WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : ยืน 1,519 มั่นคงขึ้นได้ต่อเนื่อง
Technical : แนวรับ 1,519 / 1,500 แนวต้าน 1,530 / 1,545
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP แนวรับ 163.5/161 แนวต้าน 167/170
หุ้นเด่นรายวัน : MACO TPOLY SIM

     วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่งขึ้นรับข่าวจัดตั้งสนช. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,519.38 จุด เพิ่มขึ้น 19.18 จุด(+1.28%) มูลค่าการซื้อขาย 47,052.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 1,059.97 ล้านบาท
      แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,485-1,531 การปรับตัวด้านเทคนิครวมทั้งการปรับตัวตอบรับปัจจัยลบหรือความกังวลของตลาดมีโอกาสที่จะสิ้นสุดลง หลังภาพของคณะรัฐบาลเริ่มชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้มีการคาดการณ์เชิงบวกมากขึ้น โดยแรงซื้อส่วนใหญ่หันกลับเข้าหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก ในขณะที่ SET50 ระนสั้นผ่านยืน SMA5วัน 1,015ได้มั่นคง แนวโน้มเป็นการกลับตัวขึ้นรูปแบบV-Shape แนวต้าน 1,023 / 1,034 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,580-19,810 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,620-19,850
       กลยุทธ์ ระดับดัชนีกลับตัวขึ้น โดยมีแรงซื้อต่อเนื่องในหุ้นขนาดใหญ่ผลักดันดัชนีขึ้น และการกลับเข้าซื้อคืนกระจายไปทุกกลุ่ม ทั้งนี้ตลาดยังไม่มีปัจจัยลบเข้ามารบกวน การกลับตัวขึ้นในระยะสั้นจึงมีเป้าหมายการกลับตัวขึ้นเพื่อทดสอบ 1.523 / 1,532 กลุ่มสื่อสาร การปรับตัวซื้อเพิ่ม ADVANC DTAC หรือซื้อเก็งกำไร TRUE กลุ่มพลังงาน แรงซื้อกลับคืนเพิ่มขึ้นมาก PTTEP PTT TTW กลุ่มโรงกลั่น TOP BCP กลุ่มอสังหาฯ LH KC CPN SF กลุ่มธนาคาร BBL KBANK KTB SCB หุ้นรายหลักทรัพย์ BMCL EARTH ABC THRE ระยะกลาง ถือ

หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTEP (ปิด 165 ซื้อเป้าปี 57: 185 บาท) ผลประกอบการครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 30,600 ล้านบาททรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 56 อย่างไรก็ตามคาดกำไรสุทธิครึ่งปีหลังจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรกเพราะจะรับรู้ปริมาณการผลิตจาก Hess Thailand เต็มไตรมาสใน 3Q57 และ4Q57 จะรับรู้ปริมาณขายจากแหล่ง Zawtika ในพม่า ทำให้ภาพรวมทั้งปี PTTEP ยังมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 66,484 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18%yoy

หุ้นเด่นรายวัน
MACO (ราคาปิด 17.70 ซื้อเก็งกำไร ) บอร์ดมีมติแตกพาร์เหลือ 0.10 บาทเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ออกวอร์แรนต์ อายุ 3 ปี จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 วอร์แรนต์ พร้อมอนุมัติจ่ายปันผลงวดครึ่งแรกของปี 57 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทต่อหุ้น วันจ่าย 2 เตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น 26 ก.ย. แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังสดใสลูกค้าเพิ่มงบโฆษณา บริษัทเตรียมเพื่อพื้นที่สื่อโฆษณาในต่างจังหวัด และปรับเปลี่ยนสื่อโฆษณาเป็นสื่อดิจิตอลหนุนรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า 15% 2Q57 มีกำไร 30 ล้านบาทลดลง 32%YoY กำไรครึ่งปี 74 ล้านบาทลดลง 7%
TPOLY (ปิด 3.42 ซื้อเก็งกำไร) ผลประกอบเริ่มฟื้นตัว มีข่าวพันธมิตรต่างชาติ และไตรมาส 3/57 นำบริษัทลูกเข้าตลาดฯ เก็งกำไรข่าวกลุ่มทุนจากต่างประเทศขอเจรจาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเตรียมตัวรับงานใหญ่จากภาครัฐ นอกจากนี้ผู้บริหารยังคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ไตรมาส 3/57 จะนำบริษัทลูก TPCH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะเพิ่ม Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนใน TPOLY
SIM (ปิด 3.50 ซื้อเก็งกำไร) ราคาหุ้นที่ลดลงเป็นโอกาสเข้าซื้อเนื่องจากมองกำไรสุทธิ 2Q57 จะปรับตัวสูงขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดจำหน่ายโทรศัพท์และสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของความสามารถในการทำกำไรก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากยอดขายกว่า 70% เป็นสมาร์ทโฟนซึ่งมีมาร์จิ้นที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการขายโทรศัพท์มือถือ

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* EFORL / TSF มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57
* AIRA / MPG / PAE มีผลบังคับใช้ 21 ก.ค. - 29 ส.ค.57
* BMCL / CKP/ EE / LIVE / RASA/ RPC/ TCC มีผลบังคับใช้ 28 ก.ค. - 5 ก.ย.57
* TMI / TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 12 ก.ย. 57

***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 69.93 จุด
     ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 69.93 จุด ตลาดยังถูกกดดันจากข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี อย่างไรก็ตามดัชนีลดลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดยังมีแรงหนุนจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในเดือนก.ค.ที่ปรับตัวสูงขึ้น 209,000 ตำแหน่งทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่หกติดต่อกัน ขณะที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 55.3 ในเดือนมิ.ย. ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 69.93 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 16,493.37 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 17.13 จุด หรือ 0.39%ปิดที่ 4,352.64 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 5.52 จุด หรือ 0.29%ปิดที่ 1,925.15 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.29 เหรียญ
      ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 29 เซนต์ หลังมีรายงานว่าเหตุการณ์รุนแรงใน อิรัก และลิเบีย ตลอดจนความขัดแย้งกันระหว่างยูเครนและรัสเซียไม่ได้มีผลกระทบต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบของโลก นอกจากนี้ตลาดยังมีแรงกดดันจากแนวโน้มสต๊อกน้ำมันดิบในเมืองคุชชิงของสหรัฐที่อาจจะสูงขึ้นหลังมีข่าวว่าโรงกลั่นน้ำมันของ CVR Refining LP ที่เมืองคอฟฟีย์วิลล์ รัฐแคนซัส อาจจะต้องหยุดดำเนินการเป็นเวลา 1 เดือนหลังโรงกลั่นดังกล่าวไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 97.88 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนลดลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 104.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!