WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET index: ผ่านแนวต้าน 1580?
  SET index: 1578.11 ดัชนีช่วงเช้าปรับขึ้น ตลาดมีแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง หลังเงินดอลลาร์อ่อนตัว แนวโน้มบ่ายหาก SET ไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1580-1585 จุด มีโอกาสปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร
  แนวต้าน : 1580 และ 1585
  แนวรับ : 1575 และ 1570

PTT = 395.0 / 400.00, TPIPL = 2.46 / 2.58, AOT = 395.0 / 402.0,PTTEP = 94.25 / 96.50, JAS = 8.90 / 9.20

Thai Wah (TWPC TB; THB 9.70) - ซื้อ
  แนวต้าน : 9.90 และ 10.30
  แนวรับ : 9.65 และ 9.55
  ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่อง ด้วยปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น คาดว่าราคามีโอกาสปรับขึ้นทำ New High ใหม่ หากราคายังยืนเหนือ 9.50 บาท
  MACD แกว่งเหนือค่าเส้นเฉลี่ย
  แนะนำซื้อ TWPC โดยมีแนวรับที่ 9.65 และ 9.55 และมีแนวต้านที่ 9.90 และ 10.30 เป็นจุดขายทำกำไรเบื้องต้น
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.50 ลงไป

Thai Airways International (THAI TB; THB 23.50) - ซื้อ
  แนวต้าน : 24.00 และ 24.50
  แนวรับ : 23.40 และ 23.30
  ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ด้วยวอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้น ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 24-25 บาท หากราคาปิดเหนือ 23.50 บาทได้แข็งแกร่ง
  MACD ยังแกว่งเหนือเส้นค่าเฉลี่ย
  แนะนำซื้อ THAI โดยมีแนวรับที่ 23.40 และ 23.30 และมีแนวต้านที่ 24.00 และ 24.50 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 23.20 ลงไป

Analysts :
Pornvilai Santusatharom +662 657-9230 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET…ตามหุ้นที่ยังขึ้นได้น้อยในกลุ่มธนาคารและสื่อสาร
  หากจะดูหุ้นในกลุ่มที่ทาง MSCI มีการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะเป็น ธนาคารพาณิชย์ใหญ่และสื่อสารใหญ่ ซึ่งการลดน้ำหนักหุ้นรายตัวในกลุ่มเหล่านี้มาจากการมองแนวโน้มกำไรก่อนหน้านี้ยังไม่ดี แต่หลังจากกำไรใน Q4/16 ของกลุ่มธนาคารประกาศออกมาดีขึ้นตามลำดับ จึงมีแรงซื้อหุ้นเหล่านี้เข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นเป็นที่น่าสังเกตว่าแรงซื้อต่างชาติที่เข้ามาจะมีกลุ่มสื่อสารใหญ่ อย่าง DTAC ADVANC ซึ่งหุ้น 2 ตัวนี้ทาง MSCI ได้ปรับลดน้ำหนักมาตลอด


  หากมาดูราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารใหญ่ 3 บริษัทอย่าง ADVANC DTAC และ TRUE นับตั้งแต่ต้นปี 2016 ถึงปัจจุบัน (รูปด้านซ้าย) พบว่าราคาหุ้นDTAC ขึ้นได้มากที่สุด ส่วน ADVANC และ TRUE ขึ้นได้ใกล้เคียงกันที่ 10% ต้นๆ ยังมีความเป็นไปได้ที่แรงซื้อหุ้นสื่อสารใหญ่ กลับคืนมา มาจากการมองว่าแนวโน้มกำไรในปีนี้ของกลุ่มน่าจะกระเตื้องขึ้น ส่วนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ดัชนีกลุ่มในตอนนี้ขึ้นได้ในระดับเดียวกับดัชนี SETคือ 20% ต้นๆ (รูปด้านขวา) โดยแรงซื้อที่เข้ามาจะเป็นหุ้นธนาคารใหญ่ อย่าง SCB KBANK ส่วน BBL และ KTB ถือว่ายัง Underperform กว่ากลุ่มและดัชนี SET เพราะขึ้นได้เพียง 10%


  แรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และสื่อสาร บางตัวที่เข้ามาในตอนนี้เหตุผลหลัก น่าจะมาจากงบที่ค่อยๆ ดีขึ้น ส่วนเหตุผลอีกประกาศที่เรามองเอาไว้ คือ การคาดการณ์ว่าทาง MSCI น่าจะปรับน้ำหนักในหุ้นเหล่านี้เพิ่มขึ้นในการประกาศในวันที่ 10 ก.พ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ลดน้ำหนักลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้น SCB KBANK และ ADVANC แต่อย่างไรก็ตามราคาหุ้น SCB และ KBANK ขึ้นไปค่อนข้างสูง จะเหลือเพียงADVANC BBL และ KTB ที่ยังน่าสนใจ


  การเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในสัปดาห์นี้คาดจะแกว่งตัวแรงขึ้น ตามทิศทางดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนเรื่องนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งตอนนี้ตลาดมองทั้งเชิงบวกและลบ หากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการแถลงนโยบาย แต่ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกซึมขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ดัชนี SET จะขึ้นไปที่กรอบ 1580-1585 จุด แต่หากตลาดหุ้นโลกค่อยๆ ซึมลง ดัชนี SET ยังมีสิทธิลงไปเล่นต่ำกว่า 1550 จุดได้อีก โดยปัจจัยบวกตอนนี้คือ งบของกลุ่มธนาคาร พลังงาน ปิโตรเคมี ออกมาดี ส่วนปัจจัยลบยังคงเป็นความกังวลเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจของนาย Donald Trump จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการค้ากับประเทศในเอเชีย


  วันนี้มองทิศทางดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1575 จุด ซึ่งหากผ่านได้ เราคาดว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อไปทำจุดสูงสุดใหม่ (New high) เกินกว่าระดับ 1580 จุดได้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี แม้ว่าวันนี้ตลาดอาจเผชิญแรงขายของหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีออกมาจากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 1% เมื่อคืนนี้ แต่เราคาดว่าแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มค้าปลีก จะช่วยพยุงตลาดให้ยังสามารถปิดบวกได้ต่อในวันนี้ โดยเมื่อวานนี้เราเห็นแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก (BJC HMPRO GLOBAL ROBINS) และกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว (CENTEL ERW MINT) เข้ามาเป็นวันแรกหลังจากที่ทั้ง 2 กลุ่มมีการปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard) จากการคาดหมายงบไตรมาส4/59 อาจชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามผลกำไรในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ดังนั้นเราคาดว่าวันนี้หุ้นทั้ง 2 กลุ่มยังน่าจะปรับตัวขึ้นต่อได้ วันนี้ให้แนวต้านที่ 1575-1580 จุดและแนวรับที่ 1555-1563 จุด โดยวันนี้เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรBJC MINT ROBINS TISCO WHA

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]


บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

 

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,578.11 จุด เพิ่มขึ้น 7.32 จุด (+0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 30,442.53 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น โดยมีแรงซื้อนำจากกลุ่มพลังงาน จากการเก็งผลประกอบการ Q4 ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนนโยบายของ "โดนัลด์ ทรัมปั" ส่งผลให้มีแรงขายค่าเงินดอลลาร์ออกมา

Afternoon Perspective…...
  แนวโน้มตลาดบ่าย ถ้า SET ไม่ผ่าน 1580 จุด อาจจะเกิดแรงขายทำกำไรอีกรอบเนื่องจากมองว่าตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่มเติม ซึ่งหลักๆตลาดรอรับรู้ปัจจัยเรื่องผลการดำเนินงาน Q4 ของกลุ่มพลังงานเป็นหลัก ระยะสั้นเน้นขายทำกำไรเล่นรอบหากไม่ผ่าน 1580 จุด และไปรอรับกลับที่ 1550 จุด

Technical Pick (PM) ...
  Thai Wah (TWPC TB; THB 9.70) - ซื้อ
  Thai Airways International (THAI TB; THB 23.50) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!