WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 1983
ฟื้นตัวได้ระดับหนึ่ง ก่อนไซด์เวย์ต่อ
  KGI คาด SET วันพุธรีบาวด์ก่อนไซด์เวย์ต่อ ยังคงคาดหวังเม็ดเงินในประเทศหนุนตลาด (วานนี้ดัชนีฯ ลงแรงกว่าคาด กังวลเหตุตึงเครียดในตุรกี และเยอรมัน) ทั้งนี้แม้เงินบาทอ่อนค่าแรงสู่ 36.00 และต่างชาติยังขายสุทธิ แต่สัดส่วนของต่างชาติในวอลุ่มรวมของตลาดยังคงลดลงอีก ซึ่งชี้ว่าเมื่อวานไม่ได้มีแรงขายหนักแต่อย่างใด ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศฟื้นตัว โดยฝั่งสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากหุ้นสถาบันการเงิน ซึ่งน่าจะแนวโน้มกำไรที่ดีขึ้นในปี 2560 จากนโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ รวมทั้งดอกเบี้ยที่เริ่มปรับขึ้น ขณะที่ฝั่งยุโรป ดัชนี EUStoxx50 ปรับเพิ่มขึ้น 0.65% แม้มีความกังวลในประเด็น geopolitics ดังกล่าวข้างต้น หลังจากบลูมเบิร์กรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีเตรียมวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโรเพื่อช่วยเหลือธนาคารที่มีปัญหา โดยเฉพาะเจ้าที่มีปัญหาเรื้อรังมานานเช่น Monte dei Paschi di Siena เป็นต้น ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองดัชนีฯ แกว่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2559 แนะนำหาจังหวะซื้อเก็งกำไรต่อ

 

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร MONO, VGI*, COM7*
  MONO (เป้า Consensus 3.34 บาท) 1) คาดได้อานิสงส์จากการที่ คสช ใช้ ม.44 ยืดจ่ายค่าไลเซนส์ทีวีดิจิทัลออกไปอีก 3 ปี จากเดิม 6 ปี คิดดอกเบี้ย 1.5% (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมใน นสพ กรุงเทพธุรกิจ วันนี้) 2) ประเมินแนวรับ 2.80 บาท แนวต้านแรก 3.02 บาท และถัดไปที่ 3.10 บาท (Stop loss 2.76 บาท) ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มฯที่ได้อานิสงส์จากประเด็นนี้ด้วย อาทิ WORK* และ RS*
  VGI* (เป้า Consensus 4.98 บาท ... สูงสุด 5.5 บาท) 1) วานนี้ผ่านแนวต้านเทรนไลน์ขาลงที่ 5.30 บาทขึ้นมาได้ ประเมินหากวันนี้ยืนเหนือ 5.40 บาทได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±5.70 บาท (Stop loss 5.15 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศฟื้นตัว โดยเฉพาะช่วงปลายปี จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ และการกระตุ้นการท่องเที่ยว 3) คาดแนวโน้มเติบโตในระยะยาวจากพื้นที่โฆษณาที่จะเพิ่มขึ้น (บ.ร่วมทุน ที่ BTS* ถือหุ้นใหญ่ได้สัมปทานรถไฟฟ้าสีชมพู+เหลือง)
  COM7* (เป้า Consensus 14.1 บาท ... สูงสุด 17.5 บาท) 1) วานนี้ราคาปรับลงแรง –4% หลังหลุดแนวรับ ±14 บาท เราประเมินเป็นแรงขายทำกำไรของนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรตามที่เราแนะนำก่อนหน้า ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน ดังนั้นนักลงทุนอาจพิจารณาเป็นโอกาสเข้า “ซื้อสะสม” / “เก็งกำไร” เมื่อสามารถสร้างฐานได้ที่แนวรับ ±13.1 บาท 2) ประเมินกำไร 4Q59 มีโอกาสทำนิวไฮ (คาดจะมากกว่าประมาณการฯ Consensus) จาก i) High season ii) iPhone7 iii) การเป็นพันธมิตร TRUE* (ขายซิม True รับค่าคอมฯ และเข้าบริหาร True shop แล้ว 30 สาขา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) iv) ได้แรงหนุนจากมาตรการช้อบช่วยชาติ

 

หุ้นในกระแส
หุ้นเข้า SET50 / SET100 สำหรับ 1H60
  SET50: THAI*, GLOBAL*, KKP*, PTG*, SPRC*
  SET100: KAMART, SCN, TKN, VIBHA, THANI, SCN, SPRC และ SUPER
  หุ้นกลุ่มอาหารเน้นเนื้อไก่ (TFG*, GFPT*) ประเด็นเรื่องไข้หวัดนกที่ประเทศญี่ปุ่น คาดอาจส่งผลให้ประเทศญี่ปุ่นนำเข้าไก่ไทยมากขึ้น (อดีต ไทยส่งออกไก่ไปญี่ปุ่นราว 40-50%) เป็นบวกต่อทั้งการส่งออกและราคาในประเทศ (อุปทานถูกระบายออกไปผ่านการส่งออก) รวมทั้งประเด็นบวกเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
  1) TFG*: ประเมินแนวรับ 7 บาท แนวต้านแรก 7.45 บาท หากผ่านได้ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 8 บาท (Stop loss 6.8 บาท)
  2) GFPT*: ประเมินแนวรับ ±14.5 บาท แนวต้าน 15 บาท และ 15.9 บาท (Stop loss 14 บาท)

หุ้นกลุ่มยานยนต์ (SAT, NYT) และลีสซิ่งจักรยานยนต์ (GL*, TK)
 1) กลุ่มยานยนต์: เราประเมิน ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น จะเป็นบวกต่อภาคการส่งออกรถยนต์ (สัดส่วนการส่งออกรถยนต์ไปตะวันออกกลางลดลงจาก 25% ในปี 2555 – 56 เหลือเพียง 14% ใน 9M59) และรวมถึงราคาสินค้าเกษตร (ยางพารา อ้อย ปาล์ม) ที่ฟื้นตัวตามราคาน้ำมัน เป็นบวกต่อกำลังซื้อรถในประเทศ แนะนำ “เก็งกำไร” i) SAT (แนวรับ 14.2 บาท / แนวต้าน 14.8 บาท ถึง 15.7 บาท / Stop loss 14 บาท) และ ii) NYT (แนวรับ 14 บาท / แนวต้าน 15 บาท / Stop loss 13.6 บาท)
  2) กลุ่มลีสซิ่งจักรยานยนต์: ประเมินกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัดจะเริ่มฟื้นตัวตามแนวโน้มราคาสินค้าเกษตร + แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของไทยทรงตัวในระดับต่ำ (คาดปี 2560 ไม่ขึ้นตาม Fed) แนะนำ “เก็งกำไร” i) GL* นักลงทุนที่ขายตัดขาดทุนหลังหลุดจุด Stop loss ที่ 63.25 บาท ตามที่เราแนะนำ อาจพิจารณารอการสร้างฐานใหม่อีกครั้งจึงเข้าซื้อสะสม โดยประเมินแนวรับถัดไป 55 บาท และ   ii) TK (แนวรับ 10.6 บาท / แนวต้าน 11.7 บาท / Stop loss 10.4 บาท)
  หุ้นกลุ่มค้าปลีก (COM7*, ROBINS*, TVD) มาตรการ “ช้อบช่วยชาติ” เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกอาทิ COM7*, ROBINS*, TVD
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (THAI*, MINT*, SPA) มาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เน้น จีน) และลดหย่อนภาษีสำหรับไทยเที่ยวไทย เป็น Sentiment บวกต่อหุ้น THAI*, MINT*, SPA

หุ้นมีข่าว
  (+ WORK*, RS*, MONO) งัด ม.44 ยืดจ่ายค่า'ไลเซนส์'คสช.หวังช่วย'ทีวีดิจิทัล'เดินหน้า-ผู้ประกอบการย้ำรัฐไม่เสียประโยชน์ (กรุงเทพธุรกิจ) กสทช.หนุนค่าเช่าโครงข่าย 3 ปี วงเงิน 2.5 พันล้าน "ประยุทธ์ งัดมาตรา 44 ยืดเวลาจ่ายค่าไลเซนส์ทีวีดิจิทัลออกไปอีก 3 ปี จากเดิม 6 ปี คิดดอกเบี้ย 1.5% ช่วยธุรกิจเดินหน้าและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมหนุนค่าเช่าโครงข่าย 3 ปี 2.5 พันล้าน ขณะที่ผู้ประกอบการเชื่อช่วยต่อลมหายใจ ย้ำรัฐไม่เสียประโยชน์
  (+) BBL* รับข่าวดีสองเด้งศาลสั่งกสทช.ห้ามทวงหนี้ (ข่าวหุ้น) แบงก์กรุงเทพฯ รับผลดี 2 เด้ง เด้งแรกศาลปกครองสั่งกสทช.ระงับบังคับเอาเงินค้ำประกัน บริษัท ไทยทีวี งวด 4-6 กว่า 1 พันล้าน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด เด้งสองบิ๊กตู่ออกม. 44 ขยายเวลาชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล โบรกฯ มอง BBL รับเละ เนื่องจากเป็นเจ้าหนี้ทีวีดิจิตอลรายใหญ่กว่า 2.5 หมื่นล้าน
  (+) MAJOR* ตั้งโต๊ะซื้อหุ้น “SF” วางเป้าเข้าถือสัดส่วน 49% (ข่าวหุ้น) MAJOR ทุ่มงบ 2,655 ล้านบาท ทำคำเสนอซื้อหุ้น SF จำนวน 428 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.11% ระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.59-26 ม.ค.60 หวังดันสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 49% มองเห็นโอกาสขยายโรงหนัง ยันไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  TNR (เป้า Consensus 20.26 บาท ... คาดมีโอกาสปรับขึ้น) หากวันนี้ยืนเหนือ 28.5 บาทได้ ประเมินมีโอกาสขยับกรอบแนวรับ-แนวต้าน ขึ้นเป็น 28.5 – 32 บาท แต่หากต่ำกว่าประเมินย่อลงทดสอบแนวรับ 28 บาท ... ประเมินได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน + 4Q เป็น High season + คาดกำไรปีหน้าโตเด่นจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น (โรงงานที่หยุดผลิตในปีนี้กลับมาผลิต ด้วยกำลังการผลิต +30% … รายได้โต + ไม่ต้องแบกค่าเสื่อมราคาโรงงงานที่หยุดการผลิตไปแบบในปีนี้)
  THAI* (เป้าสูงสุดใน Consensus 34 บาท) หากวันนี้ไม่สามารถรีบาวด์ขึ้นกลับยืนเหนือ 22.7 บาทได้ อาจพิจาณา Stop loss ก่อน รอการสร้างฐานราคาใหม่อีกครั้งจึงเข้า ซื้อสะสม / เก็งกำไร ... ล่าสุดรายงาน Cabin factor เดือน พ.ย. = 72.8 (ปรับขึ้น 1.1% YoY) และอัตราการขนส่งพัสดุเดือน พ.ย. = 67.2 (ปรับขึ้น 1.7% YoY) เป็นการปรับขึ้น YoY ต่อเนื่องจากเดือน ต.ค.
  ASEFA (เป้า Consensus 8.9 บาท) ประเมินแนวรับ 7.5 บาท แนวต้าน 7.8 บาท (Stop loss 7.2 บาท) ... คาดกำไร 4Q59 ลุ้นทำนิวไฮ จากเป็น High season และไม่มีเรื่องราคาเหล็กลดลงมาถ่วงผลการดำเนินงาน (ปีที่แล้วบันทึกด้อยค่าราคาเหล็กจากการรื้อถอนโรงไฟฟ้า)
  KSL (เป้าพื้นฐาน 5.4 บาท) สำหรับนักลงทุนที่ขายล๊อกกำไรเมื่อราคาต่ำกว่า 5.2 บาท วานนี้ไปแล้ว อาจพิจารณาจังหวะการเข้าซื้อเก็งกำไรที่แนวรับ ±4.9 บาท
  TRC* (เป้าสูงสุด Consensus 1.8 บาท) หากวันนี้ไม่สามารถรีบาวด์กลับไปยืนเหนือ 1.43 บาทได้ อาจพิจารณา Stop loss ก่อน รอการสร้างฐานราคาใหม่อีกครั้งจึงเข้า ซื้อสะสม / เก็งกำไร ... คาดอยู่ระหว่างรอการเปิดประมูลท่อส่งก๊าซของ PTT* (ท่อก๊าซเส้นที่ 4 มูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท) + การปลดล๊อกการลงทุนเหมืองแร่โปแตซ (APOT) ภายใน 1Q60 ปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ (มูลค่าลงทุนงานโครงสร้างเหมืองฯราว ±3.5 หมื่นล้านบาท)
  KTC* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 145 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 156.5 บาท แนวรับ 132 บาท (Stop loss 128 บาท) ... ประเมินได้อานิสงส์จากมาตรการช้อบช่วยชาติและไทยเที่ยวไทยลดหย่อนภาษี + เราประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศไทยปี 2560 จะยังคงต่ำ
  SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) ประเมินแนวรับ 11.1 บาท แนวต้าน 12.2 บาท
  PYLON (เป้าพื้นฐาน 13.5 บาท) ประเมินแนวรับ 11.9 บาท แนวต้าน 13.0 บาท
  ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) หากวันนี้ไม่สามารถรีบาวด์กลับไปยืนเหนือ 10.8 บาทได้ ประเมินมีโอกาสย่อลงทดสอบแนวรับ 10 บาท แนะนำ “ถือ / รอซื้อแนวรับ”

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  กลุ่มพลังงาน น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2560 และ 2561 ขึ้นเป็น 54 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และ 59 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ตามลำดับ (ปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มฯเป็นเพียง “เท่ากับตลาดฯ” เพราะประเมิน Upside ของราคาน้ำมันจะเริ่มจำกัด ซึ่งเป็นผลจากกำลังการผลิตจากฝั่งสหรัฐฯที่อาจเพิ่มขึ้นได้ เลือก PTTGC* และ BANPU* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม

Market strategy Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1510 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1510 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1510-1502 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือรับ 1510 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1510-1526 จุด
  แนวรับวันนี้: 1510/1503 แนวต้านวันนี้: 1516/1525

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!