- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 06 February 2017 17:37
- Hits: 1144
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาดยังต้องระวังจังหวะแกว่งย้อนลบ ดังนั้นรอเลือกหุ้นซื้อช่วงลบดีกว่า
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังแกว่งทรงตัวได้ดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งเช้าวันศุกร์ หลังจากวันก่อนหน้าผันผวนและอ่อนตัวลงภายในกรอบแกว่งเดิม โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ก็แกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะอ่อนตัวลงแดนลบกดดัน อย่างไรก็ตามในภาคบ่ายตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งขยับกลับมาบวกได้ดีขึ้น แม้ว่าจะยังมีกรอบบวกจำกัด แต่ก็ช่วยหนุนให้ SET ไต่ระดับมาแกว่งบวกขึ้นอีก และปิดเป็นบวกได้ถึงกว่า 10 จุด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ค่อนข้างสดใส หลังช่วงค่ำวันศุกร์ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวกได้ดี ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ม.ค.ที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังแกว่งตัวด้านบวกให้เห็น ตอบรับการที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเดินหน้าลดการผลิตตามข้อตกลง อย่างไรก็ตามกรอบการฟื้นตัวของราคาน้ำมันยังค่อนข้างแคบ และตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดทำการก็ยังมีกรอบบวกค่อนข้างจำกัด และแกว่งตัวผันผวนอยู่ รวมทั้ง SET ขยับขึ้นมามากแล้ว โดยยังมีกรอบพักตัวน้อย ทำให้ upside จากระดับดัชนีตามพื้นฐานที่ FSS ประเมินไว้แถว 1650 จุดยังค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนเพิ่ม ทำให้ต้องระวังแรงขายกดดันให้พักตัวไว้ก่อนเช่นเดิม
กลยุทธ์ : FSS ยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นซื้อช่วงลบต่อไปก่อนดีกว่า ส่วนถ้าซื้อแล้วสามารถเน้นถือเพื่อรอลุ้นดัชนีขยับขึ้นหาระดับดัชนีตามพื้นฐานได้
แนวรับ 1580-1578 , 1573-1570 จุด
แนวต้าน 1585-1587 , 1590-1592 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SPCG, GTB, CBG(buy back)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$255ล้าน นำโดยไต้หวัน US$176ล้าน เกาหลีใต้ US$86ล้าน และไทย US$21ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$26ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) แม้ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะออกมาดีมาก (+227,000 ตำแหน่ง vs คาด +175,000 ตำแหน่ง ซึ่งหนุนดาวโจนส์บวก 186 จุด แต่ค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มน้อยกว่าตลาดคาด กดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อ
(+) เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าต่อ สัปดาห์ที่ผ่านมาแม้ต่างชาติจะขายทั้งหุ้นและฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น แต่เงินที่ไหลเข้าพันธบัตรมากกว่า ทำให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนือง ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแข็งค่าต่อหลัง Bond yield สหรัฐยังคงปรับตัวสูงขึ้น หุ้นขนาดเล็กและหุ้นปันผลน่าจะ perform ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่เพราะความเสี่ยงในต่างประเทศยังมีอยู่ สัปดาห์นี้ติดตามผลประกอบการ GPSC, LPN, BEM, BTS และมีการประชุมกนง.รอบแรกของปี ซึ่งคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5% เพื่อรอดูผลกระทบจากความเสี่ยงนอกประเทศ
(+) SAPPE เราคาดกำไรปกติ 4Q16 ชะลอตามฤดูกาล -18.7% Q-Q แต่ +105.6% Y-Y จากฐานต่ำในปีก่อนหน้า แต่คาดมีกำไรพิเศษจากการขายธุรกิจในอินโดนีเซียเกือบ 30 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิ +7.4% Q-Q, +146% Y-Y และกำไรปกติทั้งปี +17.6% Y-Y ส่วนปี 2017 เราปรับคาดกำไรขึ้นเป็นโตเร่งตัว +26.7% Y-Y จากการฟื้นตัวของตลาดจีนหลังได้ Distributor รายใหม่ ปัจจุบันมี PE เพียง 16.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 20 – 22 เท่าอย่างมาก แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 40 บาท
(+) EKH เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 ชะลอตัว -24% Q-Q ตามฤดูกาล แต่โตแข็งแกร่ง +40.7% Y-Y ได้อานิสงส์จากฤดูฝนที่ลากยาวมาถึงปลายปี และคาดกำไรทั้งปี 2016 +63.8% Y-Y และปี 2017 +23.7% Y-Y จากจุดเด่นด้านศูนย์แม่และเด็กและศูนย์อุบัติเหตุซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ การเติบโตระยะยาวถูกรองรับด้วยอาคารใหม่ที่จะแล้วเสร็จในปี 2019 คงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 8 บาท
(+) IRPC ทิศทางกำไร 4Q16 สดใสตามโรงกลั่นอื่นเพราะค่าการกลั่นฟื้นและมีกำไรจากสต็อก เราคาดกำไรสุทธิของ IRPC +37% Q-Q, +353% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปี +7% Y-Y และคาดกำไรปีนี้ -10% จากกำไรสต็อกที่ลดลง แต่ยังแนะนำซื้อและยังคงเป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มพลังงาน เพราะมาร์จิ้นที่จะเพิ่มขึ้นในระยะยาวจากโครงการ UHV ที่ลงทุนไป ราคาพื้นฐาน 5.80 บาท และคาดจ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น (yield 3.7%)
(-) ADVANC กำไร 4Q16 ดีกว่าคาดจากรายได้ที่เร่งตัวขึ้น แต่ต้นทุนกดดันทำให้กำไรปกติทั้งปี 2016 -19% Y-Y แนวโน้มต้นทุนและค่าเสื่อมฯที่สูงขึ้นทำให้เราปรับกำไรปกติปี 2017 ลง 11% เป็น -13% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 170 บาทจาก 175 บาท ADVANC ประกาศลดอัตราการจ่ายปันผลลงเหลือไม่ต่ำกว่า 70% ทำให้ Yield ทั้งปีเหลือ 4% (งวด 2H16 จ่าย 4.29 บาท/หุ้น yield 2.7% XD 5 เม.ย.) แนะนำเพียงถือ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
6 ก.พ. - อินโดนีเซีย: 4Q16 GDP
7 ก.พ. - จีน: Caixin China PMI Composite (ม.ค.)
8 ก.พ. - ไทย:กนง.ประชุม (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
9 ก.พ. - ฟิลิปปินส์:ธนาคารกลางประชุม
10 ก.พ. - MSCI Quarterly Index Review
- จีน:ดุลการค้า (ม.ค.)
13 ก.พ. - ญี่ปุ่น: 4Q16 GDP
14 ก.พ. - ไทย: SEเทรดวันแรก (ราคา IPO 2.45บาท)
- จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน:4Q16 GDP, Zew Survey Expectation (ก.พ.)
15 ก.พ. - ไทย: ETEเทรดวันแรก (ราคา IPO 4.20 บาท)
- ไต้หวัน: 4Q16 GDP
- สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
16 ก.พ. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกได้ค่อนข้างดีและยืนเหนือระดับ 20,000 จุดได้อีกครั้งหลังตัวเลขการจ้างงานเดือน ม.ค. แข็งแกร่งเกินคาด
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกันโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานทางฝั่งสหรัฐฯที่ออกมาดีกว่าคาด
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้นแม้ว้าตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานจะออกมาผสม
(+) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวแช็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดหลุดต่ำลงต่ำกว่า 35 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 0.29 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53.83 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันหลังสหรัฐฯกำหนดคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,220.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงเฉลี่ยของแรงงานสหรัฐฯเดือน ม.ค. เพิ่มในอัตราที่ลดลง
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch