- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 January 2017 18:47
- Hits: 1224
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตัวเลขเศรษฐกิจประเทศสำคัญออกมาดี
คาดหุ้นไทยขยับขึ้นต่อวันนี้จากตัวเลขสำรวจความคิดเห็นภาคบริการและเศรษฐกิจรวมของสหรัฐ ยูโรโซน จีนและญี่ปุ่นออกมาดีถึงดีมาก อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดไม่น่าไปได้ไกลด้วยนักลงทุนกำลังรอความชัดเจนจากนโยบายของ Trump ก่อนจะลงทุนต่อ เห็นได้จากมีการขายทำกำไรค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังสหรัฐที่ลดลงทุกช่วงอายุ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นบวกหลายประการ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน กระทรวงท่องเที่ยวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวและรายรับจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในปี 2016 ธนาคารเริ่มเห็นอุปสงค์สินเชื่อกำลังจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแรง
หุ้นเด่นวันนี้ : THANI (ราคาปิด 5.50 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 6.20 บาท)
บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ด้วยกลยุทธ์ infrastructure play เราคาดว่า THANl น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากความต้องการที่สูงขึ้นของรถเพื่อการพาณิชย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบรรทุก สอดคล้องกับการขยายตัวของภาคการก่อสร้างหนุนโดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐจำนวนกว่า 8.9 แสนล้านบาทซึ่งน่าจะเริ่มต้นได้นับตั้งแต่ไตรมาส 1/60 เป็นต้นไป อีกทั้ง การเติบโตของการค้าชายแดนน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนเช่นกัน ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตของสินเชื่อของบริษัทในปีนี้อย่างมากเนื่องจากกว่า 70-75% ของพอร์ตสินเชื่อของ THANl เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ นอกจากนั้นแล้ว ผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างเช่น แท๊กซี่ คาดว่าจะเติบโตได้ดีในปีนี้เช่นกัน หนุนโดยกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยทั้งหมดนี้ เราคาดว่าสินเชื่อของบริษัทจะเติบโตถึง 15% ในปี 60 สอดคล้องกับประมาณการของ lsuzu และ Hino เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 14.3% ในปี 59 และ 21.3% ในปี 60 นอกจากนี้ หุ้นดังกล่าวยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่เหมาะสมที่ 3.9% ในปี 60 Price Pattern ของ THANl มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ THANl บ่งบอกว่าจะได้เห็นการทำ New High อีกด้วย โดยมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 6.30 บาท ทั้งนี้ THANl มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 4.98 บาท (Resistance: 5.60, 5.70, 5.90; Support: 5.45, 5.35, 5.15)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นใน ธ.ค. ม.หอการค้าไทยวานนี้ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสู่ 73.7 จุดใน ธ.ค. เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบสามเดือน เพราะมาตรการลดหย่อนภาษีช่วงวันหยุด ราคาข้าวที่ดีขึ้นและการส่งออกที่ดีขึ้น (Bangkok Post)
ความเห็น: เราคาดว่าตัวเลขจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวซึ่งจะหนุนภาคส่งออก ภาคท่องเที่ยวที่ดีขึ้นและการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
นักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่ม 9% สู่ 32.6 ล้านรายในปี 59 ก.ท่องเที่ยวฯ รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 8.9% เทียบปีก่อนหน้าสู่ระดับ 32.6 ล้านในปีที่แล้ว สร้างรายได้ 1.6 ล้าน ลบ. เพิ่มขึ้น 12.6% เทียบปีก่อนหน้า (Bangkok Post)
ความเห็น: เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อในปีนี้เพราะมาตรการคุมเข้มทัวร์ศูนย์เหรียญตั้งแต่ ก.ย. ปีที่แล้วเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ททท. ตั้งเป้ารายได้ 1.81 ล้าน ลบ. จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะเข้ามาไทย 35 ล้านรายปีนี้
ธ.พ. อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยท่ามกลางแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TMB กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยของธ.พ. อาจปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากแนวโน้มสินเชื่อที่จะขยายตัวจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเร่งเดินหน้าลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งนี้ ธ.พ. อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากก่อนในช่วงครึ่งแรกของปีเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านสภาพคล่องเพื่อรองรับกับความต้องการสินเชื่อที่จะเกิดขึ้น (Bangkok Post)
ความเห็น: ถือว่าสอดคล้องกับมุมมองเชิงบวกของเราต่อกลุ่มธ.พ. ในปีนี้ที่จะเห็นการเติบโตของสินเชื่อ ขับเคลื่อนจากการลงทุนของภาครัฐ
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงเมื่อวันพฤหัส ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์และรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายมากขึ้นก่อนจะทำการซื้อขายต่อไป ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 13/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.402% ลดลงจากที่ระดับ 2.452% เมื่อวันพุธ ราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 21/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 3.012% ลดลงจากที่ระดับ 3.048% เมื่อวันพุธ และอัตราผลตอบแทนยังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 3.004% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากการคาดการณ์ว่านโยบายของทรัมป์จะส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและข้อมูลการจ้างงานไม่สามารถสวนทิศทางขาลงซึ่งตามมาหลังจากที่เงินหยวนแข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง 1.3% สู่ระดับ 101.370 โดยดัชนีปรับตัวลงมากที่สุดในรอบวันนับแต่วันที่ 6 ก.ย. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสานเมื่อวันพฤหัส ดัชนีแนสแดคปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์นำโดยหุ้นอะเมซอนดอทคอม ในขณะที่หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้าลดลงอย่างหนักหลังจาก Macy,s และ Kohl,s รายงานยอดขายช่วงวันหยุดที่อ่อนแอซึ่งกดดันตลาดหุ้นสหรัฐ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบจากรายงานการจ้างงานในภาคเอกชนจาก ADP ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวนำรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในวันนี้ (Reuters)
การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 153,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จากรายงานการจ้างงานที่จัดทำโดย ADP นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 170,000 ตำแหน่ง ตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. ถูกปรับลดลงอยู่ที่ 215,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ 216,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ มีการรายงานจาก ADP ก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ซึ่งรวมการจ้างงานทั้งในภาครัฐและเอกชน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรรวมจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.7% จากที่ระดับ 4.6% ของเดือนก่อนหน้า (Reuters)
ภาคบริการสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMl) ภาคบริการของสหรัฐของมาร์กิตร่วงลงสู่ระดับ 53.9 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 54.6 ในเดือนพ.ย. ส่งสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นช้าที่สุดในภาคบริการในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขเฉลี่ยในไตรมาส 4/59 ที่ 54.4 แสดงถึงภาคบริการสหรัฐแข็งแกร่งที่สุดนับแต่ไตรมาส 4/58 (lHS Markit)
เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 4/59 แข็งแกร่ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (US Composite PMl Output) อยู่ที่ระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค. ลดลงเล็กน้อยจากที่ระดับ 54.9 ในเดือนพ.ย. แต่สูงกว่าระดับ 50.0 ติดต่อกัน 10 เดือนแล้ว ยิ่งกว่านั้น ดัชนี PMl เฉลี่ยในไตรมาส 4/59 แข็งแกร่งมากที่สุดนับแต่ไตรมาส 4/58 (lHS Markit)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเก่าในรอบ 1 ปี โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยในอังกฤษที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้จะมีความกังวลเรื่อง Brexit ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นก็ตาม ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มสินแร่ยังคงเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้น (Reuters)
เอเชีย :
ภาคบริการญี่ปุ่นเติบโตสูงสุดในรอบ 11 เดือน: ดัชนี PMl ภาคบริการของญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม อยู่ที่ 52.3 เพิ่มขึ้นจาก 51.8 ในเดือนพฤศจิกายนส่งสัญญาณการขยายตัวที่แข็งแกร่งในภาคบริการของญี่ปุ่น เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมและมีส่วนทำให้ค่าเฉลี่ยรายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่ 4Q58 (lHS Markit)
เศรษฐกิจญี่ปุ่นแข็งแกร่งสุดใน 4Q59: ดัชนีผลผลิตของญี่ปุ่นอยู่ที่ 52.8 ส่งสัญญาณการเจริญเติบโตที่เด่นชัดของภาคเอกชนโดยรวม เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 เป็นค่าเฉลี่ยรายไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ 4Q58 (lHS Markit)
ข้อมูล Caixin Composite PMI ของจีน บ่งชี้การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางธุรกิจทั่วประเทศจีนในเดือนธันวาคมที่มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ดัชนีภาคผลผลิตปรับขึ้นจาก 52.9 ในเดือนพฤศจิกายนไปสู่ 53.5 สูงสุดในรอบ 45 เดือน ณ สิ้นปี 2560 (lHS Markit)
ค่าเงินหยวนแข็งขึ้นครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี จากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในวงกว้างและการขู่ว่าจะล้มล้างการเดิมพันของนักลงทุนทั่วโลกสำหรับปี 2560 ต้นทุนการกู้ยืมข้ามคืนในฮ่องกงเพิ่มขึ้นถึง 96% เป็นการเพิ่มขึ้นสองรอบวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสกุลเงินต่างประเทศนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553 หนึ่งปีหลังจากความขัดแย้งของจีนและกองทุนป้องกันความเสี่ยงสำหรับสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยผู้จัดการสินทรัพย์ละธนาคารหลายแห่งคาดการณ์ว่าค่าเงินหยวนจะตกต่ำในปี 2560 ดีลเลอร์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวบีบผู้เล่นหลายคนออกจากไปจากตลาดเพียงห้าวันของเดือนมกราคม (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบบวกวันพฤหัส จากข่าวว่าซาอุจะลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของ OPEC หลังจากร่วงลงเพราะข้อมูลสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นแล้วเพิ่มขึ้นผิดคาดก่อนหน้านี้ น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 28 เซนต์ (+0.5%) ปิด 53.55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าบวก 30 เซนต์ (+0.5%) ปิด 56.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังแตะจุดสูงสุดที่ 57.35 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ElA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงแรงช่วงสิ้นเพราะมีการถอนออก 7 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกเบนซินและน้ำมันกลั่นแล้วพุ่งเพราะมีการเพิ่มการผลิตเพื่อลดสต็อก ณ สิ้นปีเพื่อเลี่ยงภาษีที่จะสูงขึ้น (Reuters)
ซาอุฯ ลดกำลังการผลิตใน ม.ค. อย่างน้อย 486,000 บาร์เรลต่อวันสู่ 10.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน หมายถึงว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดนี้ยอมทำตามข้อตกลงของ OPEC เมื่อเดือน พ.ย. (Reuters)
ราคาทองคำแตะจุดสูงสุดในรอบกว่าสี่สัปดาห์ในวันพฤหัส เพราะดอลลาร์ปรับตัวลงต่อจากจุดที่แข็งค่าสุดในรอบ 14 ปีเมื่อต้นสัปดาห์ ราคาทองคำตลาดจรบวก 1.5% แตะจุดสูงสุดตั้งแต่ 5 ธ.ค. ที่ 1,179.91 ดอลลาร์สหรัฐและปิดบวก 1.3% ที่ 1,179.18 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำล่วงหน้าสหรัฐเดือน ก.พ. บวก 14.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,179.60 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094