- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 January 2017 18:37
- Hits: 1209
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : ---
Our Portfolio Jan 2017 : EKH, GFPT, HMPRO, KSL, LIT
SET เริ่มผันผวนแม้ว่ายังบวกดี คาดมีลุ้นพักตัวได้ จึงน่ารอซื้ออ่อนตัว!
ตลาดหุ้นวานนี้ : แม้ว่า SET ยังขยับบวกต่อ ตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศที่ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขภาคการผลิตที่ดีของทั้งสหรัฐ จีนและยูโรโซน แต่ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรกดดันให้ผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวัน ทำให้มีความเสี่ยงกับการที่จะมีรอบปรับพักตัวลงได้ในเร็วๆ นี้
แนวโน้มตลาดวันนี้ : คาดว่า SET ยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวน หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เริ่มชะลอการบวก ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐแม้ว่าจะปิดลบเพียงเล็กน้อย แต่ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายมีช่วงปรับตัวลงกว่า 100 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่างบริษัทเมซีส์ เปิดเผยผลประกอบการน่าผิดหวัง และประกาศปิดสาขากว่า 60 แห่งด้วย นอกจากนี้ADP ยังรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดอีก ทำให้นักลงทุนยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในค่ำวันนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม SET อาจจะไม่ได้ปรับพักตัวลงทันที เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังฟื้นตัวได้ดีช่วยหนุน หลังตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด รวมทั้งมีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียได้เริ่มเจรจากับลูกค้าเพื่อลดการจำหน่ายน้ำมันตามข้อตกลงที่ทำไว้กับกลุ่มโอเปกแล้ว
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ยังมีสิทธิอ่อนตัวลงให้เป็นโอกาสในการเลือกหุ้นซื้อได้
แนวรับ 1568-1564 , 1560-1557 จุด
แนวต้าน 1572-1575 , 1578-1582 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : THCOM, GUNKUL, S(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$278ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$98ล้าน ไต้หวัน US$89ล้าน และไทย US$82ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$6ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงบ้างเพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในคืนวันนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) Valuation ของตลาดหุ้นไทยเริ่มแพงแต่เริ่มมีสัญญาณบวกจาก Bond yieldที่ลดลง จาก SET Target ที่เราประเมิน 1,650 จุดในปีนี้ เหลือ upside เพียง 5% ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันมี PE 14.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 14.2 เท่า และสูงเป็นอันดับ3 ของภูมิภาค รองจากตลาดมาเลเซียและฟิลิปปินส์ แต่เงินเฟ้อที่เริ่มสูงขึ้นแทบทั่วโลกและ Bond yield ของสหรัฐที่เริ่มลดลงทำให้มีเงินส่วนหนึ่งไหลออกจาก Bond เข้าสู่หุ้นเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่า ตลาดหุ้นอาจขยับขึ้นได้ต่อโดยมีหุ้น Big cap นำโดยเฉพาะพลังงาน แต่ที่ระดับดัชนีปัจจุบันไม่ใช่จุดซื้อเพื่อลงทุนยาว แต่ควรเป็นการเก็งกำไร
• (+) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วงปลายปี ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะใช้สิทธิช้อปช่วยชาติเต็มที่เพราะรัฐบาลขยายเวลาให้มากกว่าปีก่อน และผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมตัวนานพอ ทำให้ Same store sales growth ของกลุ่มค้าปลีกใน 4Q16 ไม่แย่นัก แต่ราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีกปรับขึ้นมาตลอดเกือบ 2 สัปดาห์ เหลือหุ้นที่ยังมี upside กว่า 10% คือBEAUTY, CPALL, HMPRO, FN
• (+) กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เราชอบที่สุดในปีนี้เพราะได้ประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนภาครัฐที่มีความคืบหน้ามากขึ้น เราชอบ CK (ราคาพื้นฐาน44 บาท), BEM (ราคาพื้นฐาน 12 บาท) และ SCC (ราคาพื้นฐาน 600 บาท)
- โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางมีผู้รับเหมา 36 รายซื้อซองประมูล มีทั้งผู้รับเหมาไทยและต่างชาติ วงเงินรวมทั้งสิ้น 99,932 ล้านบาทระยะทาง 668 กม. บจ.จดทะเบียนในตลาดฯที่ซื้อซองมี CK, ITD, STEC, UNIQ,NWR, CNT, PLE ทั้งนี้ รฟท.กำหนดวันที่ 3 ก.พ. เป็นวันยื่นซองประมูล และ 20ก.พ. ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและด้านเทคนิค และประกวดราคา 1 มี.ค. คาดลงนามเซ็นสัญญาปลาย มี.ค. 2017
- โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก คาดเปิดประมูล ก.ค. นี้ รฟม.สรุปเส้นทางเดินรถโดยปรับลด 2 สถานีเพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับสายสีแดง สายสีส้มฝั่งตะวันตกเป็นเส้นทางบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม วงเงิน 90,271 ล้านบาทคาดนำเข้าครม.ไม่เกิน เม.ย. เปิดประมูล ก.ค. เซ็นสัญญาปลายปีนี้-ต้นปีหน้า และเปิดเดินรถปลายปี 2023 ส่วนการประมูลหา Operator ผู้เดินรถสายสีส้มทั้งเส้น(ตะวันออก+ตะวันตก) คาดเปิดประมูลภายในปีนี้
'
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
6 ม.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (ธ.ค.)
8 ม.ค. - จีน: ดุลการค้า (ธ.ค.)
10 ม.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.), ยอดปล่อยสินเชื่อ (ธ.ค.)
12 ม.ค. - ยูโรโซน: Industrial Production (พ.ย.)
13 ม.ค. - OPEC และ Non-OPEC ประชุมติดตามผลเรื่องการลดการผลิต
- จีน: ดุลการค้า (ธ.ค.)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
17 ม.ค. - จีน: 4Q16GDP, Industrial production (ธ.ค.), ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ม.ค.)
18 ม.ค. - สหรัฐ: เงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ม.ค.)
19 ม.ค. - ECB ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ ADP ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูตัวเลขอัตราว่างงานและการจ้างงานนอกภาคเกษตรอีกครั้งคืนนี้
(0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดบวกได้บางๆจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจระยะหลังที่ออกมา
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นเริ่มลดความร้อนแรง โดยตลาดจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯคืนนี
(+) ค่าเงินบาทแกว่งตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ35.65-35.83 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.50ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงซาอุดิอาระเบียที่ลดกำลังการผลิตลงตามที่ตกลงในการประชุม OPEC
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 16 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,181.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ ADP ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research