- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 January 2017 21:59
- Hits: 868
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดบวกและทะลุแนว 1,575 จุดขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันโดยหุ้นหลักอย่าง SCC / ADVANC/ DTAC และหุ้นขนาดกลางที่พักฐานมาก่อนหน้า แต่ก็เกิดแรงขายทำกำไรในช่วงท้าย กดันให้ SET INDEX ปิดบวกเพียง 0.83 จุด มาอยู่ที่ 1,572.93 จุด มูลค่าการซื้อขาย 65,412 ล้านบาท
ทั้งนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 ลดลงเหลือ 337 ล้านบาท Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ SET50 Index Futures เท่ากับ 2,761 สัญญา แม้ว่าจะขายสุทธิตลาดตราสารหนี้วันแรกในรอบ 3 วันทำการเพียง 610 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• TISCO จัดชั้นหนี้ SSI เป็น Special Mention Loans ทำให้ NPLs ลดลง และ Coverage Ratio ขยับขึ้นเป็น 140%
• ว่าที่ประธานาธิบดี Trump ยืนยันเดินหน้าสร้างกำแพง และจัดเก็บภาษี Major Border Tax
• ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นตัว 2.81% dod
• ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด Janet Yellen คืนนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 7)
แม้ว่าวานนี้ SET INDEX จะทะลุแนว 1,575-1,580 จุดระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่ก็เกิดแรงขายทำกำไรเข้ามามากเช่นกัน แต่เราประเมินว่า SET INDEX วันนี้จะปิดยืนเหนือแนว 1,575 จุดได้ หลัง TISCO รายงานกำไรสุทธิใกล้เคียงคาดเป็น 1.29 พันล้านบาท +4.4% yoy และ 3.4% qoq และที่สำคัญการจัดชั้นหนี้ SSI เป็น Special Mention Loans ทำให้ NPLs ลดลงจาก 3.04% ณ สิ้น 3Q59 เป็น 2.54% ณ สิ้นปี 2559 และ Coverage Ratio ขึ้นจาก 107% ณ สิ้น 3Q59 เป็น 140% ณ สิ้นปี เราเชื่อว่า KTB/ SCB จะจัดชั้นหนี้ของ SSI ในรูปแบบเดียวกัน เป็นบวกต่อ NPLs Ratio และ Coverage Ratio ทำให้การตั้งสำรองของทั้ง 3 ธนาคารจะกลับสู่ระดับปกติในปีนี้ เอื้อต่อการเติบโตของกำไรสุทธิของทั้ง 3 ธนาคาร
สำหรับการให้สัมภาษณ์ของว่าที่ประธานาธิบดี Trump ต่อสื่อมวลชนวานนี้ ยืนยันจัดเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ ที่ผลิตนอกประเทศและกลับมาขายในสหรัฐฯ พร้อมยกเลิกโครงการ Obamacare แต่จะมีโครงการใหม่มาแทน ทั้งนี้นโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างการลดภาษี ไม่ได้กล่าวถึงอย่างชัดเจน
ภาพรวมของ SET INDEX รอบนี้ เราประเมินลักษณะ Sideways-to-Sideways-Up ขึ้นไปทดสอบด่าน 1,580-1,600 จุดภายใน 1-2 เดือนนี้ แม้ว่าระดับดังกล่าวจะเกิดแรงขายจากผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ที่ครบกำหนดมากขึ้นก็ตาม แต่เชื่อว่าเม็ดเงินจากนักลงทุนภายในประเทศ และต่างชาติจะมากเพียงพอที่จะชดเชยกับแรงขายดังกล่าว
Daily Pick
1. เก็งกำไร KTB : ราคาปิด 18.70 บาท ราคาเหมาะสม 21.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ SSI จะตอบรับเชิงบวก หลัง TISCO รายงานผลประกอบการ 4Q59 วานนี้ และมีการจัดชั้นลูกหนี้ของ SSI จากหนี้เสีย ขึ้นเป็น Special Mention Loan ซึ่งจะส่งผลให้ NPL ลดลง และ Coverage Ratio เพิ่มขึ้น
b) เป็นบวกต่อการตั้งสำรองปี 2560 ของ KTB ให้มีโอกาสลดลง และอาจเป็น Positive Surprise ต่อตลาด เนื่องจาก Consensus ยังระมัดระวังต่อประมาณการกำไรของกลุ่มธนาคารในปี 2560
c) Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ PER2560 เพียง 7.8 เท่า และจ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2559 หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็น Dividend Yield 4.8%
2. เก็งกำไร PTT : ราคาปิด 385.00 บาท ราคาเหมาะสม 395.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะเป็นกลุ่มหลักที่ช่วยหนุนตลาดในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ปรับตัวขึ้นเกือบ 3% เนื่องจากซาอุดิอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมัน เดือน ก.พ.ลง
b) คาดผลประกอบการ 4Q59 จะเติบโตสูง yoy จากแรงหนุนของธุรกิจโรงกลั่น และปิโตรเคมี ขณะที่กำไรจาก Stock Gain จะช่วยชดเชยผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลง
c) Consensus เริ่มปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ PTTEP ขึ้น จึงเชื่อว่าจะเป็น Upside Risk ต่อประมาณการกำไรของ PTT และเป็น Momentum บวกต่อราคาหุ้นด้วยเช่นกัน และซื้อขายที่ PER2560 ที่ 11.6 เท่า ยังต่ำกว่า SET INDEX ที่ 14.5 เท่า