- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 February 2017 17:48
- Hits: 1769
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET มีจังหวะบวกสลับ แต่ก็เสี่ยงกับโอกาสปรับลงอยู่ น่ารอซื้อลบ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังพลิกกลับมาขยับบวกได้อีกครั้ง และเคลื่อนไหวแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่พอควร แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุน ทำให้ยังมีแรงขายทำกำไรช่วงบวกกดดันให้ดัชนีแกว่งผันผวน และอ่อนตัวลงบ้าง โดยเฉพาะในช่วงท้ายตลาด ขณะที่กรอบบวกก็ยังอยู่ในกรอบแกว่งเดิมในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงถึงแนวโน้มตลาดที่ยังค่อนข้างไร้ทิศทาง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ดูอ่อนแอ หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงมาแกว่งด้านลบ ถึงแม้ว่าจะไม่รุนแรงนัก แต่ก็เป็นการแกว่งลบตลอดวัน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐปรับตัวลดลง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังแกว่งตัวบวก/ลบในกรอบแคบ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังแกว่งตัวผันผวนในกรอบจำกัด ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านเราแม้ว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงตลาดไว้ได้บ้าง แต่ SET ก็ยังมีลักษณะแกว่งตัวผันผวนภายในกรอบเดิมอยู่ เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน ถึงแม้ว่าจะไม่มีปัจจัยลบเพิ่มเติมเช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้ SET ขยับขึ้นมาพอควร ทำให้ FSS ยังมองว่าต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ตลาดอ่อนตัวลงไว้ก่อนเช่นเดิม
กลยุทธ์ : ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบต่อไปก่อนดีกว่า อย่างไรก็ตามส่วนที่ซื้อแล้วสามารถเน้นถือเพื่อรอขายสูงได้
แนวรับ 1587-1585 , 1582-1575 จุด
แนวต้าน 1592-1595 , 1597-1601 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, KKC, TTCL(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$384ล้าน นำโดยไต้หวัน US$206ล้าน และเกาหลีใต้ US$188ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$16ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค กลุ่มพลังงานน่าจะกดดันตลาดตามราคาน้ำมันที่ดิ่งลงแรงเมื่อคืนนี้จากความกังวลเกี่ยวกับสต๊อกน้ำมันสหรัฐที่มากเกินคาด
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กลุ่มมือถือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง กรอบเวลาที่ชัดเจนในการได้คลื่น 2300MHZ เป็น sentiment บวกก็จริง และ DTAC มีโอกาสได้คลื่นนี้สูง แต่ผลประกอบการจะยิ่งแย่ลงในช่วง 2 ปีแรกแห่งการลงทุนหนัก DTAC ราคาเกินพื้นฐาน 30 บาทไปมาก ADVANC เต็มมูลค่าที่ 170 บาทแล้ว INTUCH เป้า 56.50 บาท ส่วน TRUE อยู่ระหว่างปรับ
(+) ส.ป.ก.คาดตรวจเอกสารสัญญาเสร็จ 15 ก.พ. นี้ หลักเกณฑ์ที่ดูคือต้องจ่ายไฟให้กฟผ.เท่านั้น และต้องให้เกษตรกรได้รับประโยชน์โดยตรงและไม่กระทบสิ่งแวดล้อม แม้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้อง (EA 260MW, EGCO 80MW, DEMCO 57MW, RATCH 35MW) จะถูกดดันจนกว่าจะชัดเจน แต่เราคิดว่า EA น่าสะสม ราคาปัจจุบันแทบไม่รวมกำลังผลิต 260MW ที่ชัยภูมิ ทั้งที่บริษัทได้ PPA สามารถย้ายแปลงไปตั้งโครงการที่อื่นได้
(+) AOT แตกพาร์วันนี้ จาก 10 บาทเป็น 1 บาท ช่วยสภาพคล่องในการซื้อขายแต่ไม่กระทบพื้นฐานบริษัท ราคาพื้นฐานของเรา 460 บาทกลายเป็น 46 บาท เราชอบ AOT ที่เติบโตตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สดใส ในช่วง 2 ปีนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ยังไม่เสร็จ (ทยอยเปิดปี 2019) คาดกำไรยังโตได้ 8-10% ต่อปีตามการเติบโตของนักท่องเที่ยวและพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นหลังปรับปรุงอาคาร Terminal 2 เสร็จ ยังคงแนะนำซื้อ
(+) BCP แนวโน้มกำไร 4Q16 สดใสเหมือนโรงกลั่นอื่นเพราะได้อานิสงส์จากค่าการกลั่นที่ฟื้นและกำไรจากสต็อกน้ำมัน เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 +47% Q-Q และพลิกจากขาดทุนใน 4Q15 ทำให้กำไรทั้งปี 2016 +30% Y-Y แนวโน้มปี 2017 โตต่อ 14% Y-Y เป็น 1 ใน 2 โรงกลั่นที่กำไรโตได้ในปีนี้เพราะไม่มีหยุดซ่อมบำรุง BCP น่าสนใจที่ Valuation ไม่แพง PE เพียง 9 เท่าต่ำกว่าโรงกลั่นอื่นที่ 10 เท่า และมี Dividend yield 5% ต่อปีสูงกว่ากลุ่มที่อยู่ที่ 4%
(0) GPSC แนวโน้มกำไร 4Q16 ไม่น่าตื่นเต้น คาด -28% Q-Q เพราะ 3Q16 มีเงินปันผลรับจาก RPCL 240 ล้านบาท และ +56% Y-Y เพราะรับรู้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น คาดกำไรทั้งปี 2016 +47% Y-Y ส่วนปีนี้คาด +22% Y-Y เราชอบการเติบโตระยะยาวของ GPSC ซึ่งเป็น Flagship ด้านธุรกิจสาธารณูปโภคของกลุ่ม PTT แต่ราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าที่ 38 บาท Dividend yield ไม่น่าสนใจ (คาด 1.5% งวด 2H16) แนะนำเพียงถือ
(0) SC เคาคาดกำไรสุทธิ 4Q16 +2% Q-Q, -57% Y-Y ตามการโอนที่น้อยหลังมาตรการรัฐดึงยอดโอนให้กระจุกในช่วง 4Q15-2Q16 แนวโน้มกำไรปี 2017 สะดุดชั่วคราว คาด -9% Y-Y เพราะยอดโอนคอนโดน้อยลง แต่กลยุทธ์ของบริษัทที่ลงตลาดล่างมากขึ้น รุกแนวราบมากขึ้น จะช่วยให้พอร์ตสมดุลจากปัจจุบันที่พึ่งรายได้จากคอนโดมาก เราคาดกำไรปีหน้า +19% Y-Y แม้จะชอบการเติบโตในระยะยาวแต่ปัจจุบันราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าที่ 4 บาท ลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 ก.พ. - ฟิลิปปินส์:ธนาคารกลางประชุม
10 ก.พ. - MSCI Quarterly Index Review
- จีน:ดุลการค้า (ม.ค.)
- นายอาเบะและทรัมป์ประชุมหารือเรื่องแผนลงทุนในสหรัฐ
13 ก.พ. - ญี่ปุ่น: 4Q16 GDP
14 ก.พ. - ไทย: SEเทรดวันแรก (ราคา IPO 2.45บาท)
- จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน:4Q16 GDP, Zew Survey Expectation (ก.พ.)
15 ก.พ. - ไทย: ETEเทรดวันแรก (ราคา IPO 4.20 บาท)
- ไต้หวัน: 4Q16 GDP
- สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
16 ก.พ. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ:Housing starts & Building permits (ม.ค.)
17 ก.พ. - สิงคโปร์: 4Q16 GDP
20 ก.พ. - ไทย: 4Q16 GDP
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสมโดยกลุ่มการเงินเป็นตัวถ่วงตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มรีบาวด์ขึ้นมาได้หลัง EIA รายงานปริมาณสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดค่อนมาในแดนบวกได้โดยผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนยังเป็นประเด็นชี้นำทิศทางการเคลื่อนไหว
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมในกรอบแคบตามทิศทางการเคลื่อนไหวของภูมิภาคอื่นเนื่องจากยังไร้ซึ่งปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น
(0) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งทรงตัวบริเวณ 35 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ขยับขึ้น 0.17 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 52.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงส่วนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,239.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนยังเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านการเมืองที่เริ่มมีความไม่แน่นอนทั้งการเลือกตั้งในยุโรป รวมถึงนโยบายของทรัมป์
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch