- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 February 2017 15:47
- Hits: 2139
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งตัวแคบๆ รอข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ
KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์/บวกแคบๆ ความกังวลต่อประเด็นความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ผนวกตลาดรอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้ ยังคงจำกัดอัพไซด์ (วานนี้ ดัชนีฯ แกว่งแคบๆ ใกล้เคียงที่ประเมิน) รายงานข่าวที่ว่า ปธน. ทรัมป์มีบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ไม่สู้ดีนักกับผู้นำออสเตรเลีย (ประเด็นกฎหมายผู้อพยพ) และผู้นำเม็กซิโก (ประเด็นอาชญากร) จะยังกดดันจิตวิทยาตลาด ขณะที่นักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอกิจกรรมเพื่อรอตัวเลขจ้างงานเดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ ในค่ำวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อประเมินมุมมองดอกเบี้ยเฟด โดย consensus คาดสหรัฐฯ จ้างงานเพิ่มขึ้น 1.70 แสนคน และอัตราว่างงานทรงตัวที่ 4.7% ด้านปัจจัยภายในยังเป็นบวก ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค. ฟื้นตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ (ดูนัยต่อหุ้นรายตัว ในความเห็นส่วนถัดไป)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
สะสมหุ้นกลุ่มค้าปลีก (ROBINS*, COM7*) และ SITHAI / เก็งกำไร BBL*
กลุ่มการบริโภค เราประเมินราคาหุ้นในกลุ่มฯที่ Underperform ตลาดฯตั้งแต่ต้นปี เป็นการขายเปลี่ยนกลุ่มเล่นของนักลงทุน (Sector rotation) โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานกลับดีขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.ปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และอัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค.ขยายตัวเป็น +1.55% (จากไม่มีการขยายตัวในปีก่อน) เป็นผลจากราคาสินค้าเกษตรที่ฟื้นตัวและการลงทุนภาครัฐฯที่ชัดเจน สนับสนุนการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ เป็นโอกาสสะสม
i) ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นแกว่งตัวขึ้นหลังทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ ±58 บาท มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 62.5 บาท (แนวต้านเทรนไลน์) แนวรับ 59 บาท (Stop loss 58 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 4Q59 ยังคงเติบโตได้ 7.5% YoY เป็น 755 ล้านบาท และคาดกำไรปี 2560 จะเติบโตเด่น 14.6% YoY เป็น 2.9 พันล้านบาท จาก Same store sale growth ที่คาดจะเติบโตเทียบปีก่อน และการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง
ii) COM7* (เป้า Consensus 14.5 บาท) 1) เราประเมินราคาหุ้นลงมาทดสอบแนวรับ กรอบ Downtrend line channel ที่ 11.5 บาท มีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 12.8 บาท (หากต่ำกว่า 11.5 บาท แนะนำ รอสะสมแนวรับถัดไปที่ 11 บาท) 2) ในเชิงพื้นฐาน Consensus คาดกำไร 4Q59 โต +25% YoY เป็น 130 ล้านบาท และคาดกำไรปี 2560 จะโตเด่นต่อเนื่องอีก 35% YoY เป็น 565 ล้านบาท จากการขยายสาขาต่อเนื่อง + การเข้าบริหาร True shop + การรับอานิสงส์เป็นพันธมิตรกับ TRUE* เต็มปี และคาดงบการตลาดฯของ TRUE* ที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้จะเป็นบวกกับกำไรของ COM7* 3) ในเชิง Valuation PEG 0.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค่าปลีกที่ > 2 เท่า ขึ้นไป
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) 1) เราประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 จะอ่อนแอเป็นไตรมาสสุดท้าย จาก i) ทยอยย้ายเครื่องจักรจากไทยไปเวียดนามใน 2H59 – 1Q59 (การผลิตชะงักในช่วงดังกล่าว) และ ii) ลูกค้าผู้ประกอบการเครื่องดื่มที่เวียดนามถูกเข้าตรวจสุขอนามัย ทำให้ชะลอคำสั่งซื้อชั่วคราว 2) 1Q60 จะเริ่มฟื้นตัว และฟื้นเด่นใน 2Q60 จาก i) ลูกค้าที่ประเทศเวียดนามกลับมาสั่งซื้อสินค้าได้ตามปกติ ii) เครื่องจักรที่ย้ายไปเวียดนามทยอยติดตั้งแล้ว คาดจะเริ่มหาลูกค้าใหม่ใน CLMV ชดเชยลูกค้าเก่าบางรายใน อินโดนีเซีย ฟิลลิปินส์ และลาว ที่ลดคำสั่งซื้อไปในปี 2559 iii) สภาพอากาศกลับมาปกติ จากปีที่แล้วอากาศในภูมิภาคไม่ร้อน กระทบต่อยอดขายเครื่อมดื่ม และ iv) ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัวส่งผลบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค 3) ประเมินกำไรฟื้นตัว กลับมาเติบโตระดับ 33% ต่อปี CAGR 2559 – 2562 ทำให้ PEG ตอนนี้ ต่ำเพียง 0.78 เท่า (อิง Based EPS 2559) 4) ประเมินแนวรับ 2.06 บาท แนะนำ “สะสม” ที่แนวรับ และพิจารณาแนวต้าน 2.14 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 2.22 บาท (Stop loss 1.92 บาท)
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) 1) ประเมินมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Limit) เป็น 49% จากปัจจุบัน 25% (จากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของฝ่ายวิจัยฯวันที่ 1 ก.พ.) เราประเมิน BBL* ที่ Valuation ถูกกว่า KBANK* และ SCB* จะกลับมาเป็นตัวเลือกที่ดีของนักลงทุนต่างชาติ (BBL มี PBV 0.9x / KBANK* มี PBV 1.46x / SCB* มี PBV 1.58x) 2) ประเมินแนวรับ 174.5 บาท และ 172.5 บาท แนวต้านแรก 176 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 180 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) IRPC* ปรับหนี้ 2 หมื่นล.กู้ 4 แบงก์คืนหนี้ดอกเบี้ยสูง หวังลดภาระ 400 ล้านต่อปี (กรุงเทพธุรกิจ) ชะลอลงทุนโครงการใหม่ช่วง 2-3 ปี เหตุลงทุน ขนาดใหญ่หลายโครงการก่อนหน้านี้ 'ไออาร์พีซี' เตรียมรีไฟแนนซ์เงินกู้ 2 หมื่นล้านบาท ช่วงเดือน พ.ค. นี้ เชื่อลดภาระดอกเบี้ยลงปีละ 300-400 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าอิบิทด้าปีนี้ 18,000 ล้านบาท จากแรงหนุนของโครงการยูเอชวี และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
(+) SIRI ดึง SCB* ร่วมทุนผุด'สิริเวนเจอร์'ปั้นนวัตกรรมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัย (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) แสนสิริ จับมือธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัว "สิริ เวนเจอร์" บริษัทร่วม Corporate Venture Capital ทำวิจัย และลงทุน สร้างนวัตกรรม Property Technology เล็งใช้ทุนจดทะเบียน100 ล้านบาท ลงทุนสร้างสรรค์เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ร่วมกับกลุ่มนักวิจัย, นักประดิษฐ์, ผู้ผลิตและ ธุรกิจสตาร์ทอัพ ตั้งเป้าสร้างเครือข่ายกับผู้พัฒนานวัตกรรมด้าน Property Technology อย่างน้อย 300 ราย ภายในปี 2563 เชื่อ สิริ เวนเจอร์ ช่วยเสริมนวัตกรรมที่อยู่อาศัยเสริมการเติบโตธุรกิจหลัก
(- AAV*, BA*) ภาษีน้ำมันเครื่องบิน ป่วนท่องเที่ยวส่อวูบ (โพสต์ทูเดย์) หวั่นเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน กระทบเที่ยวในประเทศ โลว์คอสต์อัดโปรฯ กระตุ้น นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 150 บาท/คน/เที่ยวกับผู้โดยสาร อาจกระทบการตัดสินใจเที่ยวในประเทศบ้าง เพราะปกติราคาขยับขึ้นแค่ 10-20 บาทสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์ คอสต์แอร์ไลน์) ก็มีผลแล้ว ผู้บริโภคส่วนหนึ่งอาจเปลี่ยนใจจากเที่ยวในประเทศไปต่างประเทศหากเทียบราคาตั๋วเครื่องบินรวมไม่ต่างกันมาก
(+) สมาคมไก่ลั่นออเดอร์พุ่งตลาดส่งออกไทยโต5% มูลค่าเฉียด1แสนล้าน (ข่าวหุ้น) สมาคมผู้ผลิตไก่ฯ ชูออเดอร์เนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ของไทยเพิ่มขึ้น เชื่อปีนี้ตลาดส่งออกโต 5% คาดมูลค่าส่งออกเฉียด 1 แสนล้านบาท หลังไข้หวัดนกระบาดในหลายประเทศ หนุนหุ้นกลุ่มส่งออกไก่ CPF*-GFPT-TFG* ได้อานิสงส์
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
UKEM (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 2.20 บาท … สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรหุ้น GIFT ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุด Trailing stop 5.35 บาท
BCPG (เป้าพื้นฐาน 13.5 บาท ... มีโอกาสปรับขึ้น) ประเมินรูปแบบราคา Sideway รอสัญญาณการ Breakout กรอบแนวต้านที่ 14 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 14.4 บาท – 14.7 บาท แนวรับ 13.6 บาท (Stop loss 13.6 บาท)
SCC* (เป้าพื้นฐาน 640 บาท) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ 506 – 526 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน แต่หากต่ำกว่า 506 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ” 502 บาท ... ประกาศปันผล 10.5 บาท/หุ้น (XD วันที่ 4 เม.ย.60)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 18.9 – 19.9 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน (Stop loss 18.3 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TASCO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 29 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมิน ราคายางมะตอยที่ดีดตัวขึ้นแรง สร้างความมั่นใจว่าอุปสงค์ทั้งในประเทศและในภูมิภาค เริ่มกลับมาอยู่ในระดับปกติซึ่งจะช่วยให้กำไรของ TASCO ในปี 2560 กลับมาพลิกฟื้นได้ตามคาด โดยประเมินกำไรปี 2560 จะโตได้ถึง 11.9% YoY เป็น 3.0 พันล้านบาท ดังนั่น ภาพรวมของผลประกอบการที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q59 และมีแนวโน้มแข็งแกร่งตั้งแต่4Q59 เป็นต้นไป ทำให้หุ้น TASCO สมควรถูก re-rate และกลับมาซื้อขายโดยมีระดับ premium ที่ P/E 15.0x (+1.5std) จากก่อนหน้านี้ที่ P/E 12.0x (+0.5std) ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 29.00 บาทจากเดิม 23.20 บาท
BCH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 16.5 บาท ประเมินว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 208 ล้านบาท (+9.0% YoY; -14.5% QoQ) และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2559-2560 ขึ้นอีก 4.5% และ 1.5% เป็น 763 ล้านบาท (+45% YoY) และ 869 ล้านบาท (+14% YoY) ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานใน 4Q59 และปี 2560 ได้แก่ i) ผลบวกจากการปรับราคาค่ารักษาพยาบาลทั่วไปซึ่งเริ่มในเดือนมิถุนายน ii) WMC ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง และ iii) 4Q เป็นช่วงที่ผลการดำเนินงานดีตามฤดูกาล
กลุ่มอสังหาฯ น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” คาดว่ากำไรสุทธิของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ใน 4Q59 จะเพิ่มขึ้น 53% QoQ เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่หลายโครงการถึงกำหนดโอนในไตรมาสสุดท้ายของปี ในขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q59 จะลดลง 23% YoY จากฐานกำไรที่สูงใน 4Q58 ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ บวกกับผลจากภาวะตลาดที่เป็นลบใน 4Q59 ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ Neutral แต่ติดตามข้อมูลอุปสงค์ที่อั้นมาจากช่วงก่อนหน้าอย่างใกล้ชิดว่าอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นนั้นจะมีความต่อเนื่องไม่ใช่เป็นการฟื้นตัวเพียงแค่ระยะสั้นในลักษณะ Pent-up demand และพร้อมทำการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้ เลือก ANAN* และ AP* เป็นหุ้นเด่น
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- กรอบราคา 1578 – 1572 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1578 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1578-1595 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1572 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1572-1559 จุด
แนวรับวันนี้: 1572/1560 แนวต้านวันนี้: 1578/1587
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]