- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 January 2017 19:53
- Hits: 1511
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : Investment Strategy 2017
ปี 2560 ถือว่า เป็นปีที่มีความท้าทาย เพราะ SET ทาผลงานได้ดีในปีที่ผ่านมา (+18%) สะท้อนว่า นักลงทุนมีความคาดหวังค่อนข้างสูง ในขณะที่แรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศเพิ่มมากขึน้ จากแนวโน้ม
ดอกเบี้ยขาขึ้น และกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายออก โดยมีสหรัฐฯเป็นตัวแปรสาคัญYuanta ประเมินทิศทาง SET ในปี 2560 ในกรอบ 1400-1640 จุด โดยเราประเมินเป้าหมาย SET กรณีฐาน (Base case) เท่ากับ 1516 จุด อิง P/E ratio เป้าหมายที่ 15 เท่า เราเชื่อว่า SET มีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดตัวคุณ P/E ratio ลง เนื่องจาก (1) อัตราการเติบโตของกาไรที่ชะลอตัวลง และ (2) ดอกเบี้ยในตลาดเริ่มปรับตัวเพิ่มขึน้ ทาให้ผลตอบแทนระหว่างตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นเริ่มแคบลง (Earningsyield gap)เนื่องจาก SET มี Upside ค่อนข้างจากัดในปีนี้ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนหลักในปีนี้คือ การเลือกซื้อหุ้น(Selective buy) บนธีมการลงทุนที่สำคัญ คือ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการอ่อนค่าของเงินบาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เราให้น้ำหนักมากกว่าตลาด (Overweight) ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง,กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มขนส่ง
ผลตอบแทนปี 2559 Outlook ปี 2560
สหรัฐฯมีอิทธิพลอย่างมากต่อกระแสเงินทุนในปี 2560เราเชื่อว่า สหรัฐฯจะมีอิทธิพลต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นโลกในปี 2560 อย่างมีนัย เนื่องจาก 2ประเด็นหลัก คือ
(1) นโยบายของ Donald Trump ในช่วงหาเสียงเพื่อชิงตาแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trumpซึ่ง เคยเป็นนักธุรกิจมากประสบการณ์ แสดงจุดยืนชัดเจนว่า นโยบายหลักคือ การกระตุ้นการเติบโต
ของสหรัฐฯ (Pro-growth policy) ดังสโลแกนที่ใช้หาเสียงคือ “Make America Great Again” หรือการนาพาสหรัฐฯให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ผ่านการสร้ างงานสาหรับประชากรในประเทศ, ลดการพึ่ง พาทางกาค้าและพลังงานจากต่างประเทศ, สร้างกาแพงเพื่อลดทอนกาลังคู่แข่งทางการค้านโยบายหลักของ Donald Trump ที่สามารถเรียกความสนใจจากนักลงทุนได้มาก ได้แก่
นโยบายด้านเศรษฐกิจ เช่น การลดภาษีนิติบุคคลจาก 35% เหลือ 15% ส่งผลให้กาไรของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึน้ โดยอัตโนมัติ, การลงทุนโครงสร้ างพืน้ ฐาน หนุนให้ความต้องการใช้สินค้าโภคภัณพ์
เพิ่มสูงขึน้ โดยเฉพาะโลหะต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี เป็นต้น
นโยบายด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาต่างชาติ โดยเฉพาะการนาเข้าจากตะวันออกกลาง และรัสเซีย ทาให้สหรัฐฯเตรียมนาทรัพยากรด้านพลังงานภายในประเทศ ออกมาใช้มากขึน้ ส่งผลให้ภาวะอุปทาน
ส่วนเกิน (Oversupply) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมนา้ มัน จะกลับมาเป็นประเด็นในปีนี้ทั้งนี้ต้องติดตามว่า Donald Trump จะสามารถโน้มน้าวรัฐสภาให้ออกกฎหมายตามที่เคยหาเสียงไว้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนมีความคาดหวังอย่างสูงต่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทาให้มีการโยกย้ายเงินลงทุนไปสู่ฝั่งสหรัฐฯ สะท้อนจาก ดัชนีหุ้นสหรัฐฯอย่าง S&P500 และดาวโจนส์ เดินหน้าทาสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All time high) ขณะที่ Dollar index แข็งค่ามากสุดในรอบ14 ปี
(2) นโยบายการเงินของ Fed เมื่อ ธ.ค.59 Fed ขึน้ ดอกเบยี ้ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี ทาให้การดาเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯสวนทางกับประเทศอื่น กล่าวคือ ประเทศหลักอื่น เช่น สหภาพยุโรปญี่ปุ่น และจีน ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (Monetary easing) ผ่านการคง/ลดดอกเบีย้ ให้ต่า และอัดฉีดเงินผ่านการซือ้ พันธบัตรและการปล่อยกู้ดอกเบีย้ ต่า แตกต่างจากสหรัฐฯซึ่งเริ่มใช้นโยบายการเงินตึงตัว (Tightening policy) ความแตกต่างดังกล่าว ทาให้เกิดการโยกย้ายของกระแสเงินทุนไปสู่สหรัฐฯ ซงึ่ ให้ผลตอบแทน (ดอกเบี้ย ) สูงกว่าดอกเบี้ยขาขึ้นการประชุมเมื่อ 13-14 ธ.ค.59 Fed มีมติขึน้ ดอกเบีย้ นโยบาย 25bps จาก 0.25-0.50% เป็น 0.50-0.75%ถือเป็นการขึน้ ดอกเบยี ้ ครัง้ แรกและครัง้ เดียวของปี 2559 ถือว่า ค่อนข้างช้ากว่าเป้ าหมายที่ Fed เคยวางไว้ตอนต้นปี อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไป Fed ดูความมนั่ ใจในการใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากขึน้ ด้วยการส่งสัญญาณว่า จะขึน้ ดอกเบยี ้ 3 ครัง้ ในปี 2560 มากกว่าคาดการณ์ของตลาด ที่ระดับ 2 ครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราเงินเฟ้ อมีแนวโน้มสูงขึน้ ตามราคานา้ มันที่ฟื ้นตัว โดย Fed ประเมินอัตราเงินเฟ้ อ (PCEinflation) ราว 1.9% ในปี 2560 เร่งตัวจากปี 2559 ที่ระดับ 1.5% และจะแตะเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ในปี 2561 นอกจากนี ้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งภายใต้การบริหารประเทศของ DonaldTrump จะทาให้ Fed มีความมนั่ ใจในการขึน้ ดอกเบีย้ มากขึน้ จะเห็นได้ชัดว่า ทิศทางดอกเบีย้ สหรัฐฯจะ
เพิ่มขึน้ แบบเร่งตัวเมื่อเทียบกับปี ก่อนภาวะดอกเบยี ้ ขาขึน้ กดดันให้นักลงทุนเทขายตราสารหนีอ้ อกมา ส่งผลให้ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล
ไทยอายุ 10 ปี พุ่งขึน้ อย่างรวดเร็ว ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2559 แตะระดับ 2.9% เทียบกับค่าเฉลี่ยทัง้ ปีที่ 2.15% ในภาวะที่ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ปลอดภัย (เงินฝากและตราสารหนี)้ เริ่มปรับตัวสูงขึน้ จะ
กดดันให้ตลาดหุ้น ต้องปรับตัวในแง่ผลตอบแทนเช่นกัน ทาให้เกิดปรากฏการณ์การปรับลด Valuation ลงผ่านการปรับลดตัวคูณ P/E ratio
ประเมิน SET ปี 2560 มี Upside จากัด เราคาดว่า SET หลีกเลี่ยงภาวะการปรับลดตัวคูณ P/E ratio ได้ยาก เพราะดอกเบีย้ โลก อยู่ในภาวะขาขึน้และ อัตราการเติบโตของกาไรตลาด เริ่มชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งโตได้ในระดับเกิน 20%ในขณะที่ราคาหุ้นสะท้อนความคาดหวังเชิงบวกของนักลงทุนไปพอสมควรแล้ว เพราะ SET ปรับตัวเพิ่มขึน้กว่า 18% ในปี 2559 นับเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึน้ มากสุดเป็นอันดับ 14 ของโลก (ณ วันที่ 27 ธ.ค.59)เราประเมินเป้าหมาย SET สาหรับปี 2560 ในกรณีฐาน (Base case) เท่ากับ 1516 จุด บนสมมุติฐานหลัก
ได้แก่
(1) คาดการณ์กาไรต่อหุ้น (Earnings per share หรือ EPS) ของ SET เท่ากับ 100.93 บาท/หุ้น คิดเป็นการเติบโต 8.4% YoY
(2) คาด Fed ขึน้ ดอกเบยี ้ 2 ครัง้ ในปี 2560 เร่งตัวจากปี 2559 ที่ขึน้ ได้เพียง 1 ครัง้
(3) กาหนดตัวคูณ P/E ratio ที่ 15 เท่า คานวณจากค่าเฉลี่ยของ 2 วิธี คือ
(3.1) วิธี P/E band กาหนดที่ 13.95 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 15 ปี
(3.2) วิธี Earnings Yield Gap หรือความสัมพันธ์ของผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี ้คานวณ P/E ratio เป้ าหมายได้ 16.08 เท่า อิงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เท่ากับ
2.95%เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้กาไรของ SET จะมีการเติบโตเป็นบวกในปี นี ้แต่เนื่องจากการปรับลดตัวคูณ ทาให้เรามอง SET มี Upside จากัดในปี นี ้ทัง้ นี ้ เป้ าหมายกรณีดีสุด (Bull case) เท่ากับ 1640 จุด อิง P/E ratioที่ 16.2 เท่า
SET target ปี 2560
เกาะกระแสการลงทุนภาครัฐและการอ่อนค่าของเงินบาทจากการที่ SET ซอื ้ ขายในโซนที่ค่อนข้างเต็มมูลค่า (Fully valued) บนความคาดหวังที่สูง ทาให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะผันผวนมากขึน้ ในปี 2560 อย่างไรก็ดี แนวทางการเลือกหุ้นของเรายังไม่เปลี่ยนแปลง คือ
Growth การหาหุ้นที่มีแนวโน้มกาไรเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด (ปี นี ้เราคาดกาไร SET โต 8.4%)
Upside ราคาหุ้นต่ากว่ามูลค่าเหมาะสม
Industry อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสินค้าหรือบริการสูง และเกาะกระแสของประเทศและกระแสของโลก
เทรนด์การลงทุนที่สาคัญในปีนี้ได้แก่
(1) การลงทุนโครงสร้างพืน้ ฐานจากภาครัฐ มีความชัดเจนมากขึน้ ในช่วงปลายปี 2559 ซงึ่ มีการประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติของรถไฟฟ้ า 3 สาย ได้แก่ สีเหลือง สีชมพู และสีส้ม เราคาดว่า ปี2560 จะมีการเปิดประมูลโครงการที่สาคัญ คือ งานรถไฟทางคู่ 5 สัญญา มูลค่ารวมสูงถึง 1แสนล้านบาท ถือเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
(2) การอ่อนค่าของเงินบาท จากการโยกย้ายกระแสเงินทุนกลับสู่สหรัฐฯ (ดอลล่าร์แข็งค่า) เป็นบวกต่อผู้ประกอบการส่งออก เช่น อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เป็นต้น รวมถึง กลุ่มท่องเที่ยว ทัง้ขนส่งและโรงแรม ซงึ่ ได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาทเช่นกัน