- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 January 2017 22:35
- Hits: 861
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Upside จากเป้าหมายเหลือน้อย ดังนั้นถ้าจะซื้อใหม่ยังน่ารอช่วงลบ!!
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังบวกต่อ หลังตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่แกว่งตัวด้านบวกได้ดี แม้ว่าจะมีกรอบบวกจำกัดก็ตาม โดยตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ Brexit ของอังกฤษยังต้องรอผ่านมติรัฐสภา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐก็ช่วยสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกได้ อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกใหม่ยังไม่ค่อยมี ทำให้ SET มีแรงขายช่วงบวกกดดันให้ผันผวนตลอดวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ยังหนุนในเชิงบวกต่อเนื่อง จากการบวกขึ้นกว่า 100 จุดของตลาดหุ้นสหรัฐเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่า ปธน.สหรัฐคนใหม่ จะออกมาตรการที่เอื้ออำนวยต่อภาคธุรกิจและการจ้างงาน รวมทั้งผลประกอบการของเอกชนรายใหญ่ในสหรัฐก็ยังออกมาสดใสอีก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดเป็นบวกต่อเนื่อง แม้ว่าส่วนใหญ่จะแกว่งบวกในกรอบแคบก็ตาม แต่เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบบวกของ SET ก็มีสิทธิถูกจำกัด โดยเฉพาะตลาดขยับขึ้นมาพอควรแล้วด้วย จึงยังแนะนำให้ระวังการผันผวนและอ่อนตัวของ SET ไว้ก่อนเช่นเดิม
กลยุทธ์ : เรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วง SET ปรับลงดีกว่า
แนวรับ 1582-1578 , 1575-1570 จุด
แนวต้าน 1586-1588 , 1590-1594 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : HANA, THCOM, COM7(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$525ล้าน นำโดยไต้หวัน US$388ล้าน และเกาหลีใต้ US$151ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทยมากที่สุด US$44ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นแรงสู่จุดสูงสุดใหม่เมื่อคืนนี้จากนโยบายรัฐบาลที่มุ่งสร้างการจ้างงานและสนับสนุนภาคธุรกิจในประเทศ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) SCC กำไรดีกว่าเราและตลาดคาดมาก กำไรสุทธิ 4Q16 -11% Q-Q, +9% Y-Y จากส่วนต่างสินค้าปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง ทำให้กำไรทั้งปี 2016 +24% Y-Y เป็น 5.6 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สำหรับปี 2017 เรายังคงคาดกำไร 5.04 หมื่นล้านบาท -10% Y-Y หดตัวมากกว่าที่คาดเดิมเพราะฐานที่สูงมากในปีก่อนเพราะธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ทำไว้ดีมากเกิน แต่ยังแนะนำซื้อ ความน่าสนใจอยู่ที่ PE ไม่แพง เพียง 12 เท่า และมีปันผลงวด 2H16 อีก 10.50 บาท/หุ้น (Yield 2.1%) ราคาพื้นฐาน 600 บาท
(+) GLOBAL แม้ยอดขายต่อสาขาเดิมใน 4Q16 จะพลิกกลับมาติดลบ -2.8% Y-Y ตามฤดูกาล และไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ แต่เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 จะ +8% Q-Q, +61% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ ทำให้กำไรทั้งปี 2016 +66% Y-Y เราปรับกำไรปี 2017 ขึ้น 9% เป็น +35% Y-Y จากการปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นและปรับลดค่าเสื่อมราคาลงจากการวิธีบันทึกทางบัญชี ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 22 บาทจาก 17.20 บาท เพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(+) ARROW เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 +8% Q-Q, +24% Y-Y สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ 75 ล้านบาท เพราะมีงานส่งมอบท่อสื่อสารให้รถไฟฟ้าสายสีเขียว บ.ย่อยคือบริษัทเมฆาเอสมีงานวางระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และลูกค้าบางกลุ่มเร่งสต็อกเพราะกังวลกับการพุ่งขึ้นของราคาเหล็ก ทำให้กำไรทั้งปี 2016 ซึ่งเป็นที่ยากลำบาก +14% Y-Y แต่สำหรับกำไรปี 2017 ที่เราคาด +11% Y-Y มีโอกาสดีกว่าคาด จากงานก่อสร้างที่ฟื้นตัวและ Backlog ของบ.เมฆาเอสเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน PE ยังต่ำ 14 เท่า แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 22.30 บาท
(+) CPALL ปฏิเสธข่าวลือซื้อกิจการที่โปแลนด์ ราคาหุ้นปรับลงมา 10% ตั้งแต่มีข่าวนี้ในช่วงต้นเดือน ม.ค. เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2016-17 เติบโต 22.6% Y-Y และ 17.7% Y-Y ตามลำดับ ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 74 บาท
(+) K เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 จะทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ 17 ล้านบาท +149% Q-Q, +63% Y-Y แนวโน้มปี 2017 สดใสมากขึ้นเพราะเป็นช่วงเวลารับงาน Shop Brand ที่มีอัตรากำไรสูง ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 7.40 บาท