- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 February 2017 16:02
- Hits: 31834
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ กังวลสัมพันธ์ภาพระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศมหาอำนาจที่เริ่มตึงเครียด ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.03%, -0.11%, 0.06%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังดอยซ์แบงก์รายงานตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4/2559 จากกรณีค่าปรับสหรัฐฯ ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.27%, 0.47%, -0.01%, 0.79%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ คล้าย ๆ ทิศทางเดียวกับภูมิภาค มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นธนาคารพาณิชย์เป็นรายตัว รวมทั้งกลุ่มรับเหมา และหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการออกมาดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2559 ที่ผ่านมา ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งบวกและลบ หลังผลการประชุมเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม พร้อมทั้งระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัวในระดับปานกลาง อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ได้พูดถึงช่วงเวลาที่แน่นอนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าการประชุมในเดือนมี.ค. นี้ เฟดน่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากต้องรอดูนโยบายทางด้านการคลังของทรัมป์ให้ชัดเจน เพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อไป ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ในปัจจุบันอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์
แต่อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดว่าทิศทางระยะยาวของดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าเนื่องจากเฟดยังไม่ได้ปรับลดการคาดการณ์สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ที่คาดว่าจะปรับขึ้น 3 ครั้ง และเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงได้รับประโยชน์จากการปรับลดภาษี และการกำกับดูแลภาคธุรกิจ แม้ว่าระยะสั้นดอลลาร์จะได้รับผลกระทบจากนโยบายห้ามเข้าประเทศของ 7 ชาติมุสลิมและผู้อพยพของทรัมป์ สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนยังคงติดตามคือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนม.ค. ที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 165,000-170,000 ตำแหน่ง หากตัวเลขออกมาดีกว่าที่คาด ก็น่าจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ส่วนประเด็นการจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ ที่มีการเสนอมายังสภาคองเกรสของพรรครีพับลิกัน ซึ่งครองเสียงข้างมาก โดยเสนอแผนจัดเก็บภาษีกับบริษัทสหรัฐฯ
ที่นำเข้าสินค้าหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศมาผลิตหรือขายต่อในสหรัฐฯ เพื่อเป็นการสกัดกั้นบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ให้ลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และมีการตั้งฐานการผลิตในประเทศแทน ณ จุดนี้เองเรามองว่าประเด็นนี้จะทำให้ราคาสินค้าในสหรัฐฯ แพงขึ้น เนื่องจากการผลิตในสหรัฐฯ จะสูงกว่าประเทศที่สาม ซึ่งประเด็นนี้อาจส่งผลกระทบต่อประเทศในเอเซียที่เป็นผู้ส่งออกส่วนใหญ่ไปที่สหรัฐฯ คาดว่าจะมีการเก็บภาษีนำเข้า 20% จากต่างประเทศ สินค้าที่เราคาดว่าจะได้ผลกระทบจากกรณีนี้ จะเป็นน้ำมันดิบ ที่สหรัฐฯ ได้นำเข้าจากซาอุราว 10% ของการส่งออกของซาอุฯ นอกจากนี้อาหารแช่แข็งที่มีการนำเข้าจากเอเซียเพื่อไปขายต่อในสหรัฐฯ อาจจะได้รับผลกระทบ ในกรณีนี้ยังต้องรอดูนโยบายที่ชัดเจนจากสหรัฐฯ อีกครั้ง ในขณะเดียวกันนโยบายนี้จะไม่เก็บภาษีเพิ่ม หากบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ส่งออกสินค้าหรือวัสดุใด ๆ ออกไปนอกสหรัฐฯ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า จะยังผันผวนในกรอบแคบ ๆ แต่หุ้นพลังงานอาจฟื้นตัวบ้าง
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ดีดกลับไม่ข้ามแถว ๆ 1,590-1,595 จุด แนะนำ ขายทำกำไร
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]