- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 February 2017 18:53
- Hits: 2677
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( อดิศักดิ์ คำมูล เลขทะเบียนฯ: 026889)
เราอยู่ฝั่ง (เลือก) ซื้อ
KGI ประเมินตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น ในนัยของคำกล่าวที่ว่า เมื่อตลาดขาดปัจจัยแห่งแรงผลัก ผู้ลงทุนระยะสั้นมักขายทำกำไร ขณะที่หุ้นใหญ่อยู่ภายใต้แรงขายในระดับเดียวกับตลาด หุ้นรายตัวที่นักลงทุนในประเทศนิยมกลับมีแรงขายออกมามาก ในวันนี้ ดัชนี SET กำลังทดสอบแนวรับสั้นสำคัญ 1,580 จุด หากต่ำกว่าแนวรับตลาดอาจอ่อนลงทดสอบแนวรับต่อไปที่ 1,571 จุด แต่หาก SET ยืนเหนือแนวรับ 1,580 จุด คาดหวังกรอบราคาทางขึ้น 1,580-1,595 จุด เราคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดในระยะสั้น และยืนอยู่ฝั่งเลือกซื้อ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ERW, IVL* / สะสมกลุ่มการบริโภค (ROBINS*, COM7*)
ERW (เป้าพื้นฐาน 5.7 บาท) 1) วันที่ 6 ก.พ. ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ERW ใน 4Q59 จะโต +2% YoY และ +91% QoQ 2) วานนี้ ครม มีมติขยายเวลามาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เว้นค่าธรรมเนียม VISA สำหรับ 21 ประเทศ ต่ออีก 6 เดือน คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ... อ่านรายละเอียดใน นสพ ไทยโพสต์วันนี้เพิ่มเติม 3) ประเมินแนวรับ 4.44 บาท แนวต้านแรก 4.60 บาท หากทะลุผ่านได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.72 – 4.77 บาท (Stop loss 4.40 บาท)
IVL* (เป้า Consensus 36.4 บาท) 1) วันที่ 6 ก.พ. ฝ่ายวิจัยฯ บล. เคจีไอ (ประเทศไต้หวัน) ออกบทวิเคราะห์กลุ่มปิโตรเคมี คาด Spread ปิโตรเคมีจะสูงหลังตรุษจีน เนื่องจาก การรีสต๊อกในจีน (ตอนนี้สต๊อกปิโตรเคมีที่จีนอยู่ในระดับต่ำ) และมีมุมมองที่เป็นบวกต่อ MEG เป็นพิเศษ (ทั้งผลจากการรีสต๊อกและดีมานด์โพลีเอสเตอร์ที่เพิ่มขึ้น) 2) บล. เคจีไอ (ประเทศไต้หวัน) ปรับสมมติฐาน Spread MEG ในปี 2560 ขึ้นเป็น 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน จากสมมติฐานเดิมที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน 3) แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวรับ 34.5 บาท แนวต้านแรก 36 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 37.5 บาท (Stop loss 34.5 บาท) ... แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นอื่นในกลุ่มปิโตรเคมีที่คาดจะได้อานิสงส์จากราคาที่ปรับขึ้น อาทิ PTTGC*, UKEM (เป็นผู้นำเข้าได้อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งด้วยอีกทาง)
กลุ่มการบริโภค เราประเมินราคาหุ้นในกลุ่มฯที่ Underperform ตลาดฯตั้งแต่ต้นปี เป็นผลจากการขายเปลี่ยนกลุ่มเล่นของนักลงทุน (Sector rotation) โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานกลับดีขึ้นเรื่อยๆ i) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง ii) อัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค. +1.55% (ปีก่อนไม่ขยายตัว) iii) นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ คาดปีนี้ กนง คงดอกเบี้ยนโยบายทั้งปี ... เป็นบวกต่อ Valuation หุ้นกลุ่มค้าปลีกในทางทฤษฎีการเงิน ... และล่าสุด iv) การปรับโครงสร้างภาษีใหม่ (เพิ่มค่าลดหย่อน) คาดกำลังซื้อผู้บริโภคในระดับกลางเพิ่มขึ้น
i) ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นหลังทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ ±58 บาท มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 62 บาท (แนวต้านเทรนไลน์) หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 65 บาท แนวรับ 59 บาท (Stop loss 58 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 4Q59 ยังคงเติบโตได้ 7.5% YoY เป็น 755 ล้านบาท และคาดกำไรปี 2560 จะเติบโตเด่น 14.6% YoY เป็น 2.9 พันล้านบาท จาก Same store sale growth ที่คาดจะเติบโตเทียบปีก่อน และการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง
ii) COM7* (เป้า Consensus 14.5 บาท) 1) เราประเมินราคาหุ้นลงมาทดสอบแนวรับที่ 11.5 บาท แล้วฟื้นตัวมีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 12.8 บาท โดยมีแนวต้านแรกที่ 12.5 บาท (หากผ่านได้จะเป็นการยืนยันการฟื้นตัว) หากต่ำกว่า 11.5 บาท แนะนำ รอสะสมแนวรับถัดไปที่ 11 บาท 2) ในเชิงพื้นฐาน Consensus คาดกำไร 4Q59 โต +25% YoY เป็น 130 ล้านบาท และคาดกำไรปี 2560 จะโตเด่นต่อเนื่องอีก 35% YoY เป็น 565 ล้านบาท จากการขยายสาขาต่อเนื่อง + การเข้าบริหาร True shop + การรับอานิสงส์เป็นพันธมิตรกับ TRUE* เต็มปี และคาดงบการตลาดฯของ TRUE* ที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้จะเป็นบวกกับกำไรของ COM7* 3) ในเชิง Valuation PEG ≤ 1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค่าปลีกที่ > 2 เท่า ขึ้นไป ... ADVANC* รายงานผลประกอบการปี 2559 มีค่าใช้จ่ายทางการตลาดฯเพิ่มขึ้นถึง 132% YoY คาดแนวโน้มค่าใช้จ่ายการตลาดของกลุ่มสื่อสารจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2560 เป็นบวกต่อร้านค้าปลีกมือถือ อย่าง COM7*, JMART, TWZ เป็นต้น
หุ้นในกระแส
กลุ่มไฟแนนซ์/ลีสซิ่ง/แฟคตอริ่ง (KTC*, MTLS*, SAWAD*, LIT, SGF) นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศปีนี้จะฟื้นตัว โดยคาด GDP โต 3.6 – 3.8% (จากคาดโต 3.3% ในปี 2559) + ประเมินปี 2560 กนง จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% (ต้นทุนการเงินต่ำต่อทั้งปี) + หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นแรงตอบรับประเด็นนี้ตั้งแต่ต้นปี 2560 ทำให้เราประเมินว่าหุ้นกลุ่ม ไฟแนนซ์/ลีสซิ่ง/แฟคตอริ่ง ที่ Laggard มีโอกาสที่จะปรับขึ้นตามได้ แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นในกลุ่มฯ ... ล่าสุดข่าว KTB* รุกสินเชื่อ “แฟคตอริ่ง” (นสพ กรุงเทพธุรกิจวานนี้) คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ (แสดงว่ามีดีมานด์สูง)
หุ้นมีข่าว
(+) บมจ. ทีโอที (TOT) เตรียมเลือกคู่ค้าสำหรับการให้บริการบนคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ โดยมีผู้สนใจ 5 ราย คือ 1) ADVANC* 2) DTAC* 3) TRUE* 4) โมบายแอลทีอี และ 5) ทานตะวันเทเลคอม (ประชาชาติธุรกิจ) เป็นปัจจัยบวกต่อผู้ให้บริการมือถือทุกราย ADVANC, DTAC and TRUE เพราะเชื่อว่ามีความสนใจในคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อนำมาเสริมการให้บริการ โดยเฉพาะ DTAC ซึ่งแพ้ประมูลในครั้งล่าสุด ขณะที่สัมปทานที่ใช้ในการดำเนินงานปัจจุบันจะสิ้นสุดลงใน 3Q61 ทั้งนี้หากอิงการจ่ายเงินค่าใช้คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ที่ทาง ADVANC จ่ายให้แก่ TOT ที่อัตรา 3.9 พันล้านบาท/ปี คาดว่าการใช้คลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ จะต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 3.9 พันล้านบาท โดยเราเชื่อว่า ADVANC น่าจะเป็นผู้ที่ได้รับเลือก เพราะเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์ยาวนานมากับ TOT ทั้งที่ในรูปแบบของผู้รับสัมปทานจาก TOT มาตั้งแต่ปี 2533 และพันธมิตรที่เช่าใช้คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จาก TOT ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ ADVANC น่าจะมีความเข้าใจในระเบียบปฏิบัติและความต้องการของ TOT มากกว่า นอกจากนี้ ADVANC ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งกว่าผู้สนใจคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ รายอื่นๆที่เหลืออีก 4 ราย
(+) คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ขยายระยะเวลามาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับ 21 ประเทศเพิ่มเติม 6 เดือน (1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2560) (เดอะ เนชั่น) เรื่องดังกล่าวถือว่า สอดคล้องกับกับคาดการณ์ที่มีมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวได้ช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาในประเทศไทยในช่วง 4Q59 ถึง 1Q60 เป็นผลจากการปราบปรามทัวร์ศุนย์เหรียญในระยะสั้น ทั้งนี้ เราเชื่อว่า การขยายอายุของมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 6 เดือน จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วง 3Q ซี่งเป็นช่วง low season เรายังคงน้ำหนัก Neutral สำหรับการลงทุนในกลุ่มสายการบิน โดยยังคงชอบ AOT มากที่สุดในขณะนี้ เรายังคงแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 45.4 บาท (อิงราคาพาร์ใหม่ 1.00 บาท)
(+ SST, KSL) 'ทรัพย์ศรี ไทย'หวังปลดล็อกหนี้ดัน 'มัดแมน' เข้าตลาดหุ้นลดภาระดอกเบี้ย 50 ล้านต่อปี (กรุงเทพธุรกิจ) คาดขายไอพีโอและ เข้าเทรดไตรมาส 2 ปีนี้ 'ทรัพย์ศรีไทย' ผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 80.3% ใน 'มัดแมน' จ่อรับอานิสงส์หลังดันเข้าตลาด ปลดล็อกหนี้เงินกู้กว่า 1 พันล้านบาท ช่วยลดภาระดอกเบี้ยปีละ 40-50 ล้านบาท ขณะที่ โบรกคาดบริษัทพลิกมีกำไรปีนี้ หลังปรับบัญชีบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ที่ซื้อเข้ามา ซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว 155 ล้านบาท
(-) ล้มโต๊ะกังหันลมพินาศ 9 หมื่นล้าน (ไทยรัฐ) นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) ขอเวลา 1 สัปดาห์ ที่จะสรุปเกี่ยวกับความชัดเจนในการใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ของผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ภายหลังศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนการดำเนินงานของบริษัท เทพสถิตวินด์ฟาร์ม จำกัด ที่จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากขัดต่อหลักการใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ทำให้ขณะนี้เรคกูเลเตอร์ต้องชะลอการออกใบอนุญาตประกอบกิจการให้กับผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม 11 ราย ที่กำลังดำเนินการอยู่ รวมกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์
(+) 'ERW-MINT*-AAV*' บูม รัฐต่ออายุวีซ่าอีก 6 เดือน (ทันหุ้น) กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม-การบิน เฮ! รัฐไฟเขียวยกเว้น ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 6 เดือน (มี.ค.-ส.ค.60) เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ กระตุ้นท่องเที่ยวบูม "ERW-CENTEL-MINT-AAV-BA-NOK-THAI" ถึงเวลาโกยเงิน ดันผลงานฟื้นตัว
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) ประเมินแนวรับ 180 บาท และถัดไปที่ 178 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ” ... ประเมินมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Limit) ขึ้นจากปัจจุบัน 25% (จากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของฝ่ายวิจัยฯวันที่ 1 ก.พ.) เราประเมิน BBL* ที่มี Valuation ถูกกว่า KBANK* และ SCB* จะกลับมาเป็นตัวเลือกที่ดีของนักลงทุนต่างชาติ (BBL* มี PBV 0.93x / KBANK* มี PBV 1.51x / SCB* มี PBV 1.61x)
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 29 บาท) ทดสอบแนวต้าน ±25 บาท แล้วยังไม่สามารถผ่านได้ + เปิดแก๊บ Bollinger band ทำให้มีโอกาสพักตัวแนะนำพิจารณาที่แนวรับ 24.4 บาท (Trailing stop 24.1 บาท) ... i) ผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดใน 3Q59 ii) ราคายางมะตอบเริ่มฟื้นตัวแรง iii) ประเมินกำไรปี 2560 จะพลิกกลับมาเติบโต 11.9% YoY
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) แนะนำ “สะสม” ที่แนวรับ ±2 บาท (Stop loss 1.92 บาท) … ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 จะอ่อนแอเป็นไตรมาสสุดท้าย และกำไรปี 2560 จะฟื้นตัว กลับมาเติบโตระดับ 33% ต่อปี CAGR 2559 – 2562 ทำให้ PEG ตอนนี้ ต่ำ < 0.75 เท่า (อิง Based EPS 2559)
SCC* (เป้าพื้นฐาน 640 บาท) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ 510 - 530 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน ... ประกาศปันผล 10.5 บาท/หุ้น (XD วันที่ 4 เม.ย.60)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 18.8 – 19.8 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน (Trailing stop 18.8 บาท)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
KCE* แนะนำ 'ถือ'เป้าพื้นฐาน 111 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรจากธุรกิจหลักของ KCE ใน 4Q59 จะอยู่ที่ 735 ล้านบาท (+18.8% YoY, -5.5% QoQ) ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2559 จะอยู่ที่ 3.00 พันล้านบาท (ต่ำกว่าประมาณการฯเดิม 6.4%) โดยคาดว่า GPM ใน 4Q59 จะถูกกดดันจากต้นทุนทองแดงที่เพิ่มขึ้น และช่วง low season ซึ่งจะทำให้ GPM ลดลง QoQ แต่เราคาดว่าต้นทุนที่ประหยัดได้จากโรงงานใหม่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคา copper foil ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
จิตวิทยาตลาดวันนี้ - นัยรับ 1581 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1581 จุดได้นั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1581-1596 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1581 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1581-1571 จุด
แนวรับวันนี้ : 1581/1573 แนวต้านวันนี้ : 1588/1595
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
บทวิเคราะห์ : อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]