- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 December 2016 19:18
- Hits: 2769
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
เล่นรอบหุ้นเชื่อมโยงหุ้นวัฏจักร
วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways up 1,522-1,540 จุด แนะนำซื้อหุ้นเชื่อมโยงหุ้นวัฎจักร (Cyclical stock) คาดจะปรับตัวขึ้นตาม...หลังหุ้น Cyclical stock หลายตัว ปรับขึ้นแรงตามราคาสินค้าวัฎจักร เช่น ยาง ถั่วเหลือง น้ำมัน ถ่านหิน ฯลฯ
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด (+) ครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติ คาดสร้างเม็ดเงินกระตุ้นการบริโภค 2 หมื่นล้านบาท, (0) ประชุมเฟดวันนี้ คาด Neutral
สัปดาห์นี้ คาด Sideways up ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,520 จุด คาดหุ้นพลังงาน และ ธนาคาร จะผลักดันให้ดัชนีฯมีโอกาส ปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,545 จุด จาก (1) คาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ปรับเพิ่มดอกเบี้ย 0.25% สะท้อนแนวโน้มดอกเบี้ยที่ผ่านจุดต่ำสุด เป็นบวกต่อ หุ้นที่เชื่อมโยงโดยตรง ได้แก่ ธนาคาร (2) ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับสูง หนุนราคาหุ้นพลังงานที่เชื่อมโยง หลังจากการประชุม OPEC และ Non OPEC บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 5.58 แสนบาร์เรล ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย ประกาศพร้อมจะปรับลดกำลังการผลิตลงต่ำกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน…และคาดหุ้นกลาง-เล็ก ที่ได้ประโยชน์จากงานภาครัฐฯ CAPEX cycle theme มีแนวโน้มจะขึ้นได้ดีกว่าดัชนี
ระยะเดือน ธค. คาด แรงขายต่างชาติเริ่มชะลอลงในเดือน ธค. และมีโอกาสที่เดือน มค. ปีหน้า จะเกิด January effect เหมือนกับปี 2012-13 และ 15 ที่ดัชนีหุ้นขึ้นในช่วงเดือน มค. อิงสมมุติฐานต่างชาติถือหุ้นไทยเหลือเพียง 29% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และ หากคำนวณเม็ดเงินต่างชาติที่สามารถซื้อหุ้นไทย กลับไปสัดส่วนเฉลี่ย ที่ 32% คาดเม็ดเงินไหลมีโอกาสไหลเข้าได้ถึง 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งตามสถิติ เงินต่างชาติจะไหลเข้าช่วง มีค.เพื่อรับปันผลจากผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมา (แนะซื้อดัก)
หุ้นแนะนำวันนี้ SAT แนวรับ 13.7 บ. ต้าน 14.6/15 บ. Stop loss 13.5 บ. จากทิศทางราคาสินค้าเกษตรที่เริ่มดีขึ้น เช่น ยาง น้ำตาล ถั่วเหลือง และราคาน้ำมันดิบที่ฟื้น คาดยอดผลิตชิ้นส่วนฯ รถกระบะส่งออกตะวันออกกลาง และขายในประเทศ จะเริ่มฟื้นตัวตาม (ราคาเหมาะสมพื้นฐาน 16.9 บ.), ARROW แนะนำทางเทคนิค แนวรับ 15 บ. ต้านสั้น 15.9 บ. Stop loss 15 บ. (PE 11.7 เท่า Theme งาน CAPEX Cycle ภาครัฐฯ-ท่อร้อยสายไฟการท่าฯ, ย้ายสายไฟลงดิน ฯลฯ)
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(0) SCC เราจัดงาน dinner talk โดยได้รับเกียรติจาก คุณรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส (CEO) และคุณเชาวลิต เอกบุตร (CFO) มีประเด็นหลักได้แก่ 1) ธุรกิจเคมีฯ ปัจจุบันคาดอยู่ในระดับสูงวุด คาดปีหน้าส่วนต่างกำไรอาจอ่อนตัวลงเล็กน้อย เพราะราคาน้ำมันขึ้น 2) ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างคาดยังคงอ่อนแอตลอดช่วง 1H17 แต่คาดกี่เติบโตจะกลับมาในช่วง 2H17 หลังจากที่ demand จากโครงการรัฐฯและเอกชนเพิ่มมากขึ้น 3) การเติบโตในระยะยาวยังคงต้องติดตาม ผู้บริหารกล่าวว่า CAPEX ปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท ไม่น่าจะถึง อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงเป้าหมาย CAPEX ปี 2016-17 ไว้ที่ 8 หมื่น ถึง 1 แสน ล้านบาท เรามองว่าในช่วง 2 ปีนี้ SCC ไม่น่าจะเติบโตได้ดีนัก แต่เงินปันผลยังคงสูงที่ราว 4% คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 620 บาท
(0) กลุ่มพัฒนาอสังหาฯ จากผลสำรวจการเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือน พ.ย. ชะลอตัวตามคาด โดยลดลง 46% MoM และในแง่ของมูลค่าลดลงเช่นเดียวกัน 45% MoM เนื่องจากช่วงไว้อาลัยทำให้มีการเลื่อนการเปิดตัวโครงการ โดยเฉพาะกลุ่มทาวเฮาส์และคอนโด อย่างไรก็ตามอัตราการจองซื้อในเดือน พ.ย. ทรงตัวได้ MoM ซึ่งถือว่าสร้างความประหลาดใจเชิงบวกให้เรา เราคาดการณ์ตัวเลขเดือน ธ.ค. คงจะเงียบๆ ตามปัจจัยด้านฤดูกาล เราแนะนำให้หาจังหวะเข้ามาลงทุนหุ้นกลุ่มนี้อีกครั้งในช่วงหลังของเดือน ม.ค. ปีหน้า โดยเลือก SPALI, ANAN และ AP เป็นกลุ่มที่ชอบที่สุด
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) ค้าปลีกแนะ ROBINS COM7 ครม.อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติ ซื้อสินค้านำมาลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท เริ่ม 14 ธค. ถึง 31 ธค. คาดสร้างเม็ดเงินกระตุ้นการบริโภคราว 2 หมื่นล้านบาท มากกว่ารอบก่อนที่ 1 หมื่นล้านบาท เพราะให้เวลาช็อปนาน 18 วัน รอบก่อนให้เวลาช็อป 7 วัน (ที่มา ครม.)
(+) ALT วันนี้จะลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน (ที่มา ASPEN) / หุ้นที่เชื่อมโยง ILINK CTW (ขายสาย) ARROW (ท่อร้อยสายไฟ)
(+) BTS ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ทั้ง 2 ด้าน อยู่ระหว่างรอ กทม. เจรจากับ BTS รฟม.คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อยุติ (ที่มา อินโฟเควส)
(+) ดัชนี FTSE ใหม่ มีผล 19 ธค. เป็นต้นไป FTSE SET Large Cap Index: BJC
ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 4 หลักทรัพย์ BAFS BCPG SCCC TFG
ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 15 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ ABC ALT AMATAV ASEFA BAFS BCP BTSGIF CFRESH GOLD PTL SCC SVI TKN UV VNT ที่มา ตลท.
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(0) เมื่อวาน US Import prices พย. -0.3% ตามคาด -0.3% จาก +0.5% m-m.
(-) เมื่อวานอินเดีย CPI พย. 3.6% ต่ำคาดที่ +3.9% จาก +4.2% (ที่มา Bloomberg)
(+) พุธ US FOMC ประชุมเฟดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% US Retail sale พย.คาด +0.3% จาก +0.8%, ฝรั่งเศส CPI พย.คาด +0.5% คงที่ EU area Industrial production คาด +0.2% จาก -0.8% ญี่ปุ่น Business condition in Tankan ธค. คาด 12 จาก 6 (ที่มา Bloomberg)
(+) พฤหัส US Consumer prices พย. คาด +0.2% จาก +0.4% m-m. US Core CPI คาด +0.2% จาก +0.1% m-m. EU Summit ประชุมสุดยอดผู้นำ EU, EU PMI ภาคผลิต ธค. คาด คาด 53.6 จาก 53.7 EU PMI Composite คาด 53.8 จาก 53.9, ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BOE คาดคงดอกเบี้ย 0.25% และ คง QE 4.35 แสนล้านปอนด์, ญี่ปุ่น PMI Mfg ธค., ธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดคงดอกเบี้ย 4.75% ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25%, อินโดนีเซีย ส่งออก พย. คาด +10% จาก 4.6% (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ US Housing starts พย. คาด +1.23 ล้านยูนิต จาก 1.32, EU area เงินเฟ้อ HICP พย.คาด +0.6% คงที่ ส่วน Core CPI คาด +0.8% (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค