WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวต้าน 1580 แนวรับสำคัญ 1560
  SET Index: 1576.27 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 1580 จุด หลังจากพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาวที่ 1580 จุด แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะยาวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง ในขณะที่โครงสร้างขาขึ้นระยะสั้นมีแนวรับสำคัญที่ 1560 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคต่อเนื่อง และมีแนวรับถัดไปที่ 1540 จุดเป็นแนวรับสำคัญ
  แนวต้าน : 1578 และ 1580
  แนวรับ : 1570 และ 1567

 

IVL = 36.50 / 37.00, AOT = 39.50 / 40.50, JAS = 9.40 / 9.70, TMB = 2.44 / 2.54, SCC = 514 / 520

 

Millcon Steel (MILL TB; THB 1.59) – ซื้อ
  แนวต้าน : 1.68 และ 1.75 / แนวต้านสำคัญ 1.80
  แนวรับ : 1.59 และ 1.57
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ MILL โดยมีแนวรับที่ 1.59 และ 1.57 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.68 และ 1.75 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.54 ลงไป

Star Petroleum Refining (SPRC TB; THB 13.20) – ซื้อ
  แนวต้าน : 13.80 และ 14.00 / เป้าหมาย 15.50
  แนวรับ : 13.20 และ 13.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้าง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ SPRC โดยมีแนวรับที่ 13.20 และ 13.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 13.80 และ 14.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 12.70 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET…รอปัจจัยหนุนใหม่ๆ
  การดีดตัวขึ้นสร้างสถิติสูงสุดของหุ้นในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นในรอบ 19 เดือน จากแรงหนุนของตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลก โดยตลาดหุ้นไทยผ่านดัชนี MSCI Thailand ในปัจจุบันก็ขึ้นไปใกล้จุดสูงสุดเดิมในปี 2016 แต่ยังขึ้นได้น้อยกว่าภูมิภาค อย่างไรก็ตามหากมาดูสัดส่วนการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย เทียบภูมิภาคไม่รวมญี่ปุ่น (รูปดอลลาร์) จะพบว่าสัดส่วนดังกล่าวได้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้บอกได้ว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มนิ่งหรือลดลง ขณะที่ภูมิภาคปรับตัวขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่า โดยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนดังกล่าวขึ้นสูงสุดที่ 0.7 แล้วจะค่อยๆปรับตัวลง ช่วงที่สัดส่วนปรับตัวลง มักจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามในที่สุด แต่รอบนี้สัดส่วนดังกล่าวปรับตัวลง แต่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสวนทาง ดูจากรูปด้านซ้าย
  แม้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะสวนทางกับสัดส่วนดังกล่าว แต่เรามองว่าสุดท้าย ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆ ปรับตัวลง ซึ่งดูได้จากอดีตที่ผ่านมา ปัจจัยที่จะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อยๆ ย่อตัวลง มาจากการประเมินทั้งค่า P/E และ EPS growth ในปี 2017 ของตลาดหุ้นไทย เทียบภูมิภาค เราก็จะพบว่าทำไม นักลงทุนต่างชาติถึงยังไม่เข้ามาซื้อหุ้นไทย ในรอบนี้ แม้แนวโน้มการทำกำไรของตลาดหรือ Earning momentum จะดีดตัวขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายน่าจะทำให้อัตราการทำกำไรของตลาดในปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่กลับกลายเป็นว่า การคาดการณ์อัตราการทำกำไรในปีนี้กลับลดลงกว่าเดิม คือ อยู่ที่ประมาณ 8% จากเดิมที่คาดไว้ 9% เทียบกับของภูมิภาคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึง 15% (ดูรูปด้านขวา)
  เหตุที่ทำให้มุมมองของการคาดการณ์อัตราการทำกำไรในปีนี้ชะลอตัวลงกว่าเดิม น่าจะมาจาก หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มหลักอย่าง พลังงาน ธนาคาร สื่อสารและอสังหาริมทรัพย์ อัตราการทำกำไรยังไม่สูงมาก อย่างพลังงาน คาดปีนี้อัตราการทำกำไรน่าจะชะลอตัวลงหลังปีที่แล้วขยายตัวสูงมาก ส่วนธนาคารคาดจะขยายตัวแค่ 3-4% จากติดลบเล็กน้อยหรือทรงๆ ในปีที่แล้ว ส่วนสื่อสารน่าจะยังติดลบ แต่ไม่มากเท่าปีที่ผ่านมา และอสังหาริมทรัพย์ ที่แค่ประคับประคองตัว ส่วนกลุ่มค้าปลีก ก็เช่นกัน คือปีนี้ยังขยายตัวได้ใกล้เคียงปีที่แล้วหรือชะลอตัวลงเล็กน้อย
  เรามองว่าปัจจัยที่จะตัดสินว่าอัตราการทำกำไรในปีนี้จะกระเตื้องขึ้นหรือไม่ น่าจะเป็น 1. กำไรของตลาดใน Q1/17 ว่าจะออกมาอย่างไร หากออกมาในทางเดียวกันคือ ฟื้นตัวจาก Q4/16 ก็น่าจะทำให้นักวิเคราะห์เข้ามาปรับกำไรของตลาดเพิ่มขึ้น และ 2. ความชัดเจนนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ดังนั้นในช่วงใกล้ๆ นี้มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลกน่าจะเผชิญกับการขายทำกำไร หลังรับข่าวดีจากสหรัฐและกำลังเทรดกันในระดับแพง
  เปิดขึ้นมาในต้นสัปดาห์คาดดัชนี SET น่าจะยังอยู่ในภาวะซึมๆ และแกว่งกรอบแคบ เพื่อรอข่าวการประกาศตัวเลข GDP Q4/16 ของไทย ขณะที่ดัชนีหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมัน ยังมีแรงกดดัน วันนี้มองแนวต้านที่ 1583-1587 จุด และแนวรับที่ 1567-1570 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร AMATA ASEFA BR ROBINS

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

 

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,576.23 จุด ลดลง 1.61 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 16,948.43 ล้านบาท หุ้นไทยปรับลงในกรอบแคบ ล่าสุดสภาภัฒน์แถลงตัวเลข GDP Q4/59 โต 3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 3.2-3.3% ขณะที่ปี 59 GDP โต 3.2% ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ

 

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งลง ภาพรวม การเก็งกำไรดูอ่อนแอลง หลังจากที่ SET Index ไม่สามารถกลับไปยืนเหนือระดับ 1580 จุด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มโดยรวมยังไม่ถึงกลับเปลี่ยนกลับมาเป็นแนวโน้มขาลง ซึ่งกรณีดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ SET ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1565 จุด ลงไป ซึ่งกรณีดังกล่าวจำเป็นต้องขายหุ้นออกตาม แต่ถ้ายังยืนได้เหนือระดับ 1565 จุด มองว่าตลาดยังจอยู่ในช่วงแกว่งตัวออกข้าง เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆมากำหนดทิศทางตลาด กลยุทธ์ระยะสั้นในกณีตลาดเป็น Sideway คงเน้นไปที่ การทำกำไรเล่นรอบ โดยซื้อในจังหวะปรับตัวลดลงแรง และขายออกในจังหวะดีดตัวกลับแรง หุ้นแนะนำ TWPC มองสัญญาณทางเทคนิคดูดี หลังสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 10 บาทได้ แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 10.50/11.20 บาท แนวรับ 10 บาท ในส่วนของแนวโน้มผลการดำเนินงานมีทิศทางสดใสจากยอดขายที่น่าจะเติบโตสูง ตามฤดูกาลวัตถุดิบมันสำปะหลังที่ออกมามากในช่วงปลายปีเป็นต้นมา

Technical Pick (PM) ...
  Millcon Steel (MILL TB; THB 1.59) – ซื้อ
  Star Petroleum Refining (SPRC TB; THB 13.20) – ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!