- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 February 2017 18:21
- Hits: 833
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ยังคงเป็นการแกว่งในกรอบแคบเช่นเดิม 1,580 จุด +/- หุ้นหลักอย่าง AOT / SCC/ ADVANC ยังคงพักฐานต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน แรงเก็งกำไรกระจุกตัวในหุ้นขนาดกลาง เช่น JAS / TMB/ INOX เป็นต้น ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,578.47 จุด บวก 0.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 38,810 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการเพียง 272 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 1,235 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เพียง 724 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติต่อเนื่อง
- ตัวแปรสำคัญต่อ GDP ในปีนี้ของไทยอยู่ที่การส่งออก และการลงทุนภาคเอกชน
- ติดตามการประชุมครม.วันนี้ กับโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่
- ติดตามรายงานการประชุมเฟดต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
- ติดตามการประกาศผลการดำเนินงานต่อเนื่อง
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 17)
SET INDEX ยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจน เราประเมินกรอบแกว่งระหว่าง 1,575 - 1,585 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.0-5.0 หมื่นล้านบาท เพราะกระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่ชัดเจน อีกทั้งปัจจัยการลงทุนทั้งในและต่างประเทศขาดความชัดเจน ส่งผลให้ Big Cap เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยมีผลตอบแทนจากเงินปันผลเป็นตัวจำกัด downside risk ของหุ้น
ทั้งนี้ปัจจัยที่จะทำให้ SET INDEX ทะลุแนว 1,600 จุดได้ ขึ้นอยู่กับ 2 เงื่อนไขคือ หากกระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหนาแน่นต่อเนื่อง หลัง GDP ปี 2559 เติบโตต่อเนื่อง และรัฐบาลพยายามเร่งการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากภาคเอกชน และต่างชาติ หากเป็นกรณีนี้ เชื่อว่าสถาบันภายในประเทศจะกลับมาสะสมหุ้น Big Cap ด้วยเช่นกัน เป็นจิตวิทยาเชิงบวก และ/หรือ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ไต่ระดับขึ้นทะลุแนว US$55/barrel ย่อมทำให้กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ขยับขึ้นได้เด่น ทั้ง 2 เงื่อนไขนี้จะเป็นบวกต่อหุ้น Big Cap ที่พักฐานมาระยะหนึ่งให้กลับมาเคลื่อนไหวเด่น
ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุน "คงแนะนำเก็งกำไรหุ้นรายตัว เน้นผลการดำเนินงาน 4Q59 และ/หรือ ปันผลเด่นสำหรับงวดปี 2559 หรือ 2H59"
Daily Pick
1. เก็งกำไร BANPU : ราคาปิด 19.60 บาท ราคาเหมาะสม 22.20 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากราคาถ่านหินล่วงหน้าทั้ง 3 ตลาดได้แก่ Rotterdam, Richard Bay และ Newcastle เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังรัฐบาลจีนอาจขยายระยะเวลาควบคุมการผลิตถ่านหินไม่เกิน 276 วันต่อปีออกไปอีก เพื่อลดปริมาณ Supply ถ่านหิน
b) คาดกำไร 4Q59 เติบโตทั้ง yoy และ qoq จากแรงหนุนของธุรกิจไฟฟ้าเนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่องได้ดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจถ่านหินคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกันในทิศทางเดียวกับราคาถ่านหินที่ฟื้นตัวตั้งแต่ เดือน ก.ย. 2559 ที่ผ่านมา
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +311% yoy เป็น 9,116 ล้านบาท จากการรับรู้ผลประโยชน์เต็มที่ของราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นในปี 2559 ทีผ่านมา ซึ่งจะสะท้อนเข้าสู่ราคาขายในปี 2560 และ Valuation ยังไม่แพงที่ PER2560 ระดับ 11.0 เท่า
2. สะสม PTT : ราคาปิด 397.00 บาท ราคาเหมาะสม 420.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้น Big Cap จะ Outperform ตลาด เพื่อผลักดันการไต่ระดับขึ้นของ SET INDEX และเชื่อว่าตัวเลข GDP 4Q59 ของไทยวานนี้ที่ขยายตัว +3% yoy จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากทิศทาง GDP ปี 2560 มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง +3.5% yoy และมี Upside หากภาคส่งออกเติบโตได้ดีกว่าคาดการณ์
b) คาดการณ์เงินปันผล 2H59 หุ้นละ 5.00 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.3%
c) ทิศทางกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +5% yoy เป็น 98,550 ล้านบาท และ Valuation น่าสนใจ ที่ PER2560 ระดับ 11.5 เท่า ต่ำกว่า SET INDEX ที่ 14.7 เท่า และมี Upside Risk จากการนำ PTTOR เข้าจดทะเบียน IPO อีกไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 30.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$80 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$308 ล้าน
ทั้งนี้ TIP ถูกขายสุทธิทุกตลาด
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไร้ทิศทาง
นักลงทุนต่างชาติคงการกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 272 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,313 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 3,894 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนึ้ยังคง Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 1,235 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 3,258 สัญญา คาดเป็นการกลับมาทยอยเปิดสถานะ Short และทำให้ยอดสุทธิ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 43,227 สัญญา โดย S50H17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 1.84 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.85 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 724 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,791 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงเพียง 0.03bps จากวันก่อนหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง ปิดที่ 2.732%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 551 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 774 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 51 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 50 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 16 วันทำการ เน้นลดน้ำหนักกลุ่ม ICT
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 424 ล้านบาท เทียบกับ 15 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 14,578 ล้านบาท โดย NVDR เน้นลดน้ำหนักกลุ่ม ICT สูงสุด 382 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง 190 ล้านบาท แต่ยังคงสะสมกลุ่มธนาคารเป็นหลัก 230 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
นโยบายของ Trump
- รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Pence กล่าวว่า ประธานาธิบดี Trump ยืนยันที่จะทำงานร่วมกับอียู เพื่อให้เกิดสันติภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผ่านความเป็นอิสระ ประชาธิปไตย และตามกฎหมาย
- เลขาธิการ กระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ทหารสหรัฐฯ ที่เข้าไปในอิรักไม่ต้องการที่จะเข้าไปยึดบ่อน้ำมันจากใคร
ยุโรป
หัวหน้าพรรค PD ของอิตาลีประกาศลาออก: อดีตนายกฯ อิตาลี นาย Renzi หัวหน้าพรรค Democratic Party ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการสรรหาหัวหน้าพรรคใหม่
โพลล์ความนิยมพรรค SPD เหนือพรรคของนายกฯ Merkel: หนังสือพิมพ์ Bild am Sonntag รายงานว่า คะแนนนิยมพรรคฝ่ายซ้าย Social Democrats (SPD) นำพรรค Christian Democrats (CDU/CSU) ไปได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549 โดยคะแนนพรรค SPD ขึ้นเป็น 33% ส่วน CDU อยู่ที่ 32% ในการสำรวจสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหนี้กรีซตกลงที่จะกำหนดเงื่อนไขการช่วยเหลือให้ใหม่: กรีซ และเจ้าหนี้ Troika ต่างตกลงที่จะกำหนดทีมผู้เชี่ยวชาญในการทำงานด้านปฎิรูปกองทุนบำเหน็นบำนาญ, โครงสร้างภาษี และตลาดแรงงานให้ใหม่ เพื่อเป็นข้อมูลในการอนุมัติเงินช่วยเหลือในก้อนถัดไป ภายใต้วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร ซึ่งใน 3Q60 กรีซมีกำหนดชำระหนี้
รัฐบาลอังกฤษไม่มีการถอนแผน Brexit: นายกฯ อังกฤษ ยืนยันไม่มีแนวความคิดที่จะถอนร่างกฎหมายมาตรา 50 แห่งกรุงลิสบอน และคงกรอบเวลาภายในสิ้นเดือนมี.ค.จะต้องเริ่มนับหนึ่งกับขั้นตอนดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับผลการลงประชามติ
จีน
จีนประกาศห้ามการนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือ: ทางการจีนประกาศห้ามนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือ ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของเกาหลีเหนือถึง 50% โดยห้ามการนำเข้าไปจนถึงสิ้นปี 2560 เพื่อเป็นการกดดันทางการเมืองเกาหลีเหนือและสอดคล้องกับมติของ UN
มองโกเลียตกลงในแผนแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจกับ IMF: IMF เปิดเผย มองโกเลียได้ตกลงกับ IMF และพันธมิตรอื่นๆ กับเงื่อนไขการรับเงินช่วยเหลือเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หลังเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจปี 2559 เมื่อรัฐบาลมีการใช้จ่ายมาเกินไป และรายได้จากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง ทั้งนี้เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะทำให้มองโกเลียไม่ผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.นี้ US$580 ล้าน โดยเงินช่วยเหลือ US$5.5 พันล้านนี้ บางส่วนมาจาก World Bank / ญี่ปุ่น / เกาหลีใต้ รวม US$3.0 พันล้าน ด้านธนาคารกลางจีนจะขยาย Swap line ให้เป็น 1.5 หมื่นล้านหยวน ขณะที่ IMF ให้เงินกู้ระยะ 3 ปี มูลค่า US$440 ล้าน
เอเชียแปซิฟิก
ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ามากกว่าคาด:
- การส่งออกเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 5.0% yoy ทั้งนี้เป็นผลจากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลง 6.6% yoy จากยอดขายรถยนต์ และส่งออกไปยังอียูลดลง 5.6% yoy ขณะที่ส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้น 3.1% yoy
- รนำเข้าเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี มากถึง 8.5% yoy สูงกว่า Bloomberg consensus คาด 4.8% yoy ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ทำให้การนำเข้าในภาพรวมเพิ่มขึ้น 2.8% yoy จากการนำเข้ารวม แต่กลับเป็นการกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อทางอ้อมให้แก่ BoJ
- ดุลการค้าเดือนม.ค. ขาดดุลมากถึง Yen1.1 ล้านล้าน มากกว่าที่ตลาดคาดขาดดุล Yen6.259 แสนล้าน
สิงคโปร์กำหนดกรอบงบประมาณเพิ่มกระตุ้นเศรษฐกิจเติบโต 2-3% ในทศวรรษหน้า: กรอบเบื้องต้น
- อายุเกษียณขยายจาก 65 เป็น 67 ปี พร้อมเพิ่มการลดหย่อนภาษีในการจ้างงานส่วนนี้เป็นสูงสุด S$25,000 ของ 50% ภาษีที่ต้องชำระ และปีที่ 2 สูงสุด S$10,000 ของ 20% ภาษีที่ต้องชำระ
- การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน S$700 ล้าน เพื่อสนับสนุนภาคการก่อสร้าง
- รัฐบาลเตรียมใช้ภาษี Carbon ระหว่าง S$10-20/ตัน Greenhouse gas emission ตั้งแต่ปี 2561 สำหรับโรงไฟฟ้า สาธารณูปโภค
- ราคาน้ำจะเพิ่มขึ้น 30% ใน 2 เฟด เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. จากที่ไม่เคยขึ้นค่าน้ำเป็นเวลา 20 ปี
ไทย
GDP ใน 4Q59 ออกมาเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์: สศช. แถลง GDP ไตรมาส 4 /2559 ขยายตัว 3.0% yoy และเพิ่มขึ้น 0.4% qoq ทำให้จีดีพีทั้งปี 2559 ขยายตัว 3.2% เร่งขึ้นจากปี 2558 ที่เติบโต 2.9% เป็นการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และเป็นการเติบโตที่มั่นคงมากขึ้น นอกจากนั้น สศช.ยังคงประมาณการจีดีพีในปี 2560 ไว้ที่ 3 -4% หรือมีค่ากลางที่ 3.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากและการฟื้นตัวของราคาสินค้าเกษตร การลงทุนภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้น และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายกลางปี 190,000 ล้านบาท รวมถึงส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 2.9% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.4% เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจและการค้าโลกจะปรับตัวดีขึ้นตามวัฎจักรเศรษฐกิจ
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst