- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 February 2017 17:13
- Hits: 3174
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดทิ้งตัวลงในแดนลบ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 1586.87 จุด ลดลง 3.69 จุด พร้อมกับแกว่งตัวลงต่อเนื่องสลับดีดกลับขึ้นมาได้บ้างที่ยืนอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน มีจุดต่ำสุดของวันที่ 1575.86 จุด ลดลง 14.70 จุด ทั้งนี้เป็นแรงขายหลักจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และแบงก์ ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 11.01 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ PTT, PTTEP, DTAC, ADVANC, STA ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1577.31 จุด ลดลง 13.25 จุด (-0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 53,303 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ไม่สามารถยืน 1585 จุด ได้ซึ่งถือว่าเป็นแนวสำคัญ ทิ้งตัวลงตั้งแต่เปิดตลาด ด้วยการลงไปทำ Low 1575 จุดเป็นแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ก่อนที่จะมีการดีดกลับเบา ๆ ทำปิดที่ใกล้จุดต่ำสุดของวันที่ 1577 จุด จากภาพดังกล่าวทำให้แนวโน้มการพักตัวน่าจะยังไม่สิ้นสุด และมีโอกาสลงมาปิด Gap บริเวณ 1571-1572 จุด แต่อย่างไรก็ตามในภาพรายชม.ที่ทิ้งตัวลงมาแรง ทำให้มีโอกาสดีดกลับสั้น ๆ จากสัญญาณ Oversold มองแนวต้านจำกัดที่ 1580-1585 จุด ขณะที่แนวรับ 1565-1570 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1570 // 1560 จุด Resistance 1600-1619 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Daily Theme: ผันผวนกรอบจำกัด
สรุปภาวะตลาดวันทำการก่อนหน้า
ตลาดหุ้นไทยปิดลบในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก ตามความกังวลนโยบายเข้มงวดคนเข้าเมืองของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีกระแสต่อต้านในวงกว้าง ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดคละ วันนี้จับตาผลการประชุมเฟด
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
คาดดัชนีฯ ผันผวนในกรอบ 1570-1590 จุด ตลาดจับตาการประชุมเฟด ซึ่งส่วนใหญ่คาดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ แม้ล่าสุดอัตราเงินสหรัฐพุ่งเกินระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด ส่วนประเด็นนโยบายต่างประเทศ ของประธานาธิบดีทรัมป์ยังเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง หลังวานนี้โจมตีจีน ญี่ปุ่น และเยอรมนีว่าสร้างความได้เปรียบทางการค้าจากค่าเงินที่อ่อนเกินความเป็นจริง
สัญญาณเทคนิคระยะสั้นกลับมาเป็นเชิงลบ หลังดัชนีร่วงหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 5 และ 10 วัน รวมถึง RSI และ MACD กลับมามีสัญญาณลบ ซึ่งอาจถ่วงดัชนีฯ ปรับลดลงไปที่บริเวณ 1560 จุดได้อีกครั้ง
ประเด็นสำคัญวันนี้
1) – ประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าว หลังจากกล่าวหาจีนและญี่ปุ่นว่าจงใจลดค่าเงินของประเทศ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า ขณะที่ที่ปรึกษาของทรัมป์ได้กล่าวว่าเยอรมนีกำลังใช้ยูโรที่อ่อนค่าเกินความเป็นจริง เพื่อสร้างความได้เปรียบต่อสหรัฐ และคู่ค้าในสหภาพยุโรป
2) + ยูโรสแตท เผยยูโรโซนมีการขยายตัว 0.5%QoQ ใน 4Q59 จากระดับ 0.4% ในไตรมาส 3 ส่วนอัตราการว่างงานดิ่งลงสู่ระดับ 9.6% ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2009 และอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.8%YoY ในเดือน ม.ค. เทียบกับระดับ 1.1% ในเดือน ธ.ค.
3) + ธปท. ระบุว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน ธ.ค. 59 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวสูงทั้งรายจ่ายประจำและลงทุน และมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวชัดเจน (ดูรายละเอียดในเล่ม)
4) BoJ คงนโยบายการเงินตามที่ตลาดคาด และปรับเพิ่มคาดการเศรษฐกิจปีงบประมาณ 60 (สิ้นสุดเดือน มี.ค. 61) และ 61 เป็นขยายตัว 1.5% และ 1.1% จากเดิมคาด 1.3% และ 0.9%
5) จับตาผลการประชุมเฟด นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดคงนโยบายการเงิน
6) จับตารายงาน PMI ภาคการผลิต จีน ยูโรโซน สหรัฐ เดือน ม.ค.
กลยุทธ์
เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 1570 จุด
หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค )
หุ้นโมเมนตัม/ข่าวบวก ได้แก่ TSR SEAFCO BPP BIG VIBHA
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+)BAY: เป้าสินเชื่อโต 6-8% และลงทุนพร้อมเข้าสู่ยุค Digital Banking
(0)BBL: อนาคตทรงๆ คาดสินเชื่อเติบโตเท่ากับธนาคารอื่น และลงทุนเพื่อรองรับ National E-Payment
(+) COM7:ปรับประมาณการขึ้น คาดเติบโตสูง
(0) KTBST – PTTEP:เชลล์ตกลงขายสัดส่วนถือหุ้นในบงกชให้คูเวตมูลค่า $900 ล้าน
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นต่างประเทศ คืนที่ผ่านมา ความกังวลต่อนโยบายของนาย Trump มีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ highlight ของตลาดไปอยู่ที่ผลประกอบการและตัวเลขเศรษฐกิจมากกว่า โดยเฉพาะของสหรัฐฯที่ผลประกอบการที่รายงานวานนี้ออกมาไม่ดี
การประชุม FOMC เริ่มเมื่อคืนที่ผ่านมาเช่นกัน (ผลการประชุม จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยเช้าวันพฤหัส) โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ครั้งนี้ 14.5% คือไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยมีโอกาสมากกว่าที่จะปรับขึ้น ดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดของ Fed อยู่ที่ 0.50-0.75% แต่โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปอยู่ในการประชุม เดือน พ.ค. ซึ่งหมายความว่า การประชุมเดือน มี.ค. ก็อาจยังไม่ปรับขึ้นเช่นกัน ..... หาก Fed โยนการขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นครึ่งปีหลัง น่าจะทำให้ Fund Flow นั้น ยังไหลเวียนในตลาดเอเซีย ไปอีกระยะนึง แต่เราจะเห็นเงินลงทุนส่วนใหญ่ไหลเข้าตลาดพันธบัตรมากกว่าตลาดหุ้น ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำกว่าและตลาดหุ้นมีความเสี่ยงจากนโยบายของนาย Trump
ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรของของไทย เดือน ม.ค.มีปริมาณซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศเป็น net buy 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นเป็น net buy 6.4 พันล้านบาท คือนักลงทุนต่างประเทศ กลับเข้าตลาดไทย แต่ไปเข้าตลาดพันธบัตรมากกว่าตลาดหุ้น
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดวานนี้ $52.8 เหรียญ/บาร์เรล เวลานี้ ราคาน้ำมันมีทั้งปัจจัยบวกคละเคล้ากัน โดยปัจจัยบวกคือ ดอลล่าร์อ่อนและ OPEC ลดกำลังการผลิตลงแล้ว แต่มีปัจจัยถ่วงเข้ามา คือ การผลิตและตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯสูงขึ้น และความเสี่ยงของนโยบายนาย Trump ที่กดดันตลาดเกือบทุกตลาดทำให้ราคาน้ำมันทรงๆตัว ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นต่อได้ คือ เหล็ก-ยางพารา นั้น มาจากปัจจัยเฉพาะตัวมากกว่า
ปัจจัยในประเทศ การประชุม ครม. วานนี้ มีวาระที่ไม่มีผลต่อตลาดมากนัก อาทิ แผนงานเปลี่ยนระบบไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินปี 2551 – 2556 (ฉบับปรับปรุง) ของการไฟฟ้านครหลวง และการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2559/2560 และ Fitch’s ประเมินผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไทยจะปรับตัวอ่อนแอลงในปี 2560 ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะกลุ่ม
ทิศทางตลาดหุ้นตัวแปรสำคัญ ยังคงเป็น 2 ตัวแปรของต่างประเทศ คือ นโยบายนาย Trump ที่ก่อให้นักลงทุนเกิดความกังวลขึ้นมา และรอผลประชุม FOMC เราประเมิน แรงซื้อจะเบาบาง แต่ในรูปของดัชนีฯในระหว่างวัน น่าจะมี technical rebound ให้เห็น แต่โอกาสในการปิดบวกหรือลบ วันนี้จะพอๆกัน
กลยุทธ์การลงทุน เช่นเดียวกับหลายวันที่ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน และนักลงทุนมองว่าตลาดมีความเสี่ยง ........ กลยุทธ์การลงทุน สั้นๆ เรายังแนะนำ ให้เน้นเล่นหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัว และปรับจากการขายทำกำไรมาเป็น “ถือ” เพื่อรอดูทิศทางตลาด .......... ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น BCH, AAV, IRPC , CHO , PLAT
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (31 ม.ค.) –SET Index ปิด1,577.31 จุด ลดลง 13.25 จุด หรือ -0.83% มูลค่าการซื้อขาย 53,303.18 ล้านบาทตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายทรัมป์กลับเข้ามาตลาด อีกทั้งนักลงทุนยังชะลอการลงทุนติดตามผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ – ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ19,864.09 จุด ร่วงลง 107.04 จุด หรือ -0.54% ตลาดฯได้รับแรงกดดันจากนโยบายทรัมป์, ปัจจัยลบเฉพาะตัวจากผลประกอบการของบริษัทที่อ่อนแอ, และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงเช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 ปิดลบ -0.7% แตะที่ 360.12 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI –สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ +0.3% ปิดที่ 52.81 ดอลลาร์/บาร์เรลจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และผลสำรวจซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันของ โอเปก ปรับตัวลดลงในเดือนม.ค.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ –ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 111.8 ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งแตะระดับ 113.7 ในเดือนธ.คต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 113.0 สำหรับเดือนม.ค.
เศรษฐกิจยุโรป –สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ยูโรโซนมีการขยายตัว 0.5% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.4% ในไตรมาส 3
เศรษฐกิจญี่ปุ่น –ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงิน และปรับเพิ่มแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
เศรษฐกิจไทย –ครม. มีมติอนุมัติแผนพัฒนาจังหวัด พร้อมทั้งเห็นชอบคำของบประมาณประจำปี 2561 เพื่อใช้ในการดำเนินการดังกล่าวรวม 63,145 ล้านบาท คิดเป็นทั้งหมด 2,505 โครงการ
เศรษฐกิจไทย –ธปท. ระบุว่าเศรษฐกิจไทยในเดือนธ.ค.59 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน จากการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวสูงทั้งรายจ่ายประจำและลงทุน และมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวชัดเจน
เศรษฐกิจไทย –นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) คาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 60 จะขยายตัว 0.5-1.0% ส่วน GDP ภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 1.5%
เศรษฐกิจไทย –สภาผู้ส่งออก คาดว่าการส่งออกของไทยในปี 2560 จะเติบโตได้ประมาณ 2% จากผลของทิศทางราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559
ธนาคาร - ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไทยจะปรับตัวอ่อนแอลงในปี 2560 หลังจากที่ผลการดำเนินงานในปี 2559 มีสัญญาณการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (impaired loans) และอัตรากำไรที่ปรับตัวด้อยลงเล็กน้อย ทั้งนี้ การปรับตัวด้อยลง ดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับแนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมเป็นลบของภาคธนาคารพาณิชย์ไทยที่ฟิทช์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกองทุนและอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญยังคงปรับตัวเข็งแกร่งขึ้นและน่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ยังคงอ่อนแอได้
News Release
PTT เร่งPTTORเข้าตลท. ลุ้นครม.อนุมัติทันประชุมฯคาดปี 59 ฟันกำไร 8.2 หมื่นล้านโต 300%
+ “PTT” เร่งแผนส่งPTTOR เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯลุ้นครม.ไฟเขียวทันเปิดประชุมผู้ถือหุ้นเม.ย.นี้ลั่นปี 60 ทุ่มงบลงทุน 1 หมื่นล้านบาทเสริมแกร่งค้าปลีกน้ำมันขยายปั๊มพุ่ง 1,600 แห่งลุ้นปี 59 ฟันกำไร 82,000 ล้านบาทโตกระฉูด 300% (ข่าวหุ้น)
MTLS ปีนี้ปล่อยกู้หมื่นล. กองทุน-ต่างชาติรุมช้อป
+ กองทุน-ต่างชาติเข้าเก็บหุ้นเมืองไทยลิสซิ่งหรือMTLS เพิ่มเป็น10.5% จากเดิม7% หลังผลงานมาตามนัดโตกว่า80% ราคาหุ้นวิ่งทำนิวไฮแตะ30 บาทตั้งเป้าปีนี้ปล่อยสินเชื่อรายย่อย1 หมื่นล้านขยายสาขาอีก600 สาขาพร้อมประกาศงบQ4 วันที่21 ก.พ.นี้(ข่าวหุ้น)
ORI ปั๊มรายได้ปีนี้โต6พันล้านเตรียมเปิด9 โครงการมูลค่า1.5 หมื่นล้าน
+ “ออริจิ้นฯ”เผยปี60 ตั้งเป้ารายได้โต6,000 ล้านบาทหลังตุนแบ็กล็อกรอบุ๊คแล้ว77% หรือกว่า4,600 ล้านบาทพร้อมเล็งเปิดใหม่9 โครงการมูลค่ารวมกว่า15,000 ล้านบาทหวังปั๊มยอดขายปีนี้โต20% แตะ13,000 ล้านบาทส่วนปี59 แย้มรายได้ตามนัด4,000 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
TNR ตั้งเป้าปี60รายได้พุ่ง8% ลุยขยายตลาด-เล็งเพิ่มงานOEM ต่างประเทศ
+ TNR วางเป้าปีนี้รายได้พุ่ง7-8% เดินหน้าขยายตลาดทั้งไทย-ต่างประเทศทยอยบุ๊ครายได้ออเดอร์400 ล้านชิ้นเน้นเพิ่มงานOEM ในต่างประเทศลั่นแผนปี63 แบรนด์“ONETOUCH” โกยมาเก็ตแชร์35% ฟากโบรกฯเชียร์“ซื้อ”เป้า39 บาท(ข่าวหุ้น)
ADVANCเงินสดเต็มมือสะสมดักฤดูกาลปันผล
+ ADVANC เตรียมชงบอร์ดพิจารณางบปี2559 และอนุมัติการจ่ายปันผลภายในวันที่3 กุมภาพันธ์นี้โบรกคาดYield เกิน4.5% ต่อปีขณะที่ฐานทุนแข็งแกร่งมีเงินสด-กำไรสะสมกว่า1 หมื่นล้านบาทด้านบริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้จำกัดชี้เข้าสู่ช่วงไฮซีซันของการปันผลแนะสะสมเข้าพอร์ตรับทรัพย์(ทันหุ้น)
BPPวางหมากโซลาร์ญี่ปุ่นอัพกำลังการผลิตแตะ129MW
+ BPP เดินหน้าลงทุนโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเพิ่ม2 โครงการกำลังผลิต28.9 เมกะวัตต์หนุนยอดรวมแตะ129.8 เมกะวัตต์เริ่มทยอยCOD ปี2560-2562 เผยโซลาร์จีนจ่ายไฟฟ้าแล้ว100 เมกะวัตต์แย้มสนใจประมูลโครงการโซลาร์ราชการระยะ2 ฟากโบรกส่องกำไรปีนี้4.7 พันล้านบาทแนะ "ซื้อ" เป้า28.80 บาท(ทันหุ้น)
TSRปูพรมตลาดต่างแดนเดินหน้าปล่อยสินเชื่ออื้อ
+ TSR ตั้งเป้ารายได้ปี2560 แตะ2 พันล้านบาทเดินหน้าขยายธุรกิจทั้ง3 กลุ่มทุ่มงบลงทุน5 ล้านบาทลุยเปิด5 สาขาใหม่รุกขยายธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในและต่างแดนหวังอัพสัดส่วนรายได้ทะลุ10% ส่วนธุรกิจสินเชื่อประเดิมปล่อยต้นปีนี้เน้นลูกค้าเดิมที่มีกว่า5 แสนราย(ทันหุ้น)
ESTARเศรษฐีที่ดินพันไร่กลุ่มทุนจ้อง-รายได้นิวไฮ
+ ESTAR โชว์ที่ดินเปล่าเต็มหน้าตักกว่า1 พันไร่มูลค่าทางบัญชี2.27 พันล้านบาท "ต่อศักดิ์เลิศศรีสกุลรัตน์" แย้มที่ดินแปลงใหญ่ต.มาบข่าจ.ระยองกว่า600 ไร่มูลค่าทางบัญชีรวม446 ล้านบาทมีกลุ่มนิคมดอดเจรจาซื้อแต่ยังไม่สรุปปักธงปี60 รายได้นิวไฮ2.2 พันล้านบาทจ่อผุดโครงการใหม่2-3 แห่งมูลค่า3 พันล้านบาทซุ่มศึกษาธุรกิจใหม่หวังกระจายความเสี่ยง(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์