WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ซื้อขายกรอบแคบ รอต่างชาติกลับบ้าน
  KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ทรงตัว/ลบเล็กน้อย โฟลว์ไหลออกยังเป็นประเด็นกดดันตลาด หลังวานนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิค่อนข้างมาก ผนวกกับตลาดหุ้นต่างประเทศปรับฐาน และราคาน้ำมันสหรัฐฯ ปรับฐาน 1.5% หลังอีไอเอรายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยยังมอง SET มีทางลงจำกัด ต่างชาติจะลดบทบาทลงอีกภายในสิ้นสัปดาห์นี้ และประเด็น window dressing ผนวกเม็ดเงิน LTF น่าจะพยุงดัชนีฯ ในสัปดาห์หน้าให้อยู่ในทางขึ้นได้ ด้านปัจจัยภายใน กนง. วานนี้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามคาด และไม่ส่งสัญญาณใดๆ เลยว่าจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยตามเฟด เป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดการณ์ ส่งผลให้ธีมเงินบาทอ่อนค่า ยังน่าสนใจ (อ่านเพิ่มเติมในข่าว และบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มอิเลกทรอนิกส์ ในวันนี้)

 

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร NYT, COM7*
  NYT (เป้า Consensus 17.2 บาท) 1) เราประเมินการส่งออกรถยนต์จะฟื้นตัวในปี 2560 จาก i) เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยเฉพาะในสหรัฐฯ (สัญญาณตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น และเห็นได้จากเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย) และตะวันออกกลาง (ราคาน้ำมันฟื้นตัวแรง โดยในอดีตช่วงปี 2555 – 56 ที่ราคาน้ำมัน >80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยส่งออกรถยนต์ไปตะวันออกกลางคิดเป็น 25% แต่ใน 9M59 สัดส่วนการส่งออกลดลงเหลือเพียง 14% และจำนวนรถยนต์ส่งออกไปตะวันออกกลางช่วง 9M59 เทียบ 9M56 ลดลงราว 35%) ii) ค่าเงินบาทอ่อนเทียบดอลลาร์สหรัฐฯเป็นผลดีต่อการส่งออกรถยนต์ 2) PE ปี 2560 ต่ำเพียง 16.8 เท่า และ Dividend yield ปี 2560 = 5% ถือว่า Valuation ถูกเมื่อเทียบกับธุรกิจสัมปทานผูกขาดอย่าง AOT* (22.9 เท่า) BEM* (30.7 เท่า) และ BTS* (44.2 เท่า) ขณะที่ Bloomberg consensus คาดกำไร NYT ปี 2560 จะเติบโต 19.5% YoY (เราคาดมีโอกาสโตมากกว่าคาด เพราะการส่งออกรถยนต์มีโอกาสฟื้นแรงกว่าคาด) 3) ประเมินแนวรับ 14 บาท แนวต้าน 14.4 บาท หากทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 15 บาท และ 15.5 บาท (Stop loss 13.6 บาท)
  COM7* (เป้า Consensus 14.1 บาท ... สูงสุด 17.5 บาท) 1) จากการเข้าพบผู้บริหาร IT (ร้านคู่แข่งของ COM7) ประเด็นสำคัญคือ i) เลิกสงครามราคาร้านค้าปลีกคอมพิวเตอร์แล้ว หลังผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฯใช้กลยุทธ์นี้ในช่วง 3 – 5 ปีที่ผ่านมา (เป็นบวกต่อมาร์จิ้นของ COM7 ที่ตอนนี้ส่วนแบ่งตลาดเป็นเบอร์ 1) ii) แนวโน้มยอดขายสินค้าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ฯ ในภาพรวม ปีหน้าจะกลับมาเติบโตจากกำลังซื้อในประเทศที่ดีขึ้น 2) คาดราคาหุ้นปรับลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรก่อนหน้า ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน วานนี้แรงซื้อกลับบริเวณราคาที่นักลงทุนสถาบันซื้อบิ๊กล๊อตจากผู้บริหาร (บริเวณ 12.75 บาท) ประเมินเริ่มมีสัญญาณการกลับตัว (Bullish reversal) ประเมินแนวรับ 13.1 บาท แนวต้าน 13.9 บาท และถัดไปที่ 14.3 บาท (สำหรับนักเก็งกำไรสั้น Stop loss 12.6 บาท) 3) ประเมินกำไร 4Q59 มีโอกาสทำนิวไฮ (คาดจะมากกว่าประมาณการฯ Consensus) จาก i) High season ii) iPhone7 iii) การเป็นพันธมิตร TRUE* (ขายซิม True รับค่าคอมฯ และเข้าบริหาร True shop แล้ว 30 สาขา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) iv) ได้แรงหนุนจากมาตรการช้อบช่วยชาติ

 

หุ้นในกระแส
หุ้นเข้า SET50 / SET100 สำหรับ 1H60
  SET50: THAI*, GLOBAL*, KKP*, PTG*, SPRC*
  SET100: KAMART, SCN, TKN, VIBHA, THANI, SCN, SPRC และ SUPER
  หุ้นกลุ่มรับเหมาเน้นเสาเข็ม (SEAFCO, PYLON) เปิดขายซองรถไฟรางคู่ 5 เส้นทางแล้ว (14 ธ.ค.59 – 5 ม.ค.60) และจะเริ่ม E-auction มี.ค.60 คาดเป็น Sentiment บวกต่องานเสาเข็ม หลังจากที่รู้ผลประมูลรถไฟฟ้า 3 สายแล้ว (ชมพู – เหลือง – ส้ม) คาดจะเริ่มงานตอกเสาเข็มโครงการภาครัฐฯใน 2H60 ขณะที่งานภาคเอกชน (คอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้า) คาดยังเติบโตตามการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า
  1) SEAFCO ประเมินแนวรับ 11.2 บาท แนวต้าน 12.2 บาท
  2) PYLON ประเมินแนวรับ 12 บาท แนวต้าน 13.2 บาท
  หุ้นกลุ่มค้าปลีก (COM7*, ROBINS*, TVD) มาตรการ “ช้อบช่วยชาติ” เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกอาทิ COM7*, ROBINS*, TVD
  หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (THAI*, MINT*, SPA) มาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เน้น จีน) และลดหย่อนภาษีสำหรับไทยเที่ยวไทย เป็น Sentiment บวกต่อหุ้น THAI*, MINT*, SPA

 

หุ้นมีข่าว
  (-) กลุ่มท่องเที่ยวจีนลดลงต่อเนื่อง (บางกอกโพสต์) จากการสถานการณ์ควบคุมทัวร์ศูนย์เหรียญตั้งแต่ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสมาคมท่องเที่ยว ( TCT) คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะลดลง 12.2% YoY ใน 4Q59 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนปีนี้ทั้งปีจะเติบโต 12.3% ซึ่งสถานการณ์คาดว่าจะฟื้นตัวได้หลัง 1Q60 ดังนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทุกประเทศปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 32.5 ล้านคน (+8.8%) ซึ่งต่ำกว่าที่ประมาณแรกที่คาดว่าจะเติบโต 13% ในขณะที่การเติบโตปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 5.8% เราเชื่อว่าปัจจัยลบนี้ยังคงกดดันหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นกลุ่มขนส่งทางอากาศ ท่าอากาศยาน และโรงแรม ทั้งนี้ตัวเลขที่ชะลอตัวจะทำให้สร้างกดดันต่อการเพิ่มราคาค่าห้องพักในช่วง High season ใน 1Q60
  (+) TCMC ต่อยอดซื้อกิจการ ดันกำไรด้วยเงินต่อเงิน (ทันหุ้น) จับตา TCMC ผู้บริหาร "พิมล ศรีวิกรม์" ทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่มอีก 0.19% หนุนการถือครองหุ้นเพิ่มเป็น 10.02% ขณะที่ผลงาน 9 เดือนแรกปีนี้ คว้ากำไร 120.48 ล้านบาท โตถึง 155.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปีที่ผ่านมา เจาะกลยุทธ์การซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดเข้าซื้อธุรกิจ DMM ผู้ผลิตและจำหน่ายเก้าอี้โซฟารายใหญ่ในสหราชอาณาจักร ซึ่ง FA ชี้ว่า ซื้อในราคาที่ต่ำสุดคุ้ม เชื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม TCMC ในระยะยาว
  (+) BEM* เจรจารฟม.ฉลุย! รับเดินรถสายสีน้ำเงินชงเดินรถรอยต่อ 1 สถานีเข้าครม. 27 ธ.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) “รฟม.” สรุปผลเจรจา BEM รับงานเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินแล้ว ขอเวลา 2 สัปดาห์รวบรวมรายละเอียดก่อนชงสคร. รัฐมนตรีคมนาคม และครม. ส่วนงานเดินรถรอยต่อ 1 สถานี เตาปูน-บางซื่อ คาดชงครม.ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้
  (+ ITEL, ALT, COM7*) ลุยนโยบายเน็ตชุมชนเสร็จปี'60 (โพสต์ทูเดย์) "พิเชฐ" ลุยนโยบายดิจิทัล ไทยแลนด์ เร่งอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านเสร็จปี 2560 หวังสร้างคน สู่ไทยแลนด์ 4.0 นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผย ภายหลังเข้ามารับตำแหน่ง รมว.ดีอี อย่างเป็นทางการ นโยบายหลักที่จะเร่งผลักดันจะเป็นเรื่อง ดิจิทัล ไทยแลนด์ และ เร่งผลักดัน ดิจิทัล ชุมชน ให้เข้าถึงประชาชนในทั่วประเทศ ผ่านการมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทุกหมู่บ้าน เพื่อให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล พร้อมกับประสานการทำงาน ในหน่วยงานกระทรวงให้ไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวง
  (+) PDI ส่งบริษัทย่อยทุ่มงบ 477 ล้าน ปิดดีลซื้อโซลาร์ฟาร์ม กำลังผลิต 5.25MW (ข่าวหุ้น) “PDI” รุกธุรกิจพลังงานทดแทนตามแผน ไฟเขียวบริษัทย่อย “พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี” ทุ่มงบ 477 ล้านบาท ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 5.25 เมกะวัตต์

 

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  TNR (เป้า Consensus 20.26 บาท ... คาดมีโอกาสปรับขึ้น) ทะลุ 28.5 บาทได้ ประเมินขยับกรอบการเทรดขึ้นไปเป็น 28.5 – 32.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบ แนวรับ – แนวต้าน (โดยคาดมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 30 บาท) ... ประเมินได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน + 4Q เป็น High season + คาดกำไรปีหน้าโตเด่นจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น (โรงงานที่หยุดผลิตในปีนี้กลับมาผลิต ด้วยกำลังการผลิต +30% … รายได้โต + ไม่ต้องแบกค่าเสื่อมราคาโรงงงานที่หยุดการผลิตไปแบบในปีนี้)
  ASEFA (เป้า Consensus 8.9 บาท) ประเมินแนวรับ 7.5 บาท แนวต้าน 7.8 บาท (Stop loss 7.2 บาท) ... คาดกำไร 4Q59 ลุ้นทำนิวไฮ จากเป็น High season และไม่มีเรื่องราคาเหล็กลดลงมาถ่วงผลการดำเนินงาน (ปีที่แล้วบันทึกด้อยค่าราคาเหล็กจากการรื้อถอนโรงไฟฟ้า)
  KSL (เป้าพื้นฐาน 5.4 บาท) สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรบริเวณ 4.9 บาท ตามที่เราแนะนำวานนี้ แนะนำ Let profit run โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ 5.6 บาท และ 6.0 บาท
  VGI* (เป้า Consensus 4.98 บาท ... สูงสุด 5.5 บาท) ประเมินหากวันนี้ยืนเหนือ 5.40 บาทได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±5.70 บาท แต่ถ้าต่ำกว่า 5.4 บาท แนะนำ ขายล๊อกกำไร ... ประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศฟื้นตัว โดยเฉพาะช่วงปลายปี จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ และการกระตุ้นการท่องเที่ยว
  THAI* (เป้าสูงสุด Consensus 34 บาท) ราคาหุ้นใกล้ทดสอบแนวรับสำคัญทั้งเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (21.3 บาท) และแนวรับ Downtrend line channel รวมทั้งแก๊บราคา 21 – 21.9 บาท คาดมีโอกาสรีบาวด์ แนะนำ รอการสร้างฐานราคาก่อนจึงเข้าซื้อสะสม ลุ้นการรีบาวด์ ... Cabin factor เดือน ต.ค. – พ.ย. ยังเติบโต YoY ไม่ได้ผลกระทบจากการปราบทัวร์ผิดกฏหมาย
  TRC* (เป้าสูงสุด Consensus 1.8 บาท) รอการสร้างฐานราคาใหม่อีกครั้งจึงเข้า ซื้อสะสม / เก็งกำไร ... คาดอยู่ระหว่างรอการเปิดประมูลท่อส่งก๊าซของ PTT* (ท่อก๊าซเส้นที่ 4 มูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท) + การปลดล๊อกการลงทุนเหมืองแร่โปแตซ (APOT) ภายใน 1Q60 ปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ (มูลค่าลงทุนงานโครงสร้างเหมืองฯราว ±3.5 หมื่นล้านบาท)
  ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) หากยืนเหนือ 10.8 บาทได้มีโอกาสฟื้นตัว ทดสอบแนวต้าน 11.5 บาท แต่หากต่ำกว่าประเมินมีโอกาสย่อลงทดสอบแนวรับ 10 บาท แนะนำ “ถือ / รอซื้อแนวรับ”

สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  FN แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 10 บาท ประเมินโครงสร้างธุรกิจที่มีความแตกต่าง ช่วยทำให้ FN มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ด้วยการเป็นศูนย์กระจายสินค้าใหม่ซึ่งขายความเป็นเอกลักษณ์ โดยไม่ต้องเสียค่าขนส่งและการตลาด ยิ่งไปกว่านั้นการที่บริษัทกลับมาเริ่มขยายสาขาอีกครั้ง หลังจากที่ขยายสาขาครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 อีกทั้ง การตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนสินค้า private brand ซึ่งมี GPM สูงถึง 45.0-48.0% และรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ที่คาดจะเพิ่มขึ้นหลังการปรับปรุงพื้นที่ จะช่วยหนุนให้กำไรปี 2560 กลับมาฟื้นตัว 50.7% YoY เป็น210 ล้านบาท
  กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” แม้นโยบายปกป้องทางการค้าของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ อาจทำให้ระดับของการปกป้องทางการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น แต่ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลกระทบจากนโยบายที่จะเกิดกับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะไม่มากนัก นอกจากนี้แนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐก็จะทำให้มี upside ในแง่ผลประกอบการของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไทยมากขึ้นเนื่องจากในการส่งออกสินค้าใช้เงินสกุลดอลลาร์เป็นหลัก เลือก SMT (กำลังเข้าสู่ช่วงของการเติบโต) และ KCE* (แนวโน้มสดใส และผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

Market strategy Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ต้านสั้น 1511 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1511 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1511-1501 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1511 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1511-1525 จุด
  แนวรับวันนี้: 1507/1501 แนวต้านวันนี้: 1511/1523

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!