WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



SET รีบาวด์บวกแบบมีแรงขายกดดันให้ผันผวน คาดมีลุ้นปรับลงให้ซื้อได้

  ตลาดหุ้นวานนี้ : ถึงแม้ SET จะแกว่งบวกทั้งวันเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา แต่ก็มีแรงขายช่วงบวกกดดันให้อยู่ในกรอบแคบ ก่อนที่ช่วงท้ายจะย้อนลงปิดบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม ส่วนตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังปิดลบ โดยคาดว่าที่ตลาดหุ้นไทยแข็งแรงกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน เพราะแรงซื้อเก็งกำไรเพื่อลุ้นตัวเลข GDP ของไทยที่จะประกาศในวันจันทร์ที่ 20 ก.พ.นี้ด้วย


  แนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นต่างประเทศไม่สดใสนัก หลังตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อค่ำวันศุกร์แกว่งตัวด้านลบเกือบทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนติดวันหยุดในวันจันทร์ที่ 20 ก.พ. จากวัน Washington’s Birthday แต่ช่วงท้ายตลาดดัชนีดาวโจนส์ยังขยับมาปิดเป็นบวกเล็กน้อยได้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี และผลประกอบการของ บจ. บางแห่งก็ยังแข็งแกร่ง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวอ่อนแอ เนื่องจากตัวเลขการผลิตภาคก่อสร้างของยูโรโซนชะลอตัวลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดตัวด้านลบ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรง แต่ก็แสดงถึงความไม่มั่นใจในตลาดหุ้น ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะกลับไปแกว่งลบได้ด้วยเช่นกัน
  กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะปรับพักตัวลงอีกสักระยะ เพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาเพิ่ม เนื่องจากที่ผ่านมาดัชนีขยับขึ้นมามากพอควรแล้ว อย่างไรก็ตามจังหวะตลาดเป็นลบยังถือเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นซื้อเพื่อถือรอลุ้นดัชนีขยับขึ้นหาเป้าหมายที่ 1650 จุดในรอบหน้าได้

  แนวรับ  1575-1570 , 1566-1560 จุด  
  แนวต้าน  1579-1581 , 1583-1588 จุด
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SPRC, CKP, CBG(short)
  Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$308ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$257ล้าน ไทย US$54ล้าน และไต้หวัน US$54ล้าน ขณะที่ไหลออกอินโดนีเซีย US$55ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคซึ่งอยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานประจำปี ขณะที่ได้ปัจจัยบวกจากทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใสโดยเฉพาะจากแผนการปรับลดภาษีภาคธุรกิจของทรัมป์

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น

(0) ลุ้น GDP ไทยวันนี้จะเซอร์ไพร้ส์หรือไม่ ตลาดคาด GDP 4Q16 โต 3.3% Y-Y (จาก 3.2% Y-Y ใน 3Q16) หากดีกว่าคาดย่อมเป็นแรงส่งให้ตลาดหุ้นและสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง แรงขับเคลื่อนสำคัญอยู่ที่การลงทุนภาครัฐและเอกชน และการบริโภคในประเทศ
(+) ASEFA กำไร 4Q16 ดีกว่าคาดอย่างน่าประทับใจ +15.3% Q-Q, +32.5% Y-Y จากการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ในระดับสูง ทำให้กำไรทั้งปี 2016 +39.4% Y-Y แนวโน้มปีนี้ดีต่อเพราะมี Backlog ถึง 1.8 พันล้านบาทและยังมีความสามารถในการได้งานใหม่ๆอยู่ตลอด ตามการฟื้นตัวของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนที่โดดเด่นในปีนี้ เรายังคงราคาพื้นฐาน 9.70 บาท แนะนำซื้อ
(+) MTLS กำไรมีโอกาสดีกว่าคาด บริษัทจะรายงานผลประกอบการวันนี้ เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 +5% Q-Q, +76% Y-Y และกำไรทั้งปี +70% Y-Y เติบโตเร่งตัวขึ้นจากปีก่อนที่โต 52% Y-Y แต่มีแนวโน้มว่าอาจดีกว่าคาด เห็นได้จากการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีของหลายธุรกิจที่ออกมาดีเกินคาด และยังโตได้ต่อเนื่องจากการขยายสาขาที่ยังไม่เต็มพื้นที่ เรามีโอกาสปรับเพิ่มราคาพื้นฐาน 28.80 บาทขึ้น ยังคงแนะนำซื้อเก็งกำไร   
(+) KTC แม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นในธุรกิจบัตรเครดิตซึ่งทำให้ต้องเพิ่มงบการตลาดในปีนี้อีก 30% จากปีก่อน แต่ไม่กระทบประมาณการกำไรที่เราคาด 2.88 พันล้านบาท +15.3% Y-Y เพราะได้ชดเชยจากค่าธรรมเนียมที่ใช้ผ่านบัตรเพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้น เราคาดว่ากำไรจะดีขึ้นทุกไตรมาส ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 168 บาท
(+) หุ้นปันผลสูง AIT, DELTA, PTTGC, IRPC, SPRC, TOP, BCP, SNC, ADVANC, INTUCH, TMT

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 ก.พ. - ไทย: 4Q16 GDP (คาด +3.3% Y-Y)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
21 ก.พ. - ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)
22 ก.พ. - ฮ่องกง: 4Q16 GDP (คาด +2.1% Y-Y)
- สหรัฐ:FOMC Meeting Minutes, ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
23-ก.พ. - ไทย: MGTเทรดวันแรก (ราคา IPO 1.89บาท), ยอดขายรถ (ม.ค.)
- เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
27 ก.พ. - ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.),ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ม.ค.)
- สหรัฐ:คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.)
28 ก.พ. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ม.ค.
- สหรัฐ:4Q16 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 2)
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ยังสามารถปิดในแดนบวก และ ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 โดยมีปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ การซื้อขายค่อนข้างเบาบางเพราะนักลงทุนเฝ้าติดตามการเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศส
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกได้เล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินปอนด์ อย่างไรก็ตาม การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดย Eurostat ระบุการผลิตภาคการก่อสร้างเดือนธ.ค.ลดลง 0.2%
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสม ตามภาวะตลาดโลก และ นักลงทุนยังเฝ้าติดตามนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์
(0) ค่าเงินบาทล่าสุดแกว่งตัวแข็งค่าเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 34.91-34.98 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดบวก 0.04 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53.40 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยขยับบวกได้เพียงเล็กน้อยแม้จะมีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ผลิตอาจขยายระยะเวลาการปรับลดการผลิตออกไป เนื่องจากตลาดยังคงกังวลต่ออุปทานในสหรัฐ
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดลบ 2.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,239.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์

Contact person : Somchai Anektaweepon  Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!