- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 January 2017 22:33
- Hits: 910
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดยืนเหนือ 1,580 จุด ผลักดันด้วย SCC ผลการดำเนินงาน 4Q59 ออกมาดีกว่าคาดถึง 38% บวกกับกลุ่มธนาคารที่ฟื้นตัว หลังมุมมองของนายแบงก์เป็นบวกมากขึ้นในปีนี้ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 5.47 จุด มาอยู่ที่ 1,584.29 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 66,821 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 มากถึง 1,554 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 3,735 ล้านบาท แต่คง Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 3,237 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• QTD ใน SET50 Index Futures ของต่างชาติกลับมา Long สุทธิ 2,967 สัญญา
• ติดตามการประกาศงบ 4Q59 ของ PTTEP
• Trump ลงนามเร่งด่วนก่อสร้างกำแพงตามเขตชายแดนเม็กซิโก และจำกัดผู้คนอพยพ
• DJIA ปิดทะลุ 20,000 จุด
• คาด CPALL ฟื้นตัว หลังออกมาปฎิเสธข่าวการเข้าเสนอราคาซื้อกิจการ Zabka ห้างในโปแลนด์
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 16)
เมื่อ SET INDEX ปิดยืนเหนือ 1,580 จุดตามคาด เทียบกับเป้าหมายระยะสั้นที่ 1,600 จุด เริ่มมี Upside ที่จำกัด บวกกับต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ SET INDEX แกว่งในกรอบที่กว้างขึ้น แต่ภาพรวมเรายังคงให้น้ำหนักกับ Sideways-to-Sideways-Up สู่ด่าน 1,600 จุดเช่นเดิม ผลักดันด้วยกลุ่มอสังหาฯ / กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังกลุ่มพลังงาน / กลุ่มธนาคาร / กลุ่ม ICT ฟื้นตัวเด่นในรอบ 2-3 วันทำการที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยอด QTD ของต่างชาติใน SET50 Index Futures ที่กลับมา Long สุทธิ 2,967 สัญญา เป็นสัญญาณกลางถึงบวกต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ อาจมีลุ้นที่ต่างชาติจะกลับมาร Covered Short ในตลาดหุ้นไทย หลังบจ.ไทยประกาศงบออกมาดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ วันนี้ติดตามผลการดำเนินงาน PTTEP เราคาดขาดทุนสุทธิสำหรับ 4Q59 จากรายการพิเศษ
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “ถือพอร์ตส่วนที่เหลือเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,600 จุด +/-“ แต่หากตลาดหุ้นเกิดย่อระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย กลายเป็นโอกาสของการสะสมหุ้นเป้าหมาย เน้นประเด็นผลการดำเนินงานเป็นสำคัญ
Daily Pick
1. เก็งกำไร CPALL : ราคาปิด 58.75 บาท ราคาเหมาะสม 68.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น CPALL จะฟื้นตัวได้ในวันนี้ หลังปฎิเสธข่าวว่าบริษัทไม่ได้เข้าประมูลเพื่อซื้อกิจการในประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นประเด็นกดดันราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีทีผ่านมา -6% YTD เนื่องจากตลาดกังวลว่าหากเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมอาจส่งผลให้ฐานะการเงินอ่อนแอลง หรือ มีโอกาสเพิ่มทุน
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q59 จะเติบโต yoy เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคฟื้นตัวตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐฯ เช่น การให้เงินผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจะส่งผลบวกทางอ้อมจากยอดขายร้าน 7-11 ในพื้นที่ท่องเที่ยวและปั้มน้ำมัน
c) Valuation น่าสนใจ ซื้อขายระดับ PER2560 ที่ 27.4 เท่า ต่ำกว่า GLOBAL และ HMPRO ที่ 41.3 เท่า และ 29.7 เท่าตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิปี 2560 คาดเติบโต +17% yoy เติบโตสูงกว่าทั้ง GLOBAL และ HMPRO
2. สะสม BJC : ราคาปิด 50.75 บาท ราคาเหมาะสม 52.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ ได้แก่ ผลประกอบการ 4Q59 ที่คาดว่าจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq ทำระดับสูงสุดของปี 2559 จากแรงหนุนของโครงการช็อปช่วยชาติ #2 และเป็นไตรมาสแรกที่ได้ประโยชน์เต็มไตรมาสจากการ Refinance ส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง
b) ทิศทางกำไรสุทธิปี 2560 คาดว่าจะเติบโตสูงสุดในกลุ่มค้าปลีก โดยประเมินกำไรที่ 6.5 พันล้านบาท +85.4% yoy จากการรวมงบการเงินของ BIGC เต็มปี และการเกิด Synergy เนื่องจากธุรกิจมีความครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ – กลางน้ำ – ปลายน้ำ ทำให้เกิดการประหยัดด้านต้นทุน
c) Valuation ยัง Discount หุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยซื้อขายที่ระดับ PBV2560 เพียง 1.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มค้าปลีกที่ 3.8 เท่า และหุ้นในกลุ่ม ได้แก่ CPALL ที่ 8.7 เท่า, GLOBAL 3.8 เท่า และ HMPRO 7.4 เท่า