WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : จุดสูงแท่งเทียนคู่ 1,532
Technical : แนวรับ 1,523-1,520 แนวต้าน 1,532 / 1,545
หุ้นแนะนำพิเศษ : KBANK แนวรับ 210/207 แนวต้าน 220/225
หุ้นเด่นรายวัน : RICHY UNIQ CRANE

  วันพุธตลาดหุ้นไทยพักฐานตามตลาดต่างประเทศที่กังวลสถานการณ์ยูเครน ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,522.41 จุด ลดลง 0.43 จุด(-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 49,916.70 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 1,048.34 ล้านบาท


  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,485-1,545 นักลงทุนหันกลับมาขายลดความเสี่ยงด้านเทคนิคหลังระดับดัชนีไม่สร้างจุดสูงกว่า 1,532 ในลักษณะของแท่งเทียนคู่เชิงลบ และตลาดยังขาดปัจจัยบวกชี้นำการกลับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยความผันผวนเป็นการปรับเพื่อรอดูผลประกอบการบริษัทฯที่ทยอยประกาศออกมาในระยะสั้น ในขณะที่ SET50 ระยะสั้นมีแนวรับสำคัญ SMA5วัน 1,019 การปรับตัวไม่ควรต่ำกว่าลงมา GAPแนวรับหลัก 1,006 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,880-20,150 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,930-20,200


  กลยุทธ์ ตลาดขาดปัจจัยบวกในการเข้าซื้อระยะสั้นต่อเนื่อง แรงขายทำกำไรระยะสั้นคาดจะเป็นการปรับตัวลงเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากผลประกอบการที่คาดหวังในครึ่งปีหลังยังเป็นปัจจัยบวกต่อระยะกลาง ดังนั้นการปรับตัวของระดับราคาจึงเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ หรือตั้งรับขั้นบันได เน้นหุ้นสถภาพคล่องสูง กลุ่มพลังงาน แรงซื้อกลับคืนเพิ่มขึ้นมาก PTTEP ขายทำรอบเพื่อเปลี่ยนเข้า PTT กลุ่มโรงกลั่น TOP BCP กลุ่มสื่อสาร ขายทำรอบสำหรับระยะสั้น หรือรอซื้อ TRUEเมื่ปรับลง หุ้นรายหลักทรัพย์ SUPER SST SPALI PTTGC ระยะกลาง ถือ

 

หุ้นแนะนำพิเศษ
  KBANK ( ปิด 215 บาท ซื้อ เป้าปี 58, 268 บาท) ปัจจัยพื้นฐานของ KBANK ยังแข็งแกร่งจากการแบงก์ขนาดใหญ่ที่มีพอร์ตสินเชื่อกระจายตัวดีและมีประสิทธิภาพในการบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้ผลประกอบการยังมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 57 เท่ากับ 2.37 หมื่นล้านบาทเติบโต 12%YoY ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปี 57-58 เพิ่มขึ้น 6% และ 9% เป็น 4.6 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโต 12% และ5.2 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโต 12% ตามลำดับ

 

หุ้นเด่นรายวัน
  RICHY (ราคา IPO 3.3 ซื้อเก็งกำไร) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งประเภทคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์/ทาวโฮมส์ โครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ “เลอริส” และ “ริชพาร์ค” โครงการประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ภายใต้ชื่อ “เดอะริช”และ “ริชชี่ วิลล์”
  UNIQ (ราคาปิด 9.90 ซื้อเก็งกำไร) รายได้และกำไรปีนี้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการ จากที่คาดว่ารายได้ปีนี้ราว 8,000ล้านบาทเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีมูลค่างานในมือ (backlog) ทั้งหมด 30,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ประมาณ 8,000 ล้านบาท งานในมือส่วนใหญ่จะเป็นงานก่อสร้างศูนย์จอดรถไฟฟ้าและจุดเชื่อมทางรถไฟ มูลค่าโครงการ 20,000 ล้านบาท ส่วนกำไรคาดว่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้เช่นกัน (ที่มา : ข่าวหุ้น)
  CRANE (ราคาปิด 5.55 ซื้อเก็งกำไร) ย้ายจากตลาด MAI เข้าเทรด SET วันนี้ CRANE ประกอบธุรกิจจำหน่าย บริการซ่อมและให้เช่ารถเครน รถโฟลคลิฟท์ รถเทรลเลอร์ และรถขนส่ง ผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้จะทรงตัวเท่ากับปี 56 แต่จะเติบโตก้าวกระโดดในปี 58 จากการที่รัฐบาลเดินหน้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่ และถเครนขนาด 1,250 ตันจะเริ่มรับออเดอร์งานโครงการจากลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้แนวโน้มรายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* EFORL / TSF                มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE     มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK       มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57
* AIRA / MPG / PAE              มีผลบังคับใช้ 21 ก.ค. - 29 ส.ค.57
* BMCL / CKP/ EE / LIVE / RASA/ RPC/ TCC   มีผลบังคับใช้ 28 ก.ค. - 5 ก.ย.57
* TMI / TH                   มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 12 ก.ย. 57

***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 13.87 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.87 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 7% จากเดือนก่อนหน้า หลังยอดนำเข้าลดลง 1.2% สู่ระดับ 2.3740 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ1.9586 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามดัชนีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่มีรายงานว่ารัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารในบริเวณชายแดนยูเครน ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 13.87 จุด หรือ +0.08% ปิดที่ 16,443.34 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.05% ปิดที่ 4,355.05 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.03 จุด หรือ +0.00%ปิดที่ 1,920.24 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.46 เหรียญ
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 46 เซนต์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อความต้องการพลังงานในประเทศหลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงาน สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง มลรัฐโอกลาโฮมาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 83,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้ลดลงแรงมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่มีรายงานว่ารัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารในบริเวณชายแดนยูเครนทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 96.92 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 104.59 ดอลลาร์/บาร์เรล


Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!