- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 December 2016 16:18
- Hits: 1438
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมายังไม่ผ่านด่าน 1,530 จุด เกิดแรงขายทำกำไรเข้ามาเป็นระยะๆ อาจเป็นเพราะติดช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย แต่หุ้นหลักอย่าง PTT / PTTEP ยังช่วยประคอง SET INDEX ภาพรวม ปิด ณ สิ้นวันอยู่ที่ 1,526.32 จุด บวก 0.91 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,866 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 เพียง 374 ล้านบาท ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เล็กน้อย 20 ล้านบาท แต่ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 2,602 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- การประชุมครม.กับช็อปช่วยชาติ #2
- นอกกลุ่มโอเปกตกลงร่วมกับกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิตกว่า 5.58 แสนบาร์เรล/วัน
- ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดล่าสุด US$52.83/barrel เพิ่มขึ้น 2.58% dod
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 3)
เราประเมิน SET INDEX วันนี้จะขยับ sideways-to-sideways-up ทดสอบ 1,530 จุด และอาจปิดยืนเหนือแนวดังกล่าวในวันนี้ได้ ด้วยเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง แม้ว่าพรุ่งนี้การประชุมเฟดมีโอกาสสูงที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม แต่เป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกประเมินไว้ก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ขณะที่ความเสี่ยงทางการเมืองในอียูเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ นับตั้งแต่อิตาลี และฝรั่งเศส สภาพคล่องทางการเงินที่ล้นจากอียูจะไหลออกสู่ตลาดเอเชีย และไทยในความเห็นของเรา เพราะเสถียรภาพในประเทศ เสถียรภาพทางการเมือง และภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่มีเสถียรภาพ รัฐบาลผลักดันแผนการลงทุนขนาดใหญ่ต่อเนื่อง และเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ต่างชาติกลับมามองตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ในมุมมองอของเรา
สำหรับปัจจัยสำคัญวันนี้คือ การประชุมครม.กับการพิจารณา ช็อปช่วยชาติ #2 หลังจากเลื่อนมา 2 สัปดาห์ คาดว่าจะช่วยให้กลุ่มค้าปลีกกลับมามีสีสรรอีกครั้ง
และกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมีขยับเด่น จากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ตอบรับเชิงบวกจากนอกกลุ่มโอเปกเห็นชอบลดกำลังการผลิตอีก 5.58 แสนบาร์เรล/วัน เริ่มต้นปีหน้า เช่นเดียวกับกลุ่มโอเปก
กลยุทธ์การลงทุน "ยืนยันถือพอร์ตการลงทุนเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,550 จุด +/-" พร้อมทยอยเข้าเก็งกำไรหุ้นหลักต่อกระแสเงินทุนจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร HMPRO : ราคาปิด 10.20 บาท ราคาเหมาะสม 11.70 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มค้าปลีกจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากคาดว่าวันนี้ ครม.จะมีการพิจารณาอนุมัติโครงการ ช็อปช่วยชาติ#2 ให้สามารถนำรายจ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค. จำนวนไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q59 จะขยายตัว qoq ทำระดับสูงสุดของปี 2559 เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจ และมีการจัดงาน HomePro Expo เพื่อกระตุ้นยอดขาย
c) ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่ม โดย 1 เดือนที่ผ่านมา หุ้น HMPRO ปรับตัวขึ้นเพียง 1% เทียบกับหุ้นในกลุ่ม ได้แก่ BIG +15%, COM7 +9%, GLOBAL +12% และ ROBINS +11%
2. เก็งกำไร IRPC: ราคาปิด 4.84 บาท ราคาเหมาะสม 5.70 บาท
a) หุ้นกลุ่มพลังงานมี Momentum บวก หลังการประชุมของกลุ่ม Non-OPEC ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันลง สอดคล้องกับการประชุม OPEC ในช่วงสิ้นเดือน พ.ย. ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นถึง +4% ใน 2 วันทำการ ปิดที่ US$52.83/barrel
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q59 จะเติบโตเด่น qoq เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่โครงการ UHV เดินเครื่องเต็ม 100% และมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจาก Stock น้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบดูไบ 4Q59 ปรับตัวขึ้น +14% QTD เป็น US53.51/barrel
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2560 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +10% yoy เป็น 11,412 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้โครงการ UHV เต็มปี นอกจากนั้น ยังมีจุดเด่นที่จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง จึงให้ผลตอบแทนจากจากเงินปันผลปี 2559 สูงถึง 4.8%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$61 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$474 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงวันหยุดยาว
นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 เพียง 374 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 2,958 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 80,802 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 2,602 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 11,154 สัญญา คาดเป็นการทยอยปิดสถานะ Long บางส่วน และทำให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้คงสถานะ Long สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 28,986 สัญญา ขณะที่ S50Z16 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 เท่ากับ 2.13 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium 1.32 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 3 เพียง 20 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 1,015 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 3,581 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีลดลง 3.47bps จากวันก่อนหน้าลดลง 1.25bps ปิดที่ 2.716%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 519 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 564 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 41 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 48 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิวันที่ 4 เน้นกลุ่มพลังงานและธนาคารอย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,961 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,422 ล้านบาท เร่งขึ้น รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 5,959 ล้านบาท โดยเน้นเพิ่มน้ำหนักกลุ่มพลังงานมากถึง 663 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร 528 ล้านบาท และกลุ่ม ICT 340 ล้านบาท แต่ขายสุทธิกลุ่มขนส่งสูงสุด 380 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
วุฒิสภาผ่านกฎหมายงบประมาณถึงเดือนเม.ย.: วุฒิสภาผ่านงบประมาณจนถึงเดือนเม.ย. 2560 และส่งให้ประธานาธิบดีโอบามาลงนาม เพื่อออกเป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียง 63-36
ยุโรป
ธนาคารในอังกฤษต้องการให้ธุรกิจยังใช้กฎหมายอียูต่อไปอีก 5 ปี: ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในอังกฤษต่างเสนอให้รัฐบาลอังกฤษยังคงอนุญาตให้สถาบันการเงินอังกฤษยังอยู่ภายใต้กฎหมายของอียูต่อไปอีก 5 ปี หลัง Brexit อย่างไรก็ตาม รมว.คลังอังกฤษ ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นดังกล่าว เพราะรัฐบาลอังกฤษอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเหมาะสมในช่วงการเปลี่ยนถ่ายดังกล่าว
ECB ปฎิเสธคำขอของธนาคาร Monte dei Paschi เวลาการเพิ่มทุน: ECB ปฎิเสธคำขอของธนาคาร Monte die Paschi di Siena ขอเวลาในการเพิ่มทุนอีก 3 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 20 ม.ค. 2560 เพื่อสรุปแผนการเพิ่มทุน 5.0 พันล้านยูโร หลังเกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งนี้รัฐบาลอิตาลีเตรียมเข้ามาดูแลแผนการเพิ่มทุนดังกล่าว
อิตาลีได้นายกฯ ท่านใหม่แล้ว: ประธานาธิบดี Mattarella เสนอให้ รมว.ต่างประเทศ นาย Gentiloni ได้รับการแต่งตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังนาย Renzi ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้นาย Gentiloni จะรีบจัดตั้งรัฐบาลและเสนอต่อประธานาธิบดีให้เร็วที่สุด ด้วยวัตถุประสงค์เรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน ยืนยันแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม เป็นลำดับแรก รวมถึงการเร่งฟื้นฟูก่อสร้างพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
สภากรีซผ่านร่างงบประมาณ 2560: สภาฯ ผ่านร่างงบประมาณ 2560 ด้วยประมาณการเศรษฐกิจเติบโต 2.7% ในปี 2560 ด้วยคะแนนเสียง 152: 300 เสียง ซึ่งจะมีผลต่อประมาณการกระแสเงินสดและการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว ประเมินว่างบประมาณจะเกินดุล 2.0% ของ GDP โดยไม่คำนวณต้นทุนเงินกู้ของรัฐบาล
การประชุมของนอกกลุ่มโอเปกตกลงร่วมลดกำลังการผลิต: เลขากลุ่มโอเปก นาย Barkindo รายงานว่า กลุ่มนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงร่วมกับกลุ่มโอเปกในการลดกำลังการผลิต ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 โดยนอกกลุ่มโอเปกจะลดกำลังการผลิต 558,000 บาร์เรล/วัน เริ่มต้นเดือนม.ค. 2560 เช่นเดียวกับกลุ่มโอเปก ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่รวมถึงสหรัฐฯ, จีน, แคนาดา และบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบหลักนอกกลุ่มโอเปก
จีน
อัตราเงินเฟ้อในจีนเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง
- ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 3.3% yoy สูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2554 หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น นำโดยราคาถ่านหินและเหล็ก เทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% yoy
- อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.3% yoy เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2559 และเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.1% yoy
คาดการณ์เศรษฐกิจจีนเติบโต 6.5%: The State Information Center ประเมินเศรษฐกิจปี 2560 เติบโต 6.5% แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเติบโตมากกว่าที่คาด ขณะที่มีความเสี่ยงที่ตลาดบ้าน, สังคม และความเสี่ยงทางการเงินในภูมิภาค
เอเชียแปซิฟิก
สภาฯ เกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายถอดถอนประธานาธิบดี: สภาฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายถอดถอนประธานาธิบดีเกาหลีใต้แล้วในวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสินว่าจะให้ประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง หรือ ปฎิเสธร่างกฎหมายดังกล่าว และให้ประธานาธิบดีกลับเข้ารับตำแหน่งเช่นเดิน ทั้งนี้นายกฯ จะเป็นผู้รักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีไปจนกว่าศาลฯ จะตัดสิน
ผลผลิตภาคอุตฯ อินเดียกลับมาหดตัว: เดือนต.ค. ลดลง 1.9% yoy กดดันโดยภาคการผลิตและเหมืองแร่ สวนทางกับที่ Reuters Poll คาด +1.0% yoy และเดือนก.ย.ที่ +0.7% yoy
อินเดียเริ่มเสนอส่วนลดสำหรับการซื้อขายออนไลน์: เป็นผลจากการยกเลิกธนบัตร 500 และ 1,000 ทางการเสนอให้มีส่วนลดจากการซื้อขายออนไลน์ 10% สำหรับนโยบายประกันการซื้อขายออนไลน์ รวมถึงการใช้ทางด่วนและการท่องเที่ยวด้วยรถไฟ ทางการจะยกเว้นภาษีขายออนไลน์ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 2,000 รูปี นอกจากนี้ยังเสนอส่วนลด 0.75% ของราคาน้ำมันสำเร็จรูปหน้าปั้ม
ไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ลดลงเป็นเดือนที่ 2: ดัชนีฯ เท่ากับ 72.3 จุด ลดลงจากเดือนต.ค.ที่ 73.1 จุด เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจลดลงจาก 62.0 จุดเดือนต.ค. เป็น 61.2 จุด
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst