- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 December 2016 16:59
- Hits: 1721
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...คาดกุล่มอาหาร ยังโดดเด่นในปีหน้า
หลังดัชนีกลุ่มเกษตร สร้างสถิติขึ้นมากที่สุดในตอนนี้ที่ประมาณเกือบ 50% จากแรงหนุนราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก(Soft commodity) ปรับตัวขึ้นแรง เรามองว่าทิศทางในปีหน้าการเติบโตของกลุ่มยังคงดี แต่ราคาหุ้นอาจจะพุ่งขึ้นไม่มากเท่ากับปีนี้ ส่วนกลุ่มที่จะมาแทน เรามองว่าหุ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม หลังดัชนีกลุ่มในปีนี้ขึ้นได้เพียงประมาณ 32% ขณะที่ราคาหุ้นหลักๆยังขึ้นได้น้อยมาก จุดเด่นของกลุ่ม คือได้รับแรงโหวตจากบรรดานักธุรกิจในเอเชีย 118 บริษัท ที่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและมองธุรกิจจะสดใสในอีก 6 เดือนข้างหน้า จากการสำรวจของ Thomson Reuters/INSEAD
ปัจจัยหนุนในภาพกว้างต่อกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม คือ ค่าเงินบาทค่อยๆ อ่อนตัวลง ราคาไก่ขยับตัวสูงขึ้น การทำ M&A เกาหลีอนุญาติให้นำเข้าไก่เข้าประเทศและธุรกิจเครื่องดื่มยังเติบโตในปีหน้าจากการขยายธุรกิจสู่เพื่อนบ้าน โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของ EPS ของกลุ่มในปีหน้าอยู่ที่ 12% สำหรับปัจจัยกดดันคือราคาต้นทุนด้านวัตถุดิบเริ่มขยับตัวขึ้น แต่ยังไม่ส่งผลต่อกำไรของธุรกิจ ส่วนราคาหุ้นยิ่งบ่งบอกว่าความเสี่ยงในการลงทุนต่ำ ดูได้จากรูปด้านซ้าย ที่เราแสดงราคาหุ้นของ CPF เทียบกับกลุ่ม พบว่าปัจจุบันราคาหุ้นยังวิ่งขึ้นได้น้อยกว่าการขึ้นเฉลี่ยของกลุ่ม เราจึงแนะนำ ซื้อลงทุน
หากวัดความถูกความแพงผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าเทียบคู่แข่ง พบว่าค่า P/E ของ CPF อยู่แค่ 13.9 เท่า ขณะที่ EPS growth ในปีหน้าเราให้โต 5% เทียบค่า Consensus ที่ 0.76% ที่สำคัญในการลงทุนคือ ราคาหุ้น CPF ในปัจจุบันยังเล่นต่ำกว่าราคาเป้าหมายต่ำสุดของบรรดานักวิเคราะห์ (ดูจากรูปด้านขวา) แม้ราคาหุ้นจะยังถูก แต่นักลงทุนยังกังวลกับผลการดำเนินงานใน Q4/16 ที่คาดว่าจะออกมาในเชิงชะลอตัวเมื่อเทียบกับ YoY% ภาพตรงนี้เรามองเป็นแค่ช่วงสั้นๆจากผลของฤดูกาล โดยเรามองว่าราคาหุ้นที่ยืนอยู่ในระดับปัจจุบัน น่าจะรับข่าวผลดำเนินงาน Q4/16 ไปมากแล้ว
วันนี้จะมีการประชุม กนง. ซึ่งคาดกันว่าที่ประชุมจะคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมที่ 1.50% อันจะส่งผลด้านบวกกับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในช่วงสั้นๆ ส่วนภาพรวมๆ ของตลาดคาดจะยังนิ่งๆ ต่อไปอีกระยะ ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศ ค่าเงินบาทและราคาน้ำมัน ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ยังคงเป็นแบบเก็งกำไรหุ้นรายตัวไปก่อน จนกว่าจะเปิดขึ้นมาหลังปีใหม่หรือกลางๆเดือน ม.ค. ที่น่าจะเห็นภาพการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น หุ้นรายตัวที่คาดว่าน่าจะคึกคักในช่วงนี้ น่าจะกลับมาเป็นหุ้นในกลุ่มที่ให้เงินปันผลสูงๆ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ยังคง selective buy เป็นหลัก แม้ว่าตลาดจะยังคงเผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจากการที่ค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง แต่แรงขายเริ่มชะลอตัวตามปริมาณการซื้อขายที่ลดลงหลังใกล้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ บวกกับแรงซื้อของกองทุน LTF RMF ก็คาดว่าจะหนุนดัชนีให้ปิดปียืนเหนือ 1500 จุดได้ วันนี้ยังเน้น selective buy ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของภาครัฐที่ประกาศออกมาในช่วงก่อนหน้านี้อย่างกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มโรงแรม (CPN MC ROBINS CENTEL MINT), หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน (CPF GFPT TU KCE DELTA SVI) และหุ้นที่ยังมีราคาปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard Play) อย่าง ADVANC BH SCC SGP WHA วันนี้มองแนวต้านที่ 1517-1520 จุดและแนวรับที่ 1500-1505 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC CPF MINT และ SPALI
Analysts : Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
ล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : วันนี้จะมีการประชุม กนง. ซึ่งคาดกันว่าที่ประชุมจะคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมที่ 1.50% อันจะส่งผลด้านบวกกับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในช่วงสั้นๆ ส่วนภาพรวมๆ ของตลาดคาดจะยังนิ่งๆ ต่อไปอีกระยะ ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศ ค่าเงินบาทและราคาน้ำมัน ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ยังคงเป็นแบบเก็งกำไรหุ้นรายตัวไปก่อน จนกว่าจะเปิดขึ้นมาหลังปีใหม่หรือกลางๆเดือน ม.ค. ที่น่าจะเห็นภาพการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น หุ้นรายตัวที่คาดว่าน่าจะคึกคักในช่วงนี้ น่าจะกลับมาเป็นหุ้นในกลุ่มที่ให้เงินปันผลสูงๆกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ยังคง selective buy เป็นหลัก แม้ว่าตลาดจะยังคงเผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจากการที่ค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
แต่แรงขายเริ่มชะลอตัวตามปริมาณการซื้อขายที่ลดลงหลังใกล้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ บวกกับแรงซื้อของกองทุน LTF RMF ก็คาดว่าจะหนุนดัชนีให้ปิดปียืนเหนือ 1500 จุดได้ วันนี้ยังเน้น selective buy ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของภาครัฐที่ประกาศออกมาในช่วงก่อนหน้านี้อย่างกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มโรงแรม (CPN MC ROBINS CENTEL MINT), หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน (CPF GFPT TU KCE DELTA SVI) และหุ้นที่ยังมีราคาปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard Play) อย่าง ADVANC BH SCC SGP WHA วันนี้มองแนวต้านที่ 1517-1520 จุดและแนวรับที่ 1500-1505 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC CPF MINT และ SPALI
Themes play :
MlNT : เราแนะนำ ซื้อ MINT โดยมีราคาเป้าหมาย 43 บาท หลังราคาปรับฐานลงมาในระดับที่น่าสนใจเข้าลงทุนอีกครั้ง โดย MINT เป็นผู้ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทั้งลดภาษีท่องเที่ยว (15,000 บาท ในเดือนธ.ค. 59) และค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ (15,000 บาทในช่วงวันที่ 14-31 ธ.ค. 59) เนื่องจาก MINT มีทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในประเทศ เราเชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้รับรู้ผลประกอบการที่มีแนวโน้มอ่อนตัวใน 4Q16 เพราะความเชื่อมั่นที่ลดลงของผู้บริโภคในช่วงไว้อาลัย โดยปัจจัยบวกที่จะผลักดันราคาหุ้นจะมาจากสถิตินักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในปีหน้า นอกจากนั้นค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงนี้ยังเป็นผลดีกับ MINT จากทั้งนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะมีกำลังซื้อมากขึ้น (ดอลลาร์แลกบาทได้มากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประเทศไทยดูถูกลง) และจากการที่บริษัทมีรายรับบางส่วนเป็นดอลลาร์สหรัฐ (แปลงกับมาเป็นรายรับสกุลเงินบาทได้มากขึ้น) จากพอร์ทธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศประมาณ 70%
ประเด็นในสัปดาห์
21 ธ.ค. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
21 ธ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 5.6 ล้านยูนิต
22 ธ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข GDP Annualized QoQ ไตรมาส 3/59 โดยตลาดคาด 3.3% จากเดือนก่อนหน้าที่ 3.2%
Technical Pick :
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1500 จุด และแนวต้าน 1520 จุด
Total Access Communication (DTAC TB; THB 34.75) - ซื้อ
Mono Technology (MONO TB; THB 2.86) - ซื้อ
SET Index : รีบาวด์ ?
Retail Research Team