- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 January 2017 16:53
- Hits: 1539
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มฟื้นตัวและกลับมายืนเหนือ 1,560 จุดได้อีกครั้ง โดยกลุ่มอสังหาฯ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มอาหาร ฟื้นตัวเด่น รวมถึงกลุ่มธนาคาร นำโดย KBANK/ KTB ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 8.11 จุด มาอยู่ที่ 1,562.99 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56,409 ล้านบาท
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 3,737 ล้านบาท แต่ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 2,071 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 20 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- GDP ใน 4Q59 ของจีน 6.8% yoy ดีกว่าตลาดคาด 6.7% yoy
- ประธานาธิบดี Trump ไม่กล่าวถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจนหลังเข้าพิธีสาบานตน
- ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดบวกเด่น 2.0% เป็น US$52.42/barrel
- ติดตามค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เช้านี้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงใกล้ระดับ 100 จุด
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 14)
เราประเมินภาพ SET INDEX ที่จะยังไต่ระดับขึ้นสู่ด่าน 1,570-1,575 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคารที่ผลการดำเนินงานออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพสินทรัพย์ รวมถึงกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดยกลุ่มพลังงาน เมื่อราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว บวกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่า เนื่องจากประธานาธิบดี Trump ไม่เน้นนโยบายด้านเศรษฐกิจในถ้อยแถลงครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดี แต่ยืนยันไม่เอา Obamacare / TPP / ISIS/ ความสัมพันธ์กับรัสเซีย/ อุตฯ พลังงาน - Climate Change ซึ่งเป็นนโยบายด้าน Populist ที่ใช้ในการหาเสียงในช่วงก่อนหน้า แต่เราเชื่อว่านักลงทุนจะเริ่มไม่แน่ใจว่า แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ 3.5% ต่อปี ตามเป้าหมายของประธานาธิบดี Trump และกลายเป็นจุดที่จะทำให้เงินทุนไหลกลับมาตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ ภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และผลการดำเนินงานเด่น
กลยุทธ์การลงทุนโดยรวม เราแนะนำ "ขึ้นแรงขาย ย่อตัวลงซื้อ" พร้อมภาพใหญ่ที่ไปรอขายทำกำไรบริเวณ 1,600 จุด โดยเน้นเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานรอบ 4Q59 ที่จะออกมาเด่น
Daily Pick
1. สะสม PSH : ราคาปิด 24.20 บาท ราคาเหมาะสม 31.50 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจาก PSH จะมีการจัดประชุมนักวิเคราะห์เพื่อแถลงแผนกลยุทธ์ปี 2560 ในวันที่ 26 ม.ค. และเชื่อว่าจะมีรายละเอียดมากขึ้นของการต่อยอดธุรกิจที่สร้าง Recurring Income เพื่อผลักดันการเติบโตในระยะยาวหลังปรับโครงสร้างบริษัทขึ้นเป็น Holding Company
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q59 เติบโต qoq เนื่องจากมียอดรอบันทึกรายได้รออยู่ 10,300 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A คาดว่าจะลดลง qoq เนื่องจาก 3Q59 มีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาทางการเงินในการปรับโครงสร้างบริษัท
c) ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง โดยคาดการณ์เงินปันผล 2H59 หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็น Dividend yield สูงถึงเกือบ 4% และปี 2560 หุ้นละ 1.60 บาท คิดเป็น Dividend Yield 6.7% และมี Valuation ที่ถูกมากซื้อขายระดับ PER2560 เพียง 7.4 เท่า ต่ำกว่า
2. เก็งกำไร IVL : ราคาปิด 35.00 บาท ราคาเหมาะสม 41.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q59 จะเติบโตสูง ถึง +460% yoy เป็น 2,250 ล้านบาท เทียบกับ 4Q58 ที่ฐานกำไรสุทธิต่ำเพียง 407 ล้านบาท
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรในปี 2560 โดยคาดว่ากำไรปกติปี 2560 จะเติบโตถึง +32% yoy เป็น 9,897 ล้านบาท จากปริมาณขายที่จะเพิ่มขึ้น +6.4% yoy เป็น 8.9 ล้านตัน จากผลประโยชน์ของการเข้าซื้อกิจการในปี 2559 ที่ผ่านมา ขณะที่ Spread คาดว่าจะทรงตัวได้ yoy
c) มี Upside Risk จากการปรับลดภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯลงจาก 35% เหลือ 15% ซึ่งจะส่งผลให้ภาษีจ่ายของ IVL ลดลงถึงปีละ 900 ล้านบาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาซื้อสุทธิ US$23 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิเล็กน้อย US$9 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหนาแน่นในตลาดหุ้นไทย
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยวันแรกในรอบ 3 วันทำการ มากถึง 3,738 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 3,329 ล้านบาท ผลักดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเพิ่มเป็น 8,135 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 2,071 สัญญา รวม 4 วันทำการ Short สุทธิมากถึง 20,036 สัญญา คาดว่าเป็นการเปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง โดย QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิขยับเป็น 5,886 สัญญา เมื่อ S50H17 ยังคงปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 5 แคบลงเหลือ 0.82 จุด แคบลงจากวันก่อนหน้า Discount 1.99 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 20 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 4,721 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 1.09bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.44bps ปิดที่ 2.710%Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 555 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 772 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 48 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 52 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นสะสมกลุ่มธนาคารโดดเด่น และลดน้ำหนักกลุ่มค้าปลีกต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 1,059 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,845 ล้านบาท โดย NVDR เน้นสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารสูงสุด 552 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี 196 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ 143 ล้านบาท แต่ขายสุทธิกลุ่มค้าปลีกสูงสุด 306 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
Trump เตรียมเจรจาเงื่อนไข NAFTA ใหม่เร็วๆ นี้: ประธานาธิบดี Trump เตรียมแผนที่จะเปิดการเจรจากับผู้นำแคนาดาและเม็กซิโกสำหรับเงื่อนไขของ NAFTA รวมถึงการอพยพคน และความปลอดภัยในเขตชายแดน
ยุโรป
อังกฤษเปิดประมูลรถไฟความเร็วสูง 2.75 พันล้านปอนด์: เป็นการเชื่อมโยงระหว่างลอนดอนและทางตอนเหนือ จำนวน 60 ขบวน แต่ละขบวนสามารถจุ 1,000 ที่นั่ง ด้วยความเร็ว 225 ไมล์/ชม. คาดว่าจะประกาศผลอย่างเป็นทางการปี 2562 และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเฟสแรกในปี 2569 และเฟสที่ 2 ในปี 2576
ยอดค้าปลีกของอังกฤษกลับมาหดตัว: เดือนธ.ค.ยอดค้าปลีกลดลง 1.9% yoy หดตัวมากกว่าที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ และเป็นการหดตัวลงแรงสุดในรอบเกือบ 5 ปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก Black Friday ที่มีในเดือนพ.ย. ทำให้เร่งการใช้จ่ายไปก่อนหน้า รวมถึงอากาศที่อุ่นขึ้น
ECB ยืนยันการเลือกตั้งในปีนี้จะไม่มีผลต่อแนวโน้มของอียู: สมาชิกของ ECB นาย Villeroy de Galhau ประเมินว่าปีนี้จะมีการเลือกตั้งในหลายประเทศสมาชิก เช่นฝรั่งเศส และเยอรมัน ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอียู
IMF จะยังเข้ามาช่วยกำกับดูแลแผนช่วยเหลือกรีซ: รมว.คลัง เยอรมัน กล่าวว่า IMF วางแผนที่จะเข้ามาช่วยกำกับดูแลถึงแผนการช่วยเหลือกรีซ
พรรคฝ่ายค้านฝรั่งเศสชูนโยบาย "Wake Up": ผู้นำพรรคฝ่ายค้า Marine Le Pen เรียกร้องให้ชาวฝรั่งเศสดูตัวอย่างจากชาวอเมริกัน และอังกฤษ เรียกร้องให้ "ตื่นเถิดชาวฝรั่งเศส" ในปี 2560 ซึ่ง Le Pen เป็นหัวหน้าที่ Anti-EU, Anti-immigrant National Front (FN) และโพลล์ล่าสุดเป็น 1 ใน 2 ที่จะเข้าชิงเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ค.นี้
จีน
GDP ใน 4Q59 ของจีนออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย: เติบโต 6.8% yoy ดีกว่า Reuters Poll ที่ 6.7% yoy และทำให้ภาพรวมปี 2559 เศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.7% ตามที่ตลาดคาดการณ์ ทั้งนี้การบริโภคภายในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 64.6% ของ GDP ส่วนการลงทุนภาคเอกชนคิดเป็น 6.9% ของ GDP จาก 5.9% ปี 2558
เงินทุนไหลออกเดือนธ.ค.สุทธิ US$900 ล้าน: State Administration of Foreign Exchange รายงานเงินทุนไหลออกสุทธิในเดือนธ.ค.เท่ากับ US$900 ล้าน ลดลงจากระดับสูงสุดในเดือนก.ย. 2% แต่เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่สูงถึง US$2.58 หมื่นล้าน เป็นผลจากทางการเข้ามาควบคุมแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศเพื่อนำเงินออกนอกประเทศ
ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินเข้าสู่ระบบ: ธนาคารกลางจีนประกาศลด Reserve Requirement Ratio (RRR) 100bps สำหรับธนาคารพาณิชย์หลักเป็นเวลา 28 วันทำการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินที่ตึงตัวในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนในปลายสัปดาห์นี้ และจะหยุดยาวถึงวันที่ 2 ก.พ.
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางอินเดียอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการลดค่าธรรมเนียมในธุรกิจ online: ธนาคารกลางอินเดียอยู่ระหว่างการทำแผนที่จะลดต้นทุนการโอนเงิน (Transaction Cost) เพื่อกระตุ้นให้เกิดกิจกรรม Digital Banking มากขึ้น
ไทย
ไม่มี
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst