- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 December 2016 17:31
- Hits: 1003
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดย่อตัวลงทดสอบด่าน 1,505 จุด ก่อนเกิด Technical Rebound ขึ้นมาแกว่งแคบ 1,510 จุด +/- หุ้นหลักพักฐาน เช่น AOT/ SCC ขณะที่หุ้นกลางและเล็กกลับมามีสีสรร ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,508.57 จุด ลบเล็กน้อย 3.08 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 34,610 ล้านบาท
ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 2,606 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 4,958 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เช่นกัน 703 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ต่างชาติยังคงทยอยลดน้ำหนักการลงทุนทั้ง 3 ตลาดในไทยเป็นวันที่ 2
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 6)
ทิศทาง SET INDEX วันนี้แกว่งแคบต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ระหว่าง 1,500-1,510/15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่องเฉลี่ย 3.5-4.0 หมื่นล้านบาท/วัน เพราะเป็นช่วงปลายปี นักลงทุนภายในประเทศชะลอการลงทุน นักลงทุนต่างชาติลดกิจกรรมการลงทุนก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในปลายสัปดาห์นี้ต่อเนื่องสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เบาบาง นำมาซึ่งความผันผวนของ SET INDEX ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายได้เช่นกัน ทั้งในด้านบวกและด้านลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนของสถาบันภายในประเทศจะตัดสินใจการลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2559 อย่างไร ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติจะชะลอตัวลงไปเป็นลำดับจากนี้ไป
เมื่อตลาดกลับมาเป็นการแกว่งซึมตัว มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ทำให้หุ้น Big Cap ย่อมเข้าสู่ช่วงพักฐาน ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กจะขยับได้เด่นตามประเด็นการเก็งกำไรระยะสั้นในแต่ละหลักทรัพย์
กลยุทธ์การลงทุน "เข้าสะสมหุ้นเป้าหมายเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง เพื่อรอขายทำกำไรเมื่อ SET INDEX ฟื้นตัวด่านแรก 1,520-1,530 จุด"
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร BEM : ราคาปิด 7.45 บาท ราคาเหมาะสม 8.10 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังรฟม.เผยว่าได้ดำเนินการเจรจากับ BEMให้รับงานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมออกไปอีก 21 ปี ให้ครบสัญญาสัมปทานพร้อมสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายในปี 2593
b) ขั้นตอนต่อไป คือการนำเสนอให้ สคร.พิจารณาอีก 45 วันก่อนที่จะเสนอให้กระทรวงคมนาคม และครม.อนุมัติภายใน 30 วัน
c) ประเมินเบื้องต้น คาดว่าการได้ต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมออกไปจะเป็นบวกต่อราคาเป้าหมายไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 1.00 บาท และ Valuation ยังถูกกว่า BTS โดย BEM ซื้อขายระดับ PER2560 ที่ 33.8 เท่า ต่ำกว่า BTS ที่ 52.5 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก US$136 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$83 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันเป็นวันที่ 2
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 2,606 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 794 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิต่ำกว่า 80,000 ล้านบาทเป็นวันที่ 7 เท่ากับ 72,291 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 เช่นกัน 4,958 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 13,675 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง เนื่องจาก S50Z16 ปิดสูงกว่า SET50 Index เท่ากับ 1.30 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium มากถึง 2.32 จุด และทำให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้คงสถานะ Long สุทธิลดลงเหลือ 9,574 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 ลดลงเหลือ 703 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 3,990 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงแรง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นถึง 5.52bps จากวันก่อนหน้าลดลงมากถึง 5.33bps ปิดที่ 2.889%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 416 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 447 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 48 หลักทรัพย์ จากวันก่อนที่ 56 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เน้นลดน้ำหนัก AOT / TU เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้กลับมาขายสุทธิมากถึง 1,510 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 955 ล้านบาท โดยเน้นลดน้ำหนักกลุ่มขนส่ง 526 ล้านบาท กลุ่มอาหาร 270 ล้านบาท และกลุ่ม ICT 215 ล้านบาท ขณะที่สะสมกลุ่มปิโตรเคมีสูงสุดเพียง 87 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ยอดขายบ้านมือสองออกมาดีกว่าคาด: เดือนพ.ย. เท่ากับ 5.610 ล้านหลัง สูงกว่า Bloomberg consensus คาด 5.535 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้า 5.570 ล้านหลัง เพิ่มขึ้น 0.7% mom แม้ว่ายอดขายบ้านเดียวจะลดลง 0.4% mom แต่ยอดขายคอนโดมิเนียมกลับเพิ่มขึ้น 10.0% mom
ยุโรป
ธนาคาร Monte dei Paschi อาจขาดสภาพคล่องภายใน 4 เดือน: ธนาคารใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลี ส่งสัญญาณเตือนสภาพคล่องสามารถรองรับการทำงานไปได้อีกเพียง 4 เดือน หากการเพิ่มทุนธนาคารไม่สำเร็จ จากการประเมินครั้งก่อน สภาพคล่อง 1.06 หมื่นล้านยูโรจะรองรับไปได้ราว 11 เดือน ล่าสุดธนาคารเปิดให้เจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นทุนได้ราว 500 ล้านยูโร แต่ก็ยังห่างไกลจากเป้าหมายการเพิ่มทุนที่ 5.0 พันล้านยูโร
ธนาคารกลางรัสเซียประเมินอัตราเงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่อง: ธนาคารกลางรัสเซียประเมินอัตราเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.จะลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อยังไม่ใช่ทิศทางของการชะลอตัว ทำให้ธนาคารกลางยังต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดปานกลางต่อไป
สภาอิตาลีผ่านงบ 2.0 หมื่นล้านยูโรในการช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์: สภาฯ อิตาลี อนุมัติวงเงิน 2.0 หมื่นล้านยูโรในการเข้าช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ที่มีฐานะการเงินที่อ่อนแอ โดยจะเริ่มจากการช่วยเหลือธนาคารอันดับที่ 3 ของอิตาลี Monte dei Paschi di Siena ซึ่งต้องการปรับโครงสร้างทุน 5.0 พันล้านยูโร
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางอินเดียกำหนดหลักเกณฑ์การฝากเงินสด: ธนาคารกลางอินเดีย กำหนดหลักเกณฑ์การฝากเงินสดใหม่ โดยเงินฝากส่วนบุคคลจะรับธนบัตรมากกว่า 5,000 รูปีเพียง 1 ครั้งไปจนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2559 และหลังจากนั้นจะไม่มีการรับฝากเงินด้วยธนบัตรดังกล่าวอีกต่อไป
อินเดียเตรียมเสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อลดการใช้จ่ายเงินสด: รมว.คลัง อินเดีย เตรียมเสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อกระตุ้นรายการทางการเงินที่ไม่เป็นเงินสดให้มากขึ้น
ไทย
กนง.คงอัตราดอกเบี้ย และคงคาดการณ์ GDP ปี 2559-2560: ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดสุดท้ายของปีนี้ วันที่ 21 ธ.ค. 59 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2559 และ 2560 ในระดับใกล้เคียงกันที่ 3.2% และมองว่าความเสี่ยงต่อประมาณการเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อโน้มไปด้านต่ำและมีความไม่นอนมากขึ้น โดยปัจจัยเสี่ยงหลักยังคงมาจากเศรษฐกิจโลกที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด และมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่น้อยกว่าประมาณการ
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst