- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 January 2017 17:48
- Hits: 1337
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ / ลบในกรอบจำกัด
KGI คาด SET วันศุกร์ลดลง กรอบจำกัด จิตวิทยาพลิกเป็นลบในช่วงสั้นๆ หลังโฟลว์ต่างชาติชะลอตัวแม้เงินบาทพุ่งแรง (วานนี้ดัชนีฯ ลดลง แย่กว่าคาด และภาพคล้ายกันทุกตลาดหุ้นในอาเซียน กล่าวคือหุ้นลงในช่วงบ่ายและปิดใกล้โลว์ของวัน) ตลาดกลับมากังวลต่อภาพการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงล่าสุดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ลงรายละเอียดต่อมาตรการทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้เรามองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเพียงสาเหตุหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเกิดจากอัพไซด์ของหุ้นหลักในกระดานเหลือน้อย เทียบกับมูลค่าพื้นฐานของนักวิเคราะห์ ส่งผลให้มีแรงขายล็อกกำไรช่วงสั้น ส่วนสัปดาห์หน้า เราคงมองดัชนีฯ ไซด์เวย์ โดยตลาดจะติดตาม i) ผลประกอบการไตรมาส 4/2559 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และ ii) การสาบานตนรับตำแหน่งของนายทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค. ว่าจะมีการแถลงนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
สะสม KTC* / เก็งกำไร BTW, DRT
KTC* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) 1) ประเมินได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ (ผลจากการลงทุนภาครัฐฯ + ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัวแรง) โดยฝ่ายวิจัยฯประเมิน EPS ปี 2560 – 61 จะโตเฉลี่ย ±19% ต่อปี 2) นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ ประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะคงที่จนถึงปลายปีนี้เป็นอย่างน้อย (= คาดต้นทุนการเงินของ KTC* ต่ำต่อเนื่อง) 3) PE ปี 2560 ต่ำเพียง 12.4 เท่า (เทียบกับอัตราการเติบโตของ EPS 19% ต่อปี) และคาด Dividend yield ปี 2560 = 3.4% 4) แนะนำ “สะสม” แนวรับ 138.5 บาท และถัดไปที่ 136.5 บาท แนวต้านแรก 141 บาท และถัดไปที่ 148 บาท (สำหรับนักลงทุนระยะสั้น Stop loss 135 บาท)
BTW* (เป้า Consensus 4.25 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคา Downside ต่ำ โดยสร้างฐานอยู่ที่บริเวณ 3.2 – 3.3 บาท และเริ่มแกว่งตัวขึ้นพร้อม MACD ที่เริ่มเป็นบวกครั้งแรกตั้งแต่ IPO ประเมินแนวรับ 3.50 บาท และ 3.44 บาท แนวต้าน 3.70 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±3.90 บาท (Stop loss 3.2 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มงานโครงสร้างเหล็กที่เกี่ยวข้องกับ พลังงาน และเหมืองแร่ (เช่น SRICHA, TRC, STPI) โดยราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัว คาดจะทำให้ลูกค้าฯ เริ่มกลับมาเริ่มต้นโครงการลงทุน 3) จากแผน PDP ของการไฟฟ้าฯ ประเมินงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เป็นบวกต่อปริมาณงานของ BTW (ลูกค้างานโรงไฟฟ้าหลักๆ คือ EGAT รวมถึงภาคเอกชน และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน) 4) จากข้อมูล Opportunity day วันที่ 14 พ.ย.59 บริษัทมีโอกาสส่งออกงานโครงสร้างเหล็กไปประเทศญี่ปุ่น (อยู่ระหว่างการขอมาตรฐาน JIS H-grade) 5) แนวโน้มผลการดำเนินงาน คาดพ้นจุดต่ำสุดแล้ว โดยใน 4Q59 คาดจะรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการโซลาร์ฟาร์มมูลค่าราว 400 ล้านบาท (ราว 10MW) และประเมิน Backlog ณ สิ้นปี 2559 อยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท
DRT (เป้าพื้นฐาน 5.6 บาท … หากขยับไปใช้เป้าปี 2560 มีโอกาสปรับขึ้น) 1) เราประเมินผลการดำเนินงาน 1Q60 มีแนวโน้มเติบโตเด่นจาก i) High season ii) หากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้จบเร็ว คาดดีมานด์วัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยมีโอกาสเพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาส (DRT ขายผลิตภัณฑ์สำหรับ ผนัง ฝ้า และรั้ว + ระบบหลังคา) iii) ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัว เป็นบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัด 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรปี 2560 = 440 ล้านบาท (EPS 0.42 บาท/หุ้น) คิดเป็น PE ที่ต่ำเพียง 13.1 เท่า (ถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี = 16 เท่า และเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยปีละ 15%) 3) ประเมินแนวรับ 5.50 บาท แนวต้าน 5.90 บาท หากทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.20 บาท (Stop loss 5.2 บาท)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มวัสดุฯ (TASCO*, GLOBAL*, DRT, DCC) เราประเมินจะได้อานิสงส์ยอดขายที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นหลังภาคใต้พ้นภาวะน้ำท่วม (เพื่อซ่อมแซมถนน+ที่อยู่อาศัย) นักลงทุนอาจพิจารณา “เก็งกำไร” หุ้นในกลุ่มฯ หุ้นเด่น DRT, TASCO*
หุ้นที่ได้อานิสงส์เศรษฐกิจในประเทศฟื้น ธนาคารและสถาบันการเงิน (KBANK*, KTC*) ยานยนต์ (SAT, AH) ค้าปลีก (COM7*, TACC, ROBINS*) ลีสซิ่ง (GL, THANI) ผลจากราคาสินค้าเกษตรที่ฟื้นตัว และพ้นภาวะภัยแล้ง รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนภาครัฐฯจำนวนมาก ที่จะเริ่มเข้าสู่ระบบในปีนี้ จะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2560 โดยนักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ ประเมิน GDP ปี 2560 ไว้ที่ 3.6 – 3.8% (ขณะที่ปี 2559 คาดไว้ที่ 3.3%) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” KTC*, SAT, COM7*, TACC และ GL
หุ้นมีข่าว
(+) GLOBAL* ลุยร่วมทุนบุกกัมพูชา (โพสต์ทูเดย์) เผยเซ็นสัญญาตั้งสองบริษัทร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่นกัมพูชาแล้ว นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานกรรมการ บริษัท สยาม โกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2560 บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นชาวกัมพูชา ซึ่งประกอบธุรกิจหลากหลาย โดยจะจัดตั้งบริษัท Global House Cambodia Co., Ltd (GBC) เพื่อดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าที่ เกี่ยวกับบ้านในประเทศกัมพูชาในลักษณะเดียวกับร้าน Global House ในประเทศไทย และจะจัดตั้ง Global House Estate Co., Ltd. (ESTATE) เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการถือครองที่ดินสำหรับการพัฒนาร้าน Global House ในประเทศกัมพูชา
(+) AOT* ผู้โดยสาร Q1 โต 8% เปิดประมูลงาน APM ใหม่ (ข่าวหุ้น) “AOT” เผยผู้โดยสารไตรมาสแรกโตเฉลี่ย 7-8% แม้รับผลกระทบปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ ล่าสุดต้องเปิดประมูลงาน APM ใหม่ เหตุ ITD* ผ่านคุณสมบัติรายเดียว ลุยลงทุนสุวรรณภูมิเฟส 2 ตามแผน กอดเงินสด 6 หมื่นล้านบาท
(0) สกุณาขายบิ๊กล็อต HOTPOT เพิ่มกลุ่มอภิชัยซื้อดันถือหุ้น 24.50% (ข่าวหุ้น) ผู้ถือหุ้นใหญ่ HOTPOT “สกุณา” เทขายบิ๊กล็อตอีกจำนวน 20.50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.05% ในราคาหุ้นละ 2.80 บาท ให้กับ “อภิชัย” ดันสัดส่วนถือหุ้นเพิ่มเป็น 24.50% และอาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารบางส่วน
(+) SIRI* เล็งผุด 19 โครงการใหม่ วางเป้าปี 60 โกยยอดขาย 3.6 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) “แสนสิริ” กางแผนปี 60 ตั้งเป้าโกยรายได้ 34,000 ล้านบาท เล็งเปิด 19 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 41,200 ล้านบาท หวังกวาดยอดขาย 36,000 ล้านบาท เตรียมแถลงตั้งบริษัทลูกร่วมลงทุนในรูปแบบ Venture Capital วันที่ 25 ม.ค.นี้
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้า Consensus 14.1 บาท ... สูงสุด 17.5 บาท) แนะนำ “สะสม” ที่ ±13 บาท (Stop loss 12.6 บาท) ในกรณีที่ทะลุผ่านแนวต้าน 13.4 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 14 บาท ... เราประเมินอุตสาหกรรมค้าปลีกไอที เข้าสู่ขาขึ้น i) คู่แข่งเลิกสงครามราคาที่ใช้มายาวนาน 5 ปี ii) นโยบายไทยแลนด์ 4.0 สร้างดีมานด์คอมพิวเตอร์และอุกรณ์
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท ... ไม่รวมประเด็นผลิตภัณฑ์ใหม่) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 10.4 บาท หากทะลุผ่านได้แนะนำ “Let profit run” โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±11.5 บาท แนวรับ 9.60 บาท (Stop loss 9.40 บาท) ... มี Upside จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ประเทศกัมพูชา (TACC มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาเขียว ที่มีส่วนแบ่งตลาดฯอันดับต้นๆในกัมพูชา ทำให้มีช่องทางจำหน่ายที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว)
FN (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นแนวรับ ±8.35 บาท ตามคาด นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจพิจารณาซื้อเก็งกำไร โดยรูปแบบราคาจะเริ่มเกิดสัญญาณซื้อกลับเมื่อยืนเหนือแนวต้าน 9.15 บาท (CBL line) หากทดสอบแล้วไม่สามารถผ่าน 9.15 บาทได้แนะนำ “ขายล๊อกกำไร” (กำหนดจุด Stop loss 8.3 บาท)
CPF* (เป้าพื้นฐาน 42 บาท) แนะนำ “ถือ” ประเมินแนวรับ 29.25 บาท แนวต้าน 31.5 บาท ... Catalyst บวกเรื่อง i) ครม มีมติอนุมัติ นำเข้าถั่วเหลืองเสรี 3 ปี (ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง) ii) การส่งออกไก่ไทยมีแนวโมเติบโตหลังปลดล๊อกปัญหาไข้หวัดนก
TNR (เป้า Consensus 20.26 บาท ... คาดมีโอกาสปรับขึ้น) ประเมินแนวรับ 29 บาท หากต่ำกว่า แนะนำ “ขายล๊อกกำไร” แนวต้าน 32 บาท ... ประเมินได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน + 4Q เป็น High season + คาดกำไรปีหน้าโตเด่นจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น (โรงงานที่หยุดผลิตในปีนี้กลับมาผลิต ด้วยกำลังการผลิต +30%)
TRC* (เป้าสูงสุด Consensus 1.8 บาท) อยู่ระหว่างทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ ±1.53 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” ... คาดปลดล๊อกการลงทุนเหมืองแร่โปแตซ (APOT) ภายใน 1Q60 ปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ (มูลค่าลงทุนงานโครงสร้างเหมืองฯราว ±3.5 หมื่นล้านบาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SCC* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 640 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 อ่อนตัวลง QoQ และ YoY เป็นผลจากดีมานด์ปูนซีเมนต์ที่ต่ำคาด รวมทั้งมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2560 จาก Spread ปิโตรเคมีที่จะยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง (คาดวัฏจักรขาขึ้นต่อเนื่องอีก 4 – 5 ปี)
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วันที่รับ 1568 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือรับ 1568 จุดได้นั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นในกรอบ 1568-1585 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1568 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1568-1558 จุด
แนวรับวันนี้: 1568/1560 แนวต้านวันนี้: 1573/1583
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]