- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 February 2017 18:26
- Hits: 1187
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังมีสิทธิปรับย้อนลบลงได้ ดังนั้นน่ารอเลือกหุ้นซื้อช่วงลบต่อไป
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังมีจังหวะแกว่งไต่ระดับด้านบวกต่อเนื่อง หลังจากตลาดหุ้นต่างประเทศวานนี้ค่อนข้างสดใส อย่างไรก็ตามกรอบบวกของตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ยังค่อนข้างแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ทำให้ SET ก็บวกขึ้นในกรอบที่ค่อนข้างจำกัดเช่นกัน และยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนตลอดทั้งวัน คาดว่ามาจากแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยง หลังตลาดขยับขึ้นมามากพอควรในช่วงก่อน
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาดูอ่อนแอลงอีกครั้ง หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐเน้นแกว่งตัวในด้านลบ แม้ว่าจะปรับลงไม่รุนแรงนักก็ตาม โดยนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งจากนโยบายห้ามพลเมือง 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐอยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทโฟล์คสวาเกนที่ถูกฟ้องร้องครั้งใหม่ในคดีโกงการตรวจจับไอเสีย นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เริ่มอ่อนตัวลงกว่า 1.5% จากตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐยังเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงพอควร ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งเริ่มกลับมาเปิดปรับตัวลงอีกครั้ง ซึ่ง FSS คาดว่า SET ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อด้วยเช่นกัน หลังจากมีรอบรีบาวด์สลับให้เห็นไปแล้ว
กลยุทธ์ : ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบเช่นเดิม ส่วนที่ซื้อแล้วจะเน้นถือเพื่อรอตลาดขยับขึ้นหาระดับดัชนีตามพื้นฐานก็ได้
แนวรับ 1586-1583 , 1580-1575 จุด
แนวต้าน 1592-1595 , 1597-1601 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SPRC, SCI, AMATA(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$162ล้าน นำโดยไต้หวัน US$78ล้าน อินโดนีเซีย US$36ล้าน และไทย US$34ล้าน ขณะที่ไหลออกจากฟิลิปปินส์ประเทศเดียว US$8ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคกลับสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากนโยบายสหรัฐซึ่งก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) พบไข้หวัดนกในไต้หวันครั้งแรกวานนี้ เป็นเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N6 คล้ายสายพันธุ์ที่ระบาดในเกาหลีใต้ตั้งแต่กลางพ.ย. และที่ญี่ปุ่นกลางธ.ค. แม้ว่าไต้หวันแทบไม่ได้นำเข้าไก่จากไทยแต่เป็น sentiment หนุนราคาไก่ จะเห็นว่าค่อยๆปรับขึ้นต่อเนื่องจาก 33 บาท/กก.ตั้งแต่ พ.ย.-ธ.ค.ปีก่อน เป็น 38 บาท/กก.ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ เราชอบ GFPT (ราคาพื้นฐาน 17.70 บาท) มากสุด มี PE 11.4 เท่า ถูกสุดในกลุ่มไก่
(-) กระทรวงการคลังเตรียมปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ให้เวลาปรับตัว 2 ปี หากครม.อนุมัติ จะกระทบต่อธุรกิจเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงทั้งหมด โดยหุ้นในตลาดฯที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ ICHI, OISHI, CBG, TIPCO, MALEE, TACC, SAPPE (น้อยสุด)
(0) ส.ป.ก.เร่งตรวจสอบเอกสารเอกชน ภายหลังที่รมว.เกษตรมีคำสั่งให้เพิกถอนสัญญากับทุกบริษัทที่ได้อนุญาตให้ทำกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้า จากนี้ไปส.ป.ก.จะตรวจสอบเอกสารและเชิญผู้ประกอบการ 18 บริษัทเข้ามาหารือ คาดใช้เวลา 7-15 วัน ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้อง (EA 260MW, EGCO 80MW, DEMCO 57MW, RATCH 35MW) จะถูกดดันจนกว่าจะมีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าราคาหุ้น EA ปรับลงมาสะท้อนข่าวลบมากเกินไป สมมติถ้าไม่มี 260MW ราคาพื้นฐานของเราที่ 33 บาทจะหายไป 10 บาทเหลือเพียง 23 บาท ทั้งที่บริษัทได้ PPA หมดแล้วและสามารถย้ายแปลงไปตั้งโครงการที่อื่นได้
(+) MTLS เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 ทำ new high ต่อเนื่องที่ 422 ล้านบาท +5% Q-Q, +76% Y-Y ตามฤดูกาลการปล่อยสินเชื่อ และยังรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้ที่ 20% แม้ต้นทุนการเงินจะเริ่มเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว เราคาดกำไรปี 2016 +70% Y-Y ส่วนปีนี้ +36% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 28.80 บาทไว้ก่อน แต่มีแนวโน้มปรับกำไรและราคาพื้นฐานขึ้นหลังการอุปโภคบริโภคเริ่มเร่งตัว แม้ราคาหุ้นเกินเป้าแต่แนะนำเก็งกำไรผลประกอบการ
(-) XO แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q16 ยังไม่สดใส เราคาด -20% Q-Q, -11% Y-Y เหลือเพียง 8 ล้านบาท แม้คำสั่งซื้อจะเริ่มกลับมาแต่มีค่าใช้จ่ายในการย้ายสายการผลิตซึ่งคาดแล้วเสร็จ 2Q17 ส่วนสินค้าที่ย้ายมาไม่ได้ต้องมีค่าทำลาย เราปรับลดกำไรปี 2016-17 ลงเฉลี่ย 9% เป็น -3.5% Y-Y ในปีนี้และ +26% Y-Y ในปีหน้า การฟื้นตัวจะอยู่ในครึ่งปีหลัง ไม่มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น แนะนำถือ ปรับราคาพื้นฐานเหลือ 6.50 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 ก.พ. - จีน: Caixin China PMI Composite (ม.ค.)
8 ก.พ. - ไทย:กนง.ประชุม (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
9 ก.พ. - ฟิลิปปินส์:ธนาคารกลางประชุม
10 ก.พ. - MSCI Quarterly Index Review
- จีน:ดุลการค้า (ม.ค.)
13 ก.พ. - ญี่ปุ่น: 4Q16 GDP
14 ก.พ. - ไทย: SEเทรดวันแรก (ราคา IPO 2.45บาท)
- จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน:4Q16 GDP, Zew Survey Expectation (ก.พ.)
15 ก.พ. - ไทย: ETEเทรดวันแรก (ราคา IPO 4.20 บาท)
- ไต้หวัน: 4Q16 GDP
- สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
16 ก.พ. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ:Housing starts & Building permits (ม.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ขณะที่นักลงทุนยังกังวลต่อนโยบายของทรัมป์เรื่องการค้าและการห้ามพลเมือง 7 ชาติมุสลิมเข้าประเทศ
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบเช่นกันโดยนักลงทุนกังวลด้านความไม่แน่นอนทางการเมืองเนื่องจากหลายประเทศจะมีการเลือกตั้งในปีนี้
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใส
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวบริเวณ 35 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 0.82 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง Baker Hughes รายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะที่มีการใช้งานในสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบดบังสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 11.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,232.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ในด้านการเมืองของทั้งใงสหรัฐฯและยุโรป
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch