- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 December 2016 17:36
- Hits: 11048
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Mid-Small Cap. Day(STPI, NYT, PSTC) หลัง FED ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยระยะยาวเล็กน้อย กดดัน Big Cap. พักฐานต่อ
Nomura : Key Factors
(-) EM-DM Rebalance : จิตวิทยาลบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนอีกรอบ หลัง FED Hawkist
(-) FOMC : FED ปรับคาดการณ์ดอกเบี้ยปี 2017 เร่งตัวขึ้นเป็น 3รอบ จากเดิม 2รอบ
(-) Oil Price : ราคาน้ำมันดิบ BRENT Future ปรับฐานแรง -3.59% ถ่วงหุ้นพลังงาน
(+) Orange Line Auction : รถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญา5 4,915ลบ. คาดประกาศผลวันนี้
(+) TH PPP : ดร. สมคิดมีกำหนดประชุมโครงการร่วมทุนรัฐ-เอกชน(PPP) 13.30น.
(+) TH Stimulus : ครม.อนุมัติมาตรการช้อปช่วยชาติช่วง 14-31 ธ.ค.วงเงิน 15,000
(+) Internal Factor: คาดเม็ดเงิน LTF ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ช่วยพยุงตลาด
(+) Internal Factor: Nomura ปรับเพิ่มน้ำหนักไทยสู่ Neutral จาก Underweight
(*) Fund Flow: ต่างชาติขาย 144.1 ลบ, Short Future 7008 สัญญา, ซื้อ Bond 495.7 ลบ
SET PER 16F: CNS 16.3x (EPS 93.25) vs Cons.15.7x (LT-Avg 15.1x)
2017 SET Target: CNS Base-Bull case 1638-1716pts(PER17F 15.75-16.5x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 93.25, PER16.25x)
Nomura Daily Top Picks: STPI, PSTC, NYT
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideway Down ในกรอบแนวรับ 1505/1500จุด และแนวต้าน 1525/1530จุด จิตวิทยาลบต่อการปรับพอร์ตลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่คาดว่าจะต่อเนื่องถึง ต้น ม.ค. 2017 หลังผลประชุมของ FED วานนี้ มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.5-0.75% ตามตลาดคาด แต่มี Negative Surprise เล็กๆ ต่อ Forward Guidance ระยะยาว หลัง FED ปรับคาดการณ์ดอกเบี้ยปี 2017 เร่งขึ้นจากเดิมคาดขึ้น 2 ครั้ง สู่ 3ครั้ง ที่ระดับ 1.38% ขณะที่ปี 2018-2019 คงคาดการณ์ขึ้น 3 ครั้งเช่นเดิม แต่กรอบเพิ่มขึ้นสู่ 2.13%-2.88% ผลจากการปรับเร่งขึ้นในปี 2017 ทำให้ EM-ASIA มีโอกาสเห็นภาพ Outflow จากการ Rebalance ของ EM-DM อีกระรอก คาดว่าจะกินเวลาถึงต้น มค 2017 ก่อนการเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump ในวันที่ 21 มค 2017 นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดล่วงหน้าก็ปรับฐานแรง -3.59% จากแรงกดของ Dollar Index ที่แข็งค่าเร่งขึ้นสู่ 102.59จุด เป็นปัจจัยกดดันหุ้นปิโตรเลียมขั้นต้นถ่วงตลาด
แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันระยะยาวยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและน่าจะยืนเหนือ 50เหรียญฯต่อบาร์เรลได้ ล่าสุด 8.10น. อยู่ที่ระดับ 53.82เหรียญฯ จากแรงหนุนของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯรายสัปดาห์ที่รายงานวานนี้ ลดลง 2.56ล้านบาร์เรล สะท้อนความต้องการยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บวกคาดการณ์ของ IEA ที่ประเมินภาพรวม Supply-Demand น้ำมัน จะพลิกจาก Surplus มาเป็น Deficit ในช่วง 1H17 จะทำให้หุ้นพลังงานระยะกลาง-ยาวยังมีแรงพยุง บวกปัจจัยในประเทศ วันนี้ ให้จับตาจิตวิทยาบวกของ การประชุมโครงการร่วมทุนรัฐ-เอกชน(PPP) เวลา 13.30น. ที่มีดร. สมคิดเป็นประธาน คาดจะมีรายละเอียดออกมาหลังประชุม และ รถไฟฟ้าสายสีส้มสัญญา5 4,915ลบ. ที่คาดจะประกาศผลวันนี้บวกต่อกลุ่ม CKST(CK+STEC) ที่เป็นตัวเต็ง ประกอบกับจังหวะตลาดย่อคาดเม็ดเงิน LTF โค้งสุดท้าย จะเข้าสู่ระบบมากขึ้น ทำให้ตลาดย่อไปอย่างจำกัด และปลายปี 2016 น่าจะปิดที่ระดับ 1515จุด ตามเป้าหมายได้
Asset allocation : หุ้น 50% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 32.5%
Short-Term Strategy : การลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นลงจาก 70% สู่ 50% ต่อเนื่องใน 3 วันก่อนหน้า เพื่อกระชับพอร์ต น่าจะทำให้นักลงทุนมีโอกาสที่ดีในการกำหนดกลยุทธ์ภายใต้ตลาดที่กำลังพักฐานในช่วงนี้ คาดหุ้น Big Cap. จะนำตลาดพักฐาน ส่วนกลุ่ม Mid-Small Cap. รายตัวยังเด่น จึงแนะนำนักเก็งกำไรใช้เงินสดเพียง 20% เพื่อ Trading เก็งกำไรในวัน ส่วนพอร์ตลงทุน 50% เน้นถือหุ้นเด่นในปี 2017 เน้นกลุ่ม Cyclical (IRPC, IVL, PTTGC, PTL*, STPI, BRR) ผสานหุ้น Domestic ที่ High Growth หรือ Recovery (CK, PYLON, UNIQ*, PSTC, NYT, SALEE, ROBINS) ส่วน Theme เด่นเล่นสั้นแนะ หุ้นที่คาดจะเข้า SET50/100 พื้นฐานดี ที่จะประกาศปลายสัปดาห์นี้ (THAI, KKP, VIBHA) ผสาน Portfolio Top picks DEC 2016: BRR, PSTC, STPI, ADVANC, ROBINS, NYT สำหรับวันนี้แนะนำ *Daily Top Picks: STPI, PSTC, NYT*
Mid-Long Term Strategy : คาดตลาดเดือน ธ.ค. 2016 Sideway-Sideway Up ต้าน 1520/1537จุด รับ 1480/1460จุด จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ผสานเม็ดเงิน LTF หนุนแต่อย่างไรก็ตาม แรงขายลดเสี่ยงก่อนประชามติ อิตาลี 4 ธ.ค. และประชุม FED กลางเดือน ธ.ค. อาจกดดันสั้น อีกทั้งปริมาณการซื้อขายในช่วงปลายเดือน ธ.ค. ที่มักจะเบาบางลงอาจกดดันเพิ่มเติม ดังนั้นสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะทยอยลดน้ำหนักหุ้นลง 20% สู่ 50% จากที่เคยแนะนำเพิ่มน้ำหนักมาช่วงดัชนีต่ำกว่า 1380 จุด เพื่อกระชับพอร์ต โดย Theme เด่นที่น่าสนใจแนะ 1) หุ้นอิงอานิสงส์มาตรการรัฐ (ROBINS, HMPRO, BDMS, ERW, MINT) 2) Commodity Play (PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, BRR, STPI) 3) กลุ่มที่คาดเข้า SET50/100 รอบใหม่พื้นฐานเด่น (GLOBAL, KKP, THAI, VIBHA) และ 4) หุ้น Earning 2017 (BRR, PSTC, NYT, SALEE, ADVANC) สำหรับ Portfolio Top picks DEC 2016 แนะนำ BRR, PSTC, STPI, ADVANC, ROBINS, NYT ส่วน DARK Horse CPALL, HMPRO, PTTEP
Investment Theme:
. 2017 Global Reflation : Theme CG-R2
Cyclical : IRPC, IVL, PTTGC, STPI
Government Spending : CK, SCC
Related Consumer Recovery : ROBINS, CPALL
Renewable : EGCO, BRR
. Mid-Small Best Pick 2017 : STPI, BRR, PSTC, NYT, PYLONInvestment Theme:
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
ROBINS (TP72*): Support 65/64 Resistance 68/69
Theme : Stimulas package
Earning Outlook : คาดกำไร 4Q16F เพิ่มขึ้น ทั้ง y-y, q-q จากช่วงฤดูกาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโตต่อเนื่อง 17% ในปีหน้า แรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ การเติบโตของ GDP ไทยและกำลังซื้อ ของกลุ่มคนระดับกลางขึ้น ไปที่จะดีขึ้น หลังเริ่มใช้โครงสร้างภาษีเงินได้ใหม่
Valuation : ราคาหุ้นยังซื้อ ขาย ณ ระดับ PER 24x ปี 17F ต่ำกว่ากลุ่มฯซึ่งอยู่ที่ 27x และได้ประโยชน์สูงสุดเป็นลำดับต้นๆจากมาตรการลดภาษี
Catalyst: ครม.อนุมัติมาตรการชอปช่วยชาติลดหย่อน
STPI (TP15*): Support 11/10.8 Resistance 11.6/12.5
Theme : Bottom play
Earning outlook : คาดกำไรสุทธิ 4Q16F ยังลดลง q-q , y-y ตาม Backlog ที่มีค่อนข้างน้อย ขณะที่ระยะยาวจะเริ่มเห็นความเสี่ยงของธุรกิจที่ลดลง จากการกระจายการลงทุนไปในธุรกิจพลังงานทางเลือก
Valuation : ราคาหุ้น price in ผลประกอบการที่อ่อนแอไปแล้ว ทัง5 PER 2017Fอยู่ที่ 12.1 เท่า (Mean 13.2) และP/BV 2017F 1.6x (Mean 3.6x) ขณะที่มีเงินสด สูงถึง 4.2 บาท/หุ้น + อยู่ในจุด underown มี upside 32%
Catalyst : ราคาก๊าซธรรมชาติยังยืนอยู่ในระดับสูง โดยวานนี้เพิ่มขึ้น 2.7% และวันนี้ยังคงบวกต่อเนื่อง 0.3% ภาพรวมราคาเพิ่มขึ้น 53.2% YTD
PSTC (TP1.02*): Support 0.72/0.70 Resistance 0.76/0.80
Theme : Earnings momentum
Earning outlook : คาด 4Q16F พลิกจากขาดทุนสุทธิป็นกำไรสุทธิ q-q เนื่องจากโรงไฟฟ้าใหม่เริ่ม COD ในธ.ค.นี 5ขณะที่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่บันทึกไปมากแล้วใน 3Q16 และรับผลเต็มปี หนุนกำไรสุทธิในปี 2017F เพิ่มขึ้น 3,773.7 % y-y
Valuation : ราคาเป้าหมายปี 2017F ที่ 1.02 บาท Upside สูง 37.8% และ PER จะลดลงเหลือ 14.83x ในปี 2017
Catalyst : โรงไฟฟ้ าอีก 24 MW กำลังจะเริ่ม COD เดือนธ.ค.นี้
NYT(TP20.7*): Support 13.8/13.6 Resistance 14.8/15
Theme : Sustainable Growth
Earning Outlook : คาดแนวโน้มกำไร 4Q16F ฟื้นตัว q-q จากยอดส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นราว 3% q-q และคาดกำไร 2017F เพิ มต่อเนื อง 20.7% y-y ตามแนวโน้มยอดรถยนต์ส่งออกปรับตัวขึน5 แตะ 1.38 ล้านคัน (+8% y-y)
Valuation : เป็นหุ้น Defensive ที่มีรายได้และกระแสเงินสดมั่นคง + ราคาหุ้นซือ5 ขาย PER ปี 2017F ที่ 17 เท่าต่ำกว่ากลุ่มขนส่งฯ และมี Downside จำกัด จาก Div yield สูง 5.1%
Catalyst: คาดยอดส่งออกรถยนต์เดือนพ.ย.16 จะทรงตัวต่อเนื่องเหนือระดับ 100,000 คันเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อผลประกอบการใน 4Q16F เติบโต q-q
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)
