- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 December 2016 17:01
- Hits: 1945
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “เก็ง ECB”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงเดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จากการเข้ามาเก็งกำไรในประเด็นที่คาดว่าทาง ECB จะขยายระยะเวลาการใช้มาตรการ QE เพิ่มเติม รวมถึงแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ยังคงได้รับแรงหนุนจากการเตรียมเปิดซองการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มในวันนี้ (9 ธ.ค.) ขณะที่กลุ่มอื่นๆที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นได้แก่กลุ่มเหล็ก (+2%) หลังราคาเหล็กในตลาดโลกยังคงเดินหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปิดตลาดดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.88 จุด (+0.3%) มาอยู่ที่ 1,525.41 จุด ด้วยปริมาณซื้อขายที่ระดับ 51,170 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงหนุนหลังจากที่ประชุม ECB มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ออกไปอีก 9 เดือน สิ้นสุดเดือนธ.ค.2017 จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.2017 โดย DJIA ยังคงเดินหน้าทำ All Time New High ที่ 19,614.81 จุด (+0.33%Day), DAX +1.75%Day, FTSE +0.42%Day, CAC40 +0.87%Day
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 2.2% Day มาอยู่ที่ 50.84 US/Barrel จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร ก่อนที่การประชุมระหว่างกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในวันเสาร์นี้
(+) ราคาถ่านหิน Newcastle ปิดเพิ่มขึ้น 1.2%Day มาปิดที่ 84 จุด และ +66%YTD มองเป็นบวกกับ BANPU, LANNA
(+) ลุ้นศาลอนุมัติแผนแก้หนี้ SSI 15 ธ.ค.นี้ จะทำให้ NPL ลดลง 3 หมื่นลบ. หรือ 10% ของ NPL ทั้งระบบที่มี 3.9 แสนลบ. เป็นบวกกับ SCB, KTB, TISCO ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยให้มี NPL ลดลงและ Coverage ratio สูงขึ้น
(+) ไอพีจี มีเดียฯ คาดปีหน้าเม็ดเงินใช้สื่อโตได้ 4%
(-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 5.1 US (-0.43%Day) อยู่ที่ 1,172.40 US/ออนซ์ จากเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบ กับยูโร
(-) ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน พ.ย.ลดต่อเนื่องเดือนที่ 2 ชี้ประชาชนยังวิตกเศรษฐกิจ-ส่งออกยังฟื้นช้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
ลุ้นประกาศผู้ชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มวันนี้ คาดว่า CK มีโอกาสได้
ประชุม FED รอบธ.ค. (13-14 ธ.ค.) ตลาดคาดรอบนี้จะขึ้นดอกเบี้ย
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
เม็ดเงินไหลเข้าจาก LTF-RMF ประมาณ 2-3 หมื่นลบ. ในเดือนนี้
ตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อจีนและสหรัฐ (9 ธ.ค.) และการประชุมระหว่าง OPEC และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก (10 ธ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “ทยอยลดพอร์ตลง”
แม้เราจะคาดหมายว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ หากแต่ประเมินว่า Upside จะเริ่มจำกัดมากขึ้น หลังจากที่ที่ประชุม ECB มีมติขยายเวลาวงเงิน QE ออกไปอีก 9 เดือน แต่ปรับลดวงเงินลงจาก 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน เหลือ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน ดังนั้นในวันนี้หากตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น เราแนะนำให้นักลงทุนเริ่มทยอยลดพอร์ตลงบางส่วน ขณะที่หุ้นเก็งกำไรเพื่อรอประเด็นมาตรการภาษีของรัฐบาลช่วงปลายปียังคงเป็น กลุ่มค้าปลีก รวมทั้งสามารถเก็งกำไรกลุ่มถ่านหิน จากราคาถ่านหินที่เริ่ม Rebound กลับมาเป็นวันแรกในรอบสัปดาห์
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BANPU เก็งกำไร
วานนี้ราคาถ่านหินในตลาดโลกทั้ง 3 ตลาด ดีดตัวเพิ่มขึ้นพร้อมกัน โดยบวกจากวันก่อนหน้าราว 1%-2.5%
CGS ประเมินแนวโน้มกำไรปี 60 สูง 1.3 หมื่นลบ. (EPS 2.61 บาท) ทำให้ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 7 เท่า
แนะนำซื้อที่ราคาพื้นฐาน 26.25 บาท (เทียบเท่า PE ปี 60 ที่ 10 เท่า)
SCB เก็งกำไร
15 ธ.ค. นี้ ลุ้นประเด็นศาลล้มละลายกลางพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของ SSI ซึ่งถ้าผ่านแผนฯจะ NPL ของ SCB จะลดลง Coverage Ratio จะเพิ่มขึ้นจาก 129% เป็น 145%
4Q59 มีโอกาสที่จะตั้งสำรองลดลง 2 พันลบ. จากกรณี SSI ทำให้Upside ต่อกำไรทั้งปี 59 เพิ่มขึ้น 3.5% มูลค่าพื้นฐานระยะยาวอยู่ที่ 165 บาท (เทียบเท่า PBV ปี 60 1.55 เท่า)
ทีมวิเคราะห์