐ (FAA)
(+) 'จัสมิน' ขายทรัพย์สิน ทริปเปิลที บรอดแบนด์เข้ากองทุน JASIF มูลค่า 5-7 หมื่นล้าน (โพสต์ทูเดย์) บอร์ดจัสมินขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้กองทุน JASIF 5-7 หมื่นล้าน ของทริปเปิลที บรอดแบนด์ JAS ลงทุน 33% บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS*) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทมีมติอนุมัติขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวนไม่เกิน 9.8 แสนคอร์กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท ของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ขณะที่ JAS จะจองซื้อหน่วยลงทุน 33.33%
(+) TSE ควง STEC* คว้าบิ๊กโปรเจ็กต์ โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเฉียด 2 หมื่นล. (ทันหุ้น) "ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่" จับมือ "ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น" คว้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นพร้อม PPA ขนาด 154.98 เมกะวัตต์ มูลค่าเฉียด 2 หมื่นล้านบาท ผ่านบริษัทร่วมทุน พร้อมตั้ง IFA รอเข้า AGM เม.ย.นี้
(+) ACAP* ย้ำสินเชื่อแตะ6พันล. เตรียมมีดีล M&A ในกัมพูชา รู้ผลครึ่งปีแรก (ข่าวหุ้น) ACAP ย้ำเป้าสินเชื่อปีนี้แตะ 6 พันล้านบาท แย้มเตรียมออกหุ้นกู้ปีนี้ 4 พันล้านบาท ทยอยไตรมาสละ 1 พันล้านบาท เริ่ม มี.ค.นี้ พร้อมเจรจาดีล M&A ในกัมพูชา 1 รายคาดเห็นความคืบหน้าครึ่งปีแรก 60
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 32.5 บาท) แนะนำ “ถือ” ประเมินแนวรับ 24.1 บาท แนวต้าน 25.25 บาท (กำหนด Stop loss 24.1 บาท) ... วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ปรับประมาณการฯขึ้น
COM7* (เป้า Consensus 14.6 บาท) สำหับนักลงทุนที่เข้าซื้อเพิ่มตามที่เราแนะนำวานนี้ แนะนำ “ถือ” และซื้อเพิ่มเมื่อยืนเหนือแนว 12.5 บาท (กำหนด Stop loss 11.4 บาท) ... Consensus คาดกำไร 4Q59 โต +25% YoY เป็น 130 ล้านบาท และคาดกำไรปี 2560 จะโตเด่นต่อเนื่องอีก 35% YoY + ในเชิง Valuation PEG ≤ 1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค่าปลีกที่ > 2 เท่า ขึ้นไป
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) ประเมินหากยืนเหนือแนวราคา 61 บาท ได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 65 บาท แนวรับ 60 บาท (Stop loss 58 บาท)
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) ประเมินหากวันนี้ยืนเหนือ 2.04 บาทได้ มีโอกาสที่จะแกว่งตัวทดสอบแนวต้าน 2.18 บาท และถัดไปที่ 2.24 บาท แนะนำ “สะสม” (Stop loss 1.92 บาท) … ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 จะอ่อนแอเป็นไตรมาสสุดท้าย (อยู่ระหว่างการย้ายเครื่องจักรจากไทยไปเวียดนาม และจะเริ่มการผลิตใน 1H60) และกำไรปี 2560 จะฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q60 กลับมาเติบโตระดับ 33% ต่อปี CAGR 2559 – 2562 ทำให้ PEG ตอนนี้ต่ำเพียง 0.75 เท่า (อิง Based EPS 2559)
SQ (เป้า Consensus 6.05 บาท) ประเมินแนวรับ 4.90 บาท แนวต้าน 5.2 – 5.3 บาท (Stop loss 4.9 บาท)
TMT (เป้าพื้นฐาน 20 บาท) ประเมินกรอบแนวรับ – แนวต้าน 17.5 – 19.7 บาท แนะนำ “เก็งกำไรในกรอบฯ” ... ประกาศปันผล 1.5 บาท/หุ้น (Dividend yield 8.1%) ขึ้น XD วันที่ 3 มี.ค.
SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) ประเมินแนวรับ 11.5 บาท แนวต้านแรก 11.9 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 12.5 บาท (Stop loss 11.5 บาท) … แนะนำ Switching จาก PYLON มา SEAFCO
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 19.2 – 20 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) หากวันนี้ต่ำกว่า 176 บาท แนะนำ “ขายล๊อกกำไร” รอซื้อคืนที่แนวรับถัดไป 172.5 บาท … ประเมินมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Limit) ขึ้นจากปัจจุบัน 25% ซึ่ง BBL* ที่มี PBV ถูกกว่า KBANK* และ SCB* จะกลับมาเป็นตัวเลือกที่ดีของนักลงทุนต่างชาติ
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TASCO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 32.5 บาท ข้อมูลโดยรวมที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้อยู่ในเชิงบวก ผู้บริหารมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นกับแนวโน้มขาขึ้นของอุปสงค์ยางมะตอยในภูมิภาค ขณะเดียวกัน ราคายางมะตอย ที่วิ่งขึ้นมาแรงในช่วงต้นปีนี้และคาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 เพิ่มขึ้น 25.1% เป็น 3.7 พันล้านบาทและปรับเพิ่มประมาณการปี 2561 ขึ้นอีก 31.5% เป็น 4.3 พันล้านบาท
BCPG แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 13.1 บาท BCPG จะเลื่อนกำหนด COD โครงการ solar 7 โครงการในญี่ปุ่นกำลังการผลิตรวม 111MW ไปเป็น1H61 เนื่องจากบริษัทได้ปรับโครงสร้างEPC เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้างลงและปรับช่วงเวลาการชำระค่าก่อสร้าง แต่คาดว่า GPM ของโครงการในญี่ปุ่นจะลดลง เนื่องจากมีการรับรู้ค่าใช้จ่าย amortization จาก Price purchase allocation (PPA) เพิ่มขึ้น จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ลง 10% และปี 2561 ลง 16%
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- นัยรับ 1564 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1564 จุดได้นั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1564-1583 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1564 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1564-1550 จุด
แนวรับวันนี้: 1564/1551 แนวต้านวันนี้: 1570/1580
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]