- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 February 2017 16:05
- Hits: 31885
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'FED คงดอกไม่ช่วยอะไร'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงเป็นอีกวันที่ดัชนีปรับตัวลดลงแม้ว่าในช่วงเปิดตลาดดัชนีจะสามารถยืนในแดนบวกได้หลังจากผลการประชุม FED ออกมามีมติคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่หลังจากนั้นดัชนีมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่องโดยแรงขายกระจายไปในหลายๆกลุ่มไม่ว่าจะเป็นธนาคาร รับเหมาก่อสร้างสื่อสาร รวมถึงค้าปลีก (ติดลบกลุ่มละ 0.5%) ปิดตลาดดัชนีปรับลดลง 3.65จุด(-0.2%) มาอยู่ที่ 1,572.67 จุด ด้วย Vol. 51,107 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) วานนี้ดัชนีDJIA ปิดลบเล็กน้อย แม้ภาพตลาดโดยรวมจะถูกกดดันจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง ปธน. สหรัฐฯ กับผู้นำประเทศต่างๆ ที่คาดอาจรุนแรงขึ้น แต่ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขข้อมูล ศก. ที่ออกมาสดใส
(-) กรมโรงงานอุตสาหกรรม รายงานยอดขออนุญาตใบ รง.4 เดือน ม.ค. 60 ลดลง 2.31%YoY คาดเอกชนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการลงทุนภาครัฐก่อน
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยเดือน ม.ค. 60 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ 74.5 จุด คาดได้อานิสงค์มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี
(+) ผบห. AAV คาดการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันขึ้น 23% ทำให้ต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น 1500 ลบ./ปี และจะกระทบต่อสายการบินต้นทุนตํ่า อย่างไรก็ตามสาย การบินได้ประกาศขึ้นค่าโดยสารเพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
(+) WORK ประกาศขึ้นอัตราค่าโฆษณา 24% จากเดิมมาอยู่ที่ 6.2 หมื่นบาท/นาที และตั้งเป้ารายได้ปี60 โต 20%YoY มาอยู่ที่ 2.8 พันลบ. โดยเตรียม
ออกอากาศ The Mask Singer (season2) ในเดือน เม.ย. พร้อมขึ้นค่าโฆษณาขึ้นจากเดิม 2 เท่า
(+) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐประจำสัปดาห์ลดลง 1.4 หมื่น ตำแหน่ง สู่ระดับ 2.46 แสนตำแหน่ง ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5 แสนต.น.
(+) กองทุน Future Fund เตรียมระดมทุน 6 หมื่นลบ. ภายใน 1Q60
(+/-) น้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.6%Day มาอยู่ที่ 53.45 US/Barrel หลังรายงานStock นํ้ามันดิบประจำสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาด
คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล หากแต่ในเดือน ม.ค. 60 ทางกลุ่ม OPEC ได้ลดการผลิตน้ำมันลงได้1 ล้านบาร์เรล/วัน และมีสมาชิOPEC กว่า 82%ปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำหนดว่าจะลดกำลังผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
(+/-)BOE มีมติคงอัตราคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% และคงวงเงิน QE ที่ 4.35 แสนล้านปอนด์ทั้งนี้BOE ได้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อตะเข้าใกล้2% และคาด GDP ปี60 ของอังกฤษจะขยายตัว 2% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.4% โดยประเมินว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวได้ถึงแม้ว่าจะ BREXIT
(+/-) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 1%Day มาปิด 1,219.40 US/ออนซ์จากความกังวลความขัดแย้งที่เกิดจาก Trump และกองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองขึ้น 10.7 ตัน (เพิ่มมากสุดในรอบ 4 เดือน)
(+/-) EXIM BANK ชี้แจงปล่อยเงินกู้ CHOW เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น และมีการตรวจสอบเอกสารว่ามีการเบิกเงินกู้ไปชำระค่าก่อสร้างจริง
(+/-) ETE จะเข้าเทรด MAI วันที่ 15 ก.พ. กำหนดราคา IPO ที่ 4.20 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
· อยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการ 4Q59/งบปี59 (สิ้นสุด~สิ้นเดือน ก.พ.)
· ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ได้แก่อัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (3 ก.พ.), PMI นอกภาคการผลิตสหรัฐ (3 ก.พ.)
กลยุทธ์การลงทุน 'รอรับหุ้นพลังงาน'
ประเมินตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ ด้วยโมเมนตัมลบที่มากขึ้นในตลาดทุนโลก เรามองว่าหุ้นรายตัวมีโอกาสถูกขายทำกำไร จากที่ยังขาดการเติบโตของผลประกอบการในช่วง 1Q60 หนุน เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นกลุ่มพลังงานเมื่ออ่อนตัวโดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน โดยคาดหวังการประกาศตัวเลขการผลิตOPEC ในช่วงกลางเดือน สำหรับการเก็งกำไรสั้นแนะนำกลุ่มที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการ 4Q เด่น รวมถึงเก็งกำไร rebound กลุ่มที่มีปัญหาเฉพาะตัว
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
SGP เก็งกำไร
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หนุนให้ราคา LPG ปรับตัวบวกต่อเนื่องในเดือน ม.ค. 60
คาดรายงานผลประกอบการ 4Q59 เด่น จากราคา LPG ที่ปรับเพิ่มขึ้น QoQ'
· ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ PER 13.3 เท่า PBV 1.36 เท่า
AAV เก็งกำไร
ประเด็นการขึ้นภาษีน้ำมันคลี่คลายหลังปรับราคาตั๋วขึ้นทั้งอุตสาหกรรม เข้าสู่ช่วง High Season ในไตรมาส 1 จากช่วงเทศกาลตรุษจีน บริษัทคาด Load Factor ข่วง 1Q60 อยู่ที่ 85-86% ใกล้เคยี งปีก่อน