WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRAบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาด
  ผันผวน? ภายใต้ประเด็นต่างประเทศ ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ (20/1/60) โดยเฉพาะถ้อยแถลงของทรัมป์ ที่อาจสร้างความผันผวนให้กับภาพรวมตลาดฯ แต่อย่างไรก็ตามคาดส่วนใหญ่สะท้อนประเด็นดังกล่าวไปบ้างแล้ว คาดการปรับลดลงน่าจะเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่คาดการประกาศใช้นโยบายตามที่หาเสียงไว้ ที่เน้นนโยบายการคลัง ทั้งการผ่อนคลายกฎระเบียบภาคอุตสาหกรรม การปฏิรูปภาษี รวมถึงการใช้งบประมาณ 1.0 ล้านล้านUSD ในการสร้างสะพาน ถนน และโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ คาดยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดหลังจากนี้
  นอกจากนี้คาด (+) ถ้อยแถลงของประธานเฟด ล่าสุด ที่มีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด ทั้งการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ แต่คาด (-) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามการส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยเฟดประชุมในวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ.’60 

  ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับ Sentiment ลบ จาก Fund Flow หลังล่าสุดต่างชาติขายสุทธิ แต่มูลค่าไม่มาก ขณะที่เช้านี้เงินบาทยังแข็งค่า 35.33 – 35.35 บาท จากวานนี้ที่ 35.37 บาท คาด Fund Flow มีโอกาสไหลกลับ พร้อมแนะติดตาม (1) ระยะสั้นต่อประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ B/E โดยเฉพาะ บจ. ขนาดเล็ก ที่อาจกระทบความเชื่อมั่น และภาวะการเงินตึงตัว เป็นต้น และ (2) อยู่ในช่วงทยอยประกาศผลการดำเนินงานปี’59 คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงก.พ.’60 รวมถึงเงินปันผล
  อย่างไรก็ตามยังมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี’60 ภายใต้ (1) การลงทุนของภาครัฐ ที่ได้แรงขับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (2) รายได้เกษตรกรที่คาดปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง และ (3) การส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ล่าสุด กกร. ปรับเพิ่มเป้าหมายส่งออกจากเดิม 0 – 2.0% เป็น 1.0 – 3.0% รวมถึงได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และ (4) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. คาดว่าทั้งปี’ 60 อยู่ที่ 34 - 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 32.59 ล้านคน เมื่อปี’59 พร้อมคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้น 10% จาก 1.64 ล้านล้านบาท เมื่อปี’59 เป็น 1.8 ล้านล้านบาท 

SET SET50 SET100
1,554.88 -5.95 969.19 -3.40 2,190.84 -8.42



ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-) ตลาดต่างประเทศ DJIA -72.32, NASDAQ -15.57, S&P -8.20, FTSE -39.17, CAC -12.26 และ DAX -2.50
โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันนี้ (20/1/60) ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ประธานเฟด จะเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายการเงินในวันนี้เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย
อย่างไรก็ตามยังได้รับปัจจัยหนุนเข้ามาบ้างจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) การเริ่มต้นสร้างบ้าน – ธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.3%MoM อยู่ที่ 1.23 ล้านยูนิต ดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.20 ล้านยูนิต (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุด ลดลง 15,000 ราย อยู่ที่ 234,000 ราย สวนทางกับที่คาดว่าจะอยู่ที่ 254,000 ราย
  ส่วนการประชุม ECB มีมติคงนโยบายเดิม ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ช่วงม.ค.-มี.ค.’60 และ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน ช่วงเม.ย. – ธ.ค.’60 อย่างไรก็ตาม ECB ระบุว่า อาจมีการปรับเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาออกไปจากธ.ค.’60 หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$0.29 อยู่ที่US$51.37ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงก่อนหน้านี้ และยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของ IEA ระบุว่าตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตึงตัว
ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 485.5 ล้านบาร์เรล

P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.77 1.99 3

ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 53,206.33
สถาบัน -3,452.32
บัญชีหลักทรัพย์ 393.19
ต่างประเทศ -154.38
ในประเทศ 3,213.51



และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
  (2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC
  (3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
  (4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
  (5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
  (6) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK  
  (7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี  +0.07 อยู่ที่ 2.46% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) 
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.30 อยู่ที่ 12.78
  หุ้นแนะนำ : PTTEP

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์     โทร .02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!