- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 December 2016 18:25
- Hits: 9804
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Selective buy (ดัชนีฯลุ้นเบรกแนวต้าน 1,530 จุด จากแรงซื้อคืนกลุ่มแบงก์)
วันนี้คาดดัชนีฯแกว่งในกรอบ 1,510-1,530 จุด ข่าวบวก...คาดวันนี้ ECB ขยายระยะเวลาซื้อสินทรัพย์ (QE) 8 หมื่นล้านยูโรออกไปเป็น กย.17 จากสิ้นสุด มีค.17, พรุ่งนี้เปิดชื่อ ผู้ผ่านคุณสมบัติเทคนิค รถไฟฟ้าสายสีส้ม, หุ้นไทยหลายตัวติด FTSE index (เช่น BJC TFG ฯลฯ) มีผล 19 ธค. นี้ ส่วนหุ้นเชื่อมโยงน้ำมัน คาดมีลุ้นขึ้นต่อ จากประเด็นการประชุม OPEC-Non OPEC พรุ่งนี้ปรับลดกำลังการผลิตอีก
ระยะสัปดาห์ คาดกรอบ 1,487-1,530 จุด แนะนำ หุ้นรองในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (KSL PTTGC) และ หุ้นที่มีประเด็นบวกรออยู่เช่น THAI GL PTG (มีโอกาสติด SET50 รอบใหม่) ปัจจัยที่ต้องตาม การประชุม OPEC-Non OPEC วันที่ 9 ธค. คาดลดกำลังผลิตลงอีก 6 แสนบาร์เรล/วัน และ การประชุม ECB คาดขยายเวลาโครงการซื้อสินทรัพย์ฯ ออกไปเป็น กย.17
ระยะเดือน ธค. คาด แรงขายต่างชาติเริ่มชะลอลงในเดือน ธค. และมีโอกาสที่เดือน มค. ปีหน้า จะเกิด January effect เหมือนกับปี 2012-13 และ 15 ที่ดัชนีหุ้นขึ้นในช่วงเดือน มค. อิงสมมุติฐานต่างชาติถือหุ้นไทยเหลือเพียง 29% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และ หากคำนวณเม็ดเงินต่างชาติที่สามารถซื้อหุ้นไทย กลับไปสัดส่วนเฉลี่ย ที่ 32% คาดเม็ดเงินไหลมีโอกาสไหลเข้าได้ถึง 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งตามสถิติ เงินต่างชาติจะเข้าเยอะช่วง มีค.เพื่อรับปันผลจากผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมา
กลยุทธ์แนะ หุ้นเชื่อมโยงราคาน้ำมันดิบ และ หุ้นที่มีประเด็นหนุนรายตัว จะปรับขึ้นตามไฮไลท์ News flow โดยประเด็นลงทุนเด่นๆ ในช่วงนี้ คือ (1) การประชุมกลุ่มโอเปก และนอกโอเปก 9 ธค. (2) การสับเปลี่ยนหุ้นเข้าออก SET50 (3) มาตรการหนุนการบริโภคจากภาครัฐฯ
หุ้นแนะนำวันนี้ SCB แนวรับ 146.5 ต้าน 151 บ. KTB แนวรับ 17.4 บ. ต้าน 17.8/18 บ. แนวโน้ม CAPEX cycle กลับมาหลังการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเริ่มทยอยออกเร็วกว่าตลาดคาด เมื่อวานรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลืองมีแนวโน้มจะเซ็นสัญญาได้เร็วกับ BSR และสัปดาห์หน้าเปิดรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ สายสีส้ม บวกกับประเด็นศาลฯ จะพิจารณาคดี SSI วันที่ 14 ธค.นี้ ลุ้นการบังคับคดีให้ขายสินทรัพย์บางส่วนชำระคืนเจ้าหนี้,
TACC แนวรับ 9.90 บ. ต้าน 10.5 บ. (รมว.คลัง เผยมาตรการอุดหนุนเงิน ให้ผู้มีรายได้น้อย ทันสิ้นปีนี้ ที่มาแนวหน้า) แนวโน้มราคาหุ้นทางเทคนิคมีโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่ คาดกำไร 4Q16 All time high และ ปีหน้าคาดกำไร 149 ล้านบาท จากรับรู้รายได้สินค้าใหม่เข้ามาเต็มปี PEG ปัจจุบันเทรด 1x ยังต่ำกว่ากลุ่มและธุรกิจคล้ายกันเช่น SAPPE เทรด 2.3 เท่า
TFG เมื่อวานแรลรี่รับข่าวติด FTSE ครั้งแรก แนะย่อซื้อเก็งกำไรแนวรับ 7.20 บ. ต้าน 7.7 บ.
ราคาน้ำมันลุ้น ดีดตัววันพรุ่งนี้จากการประชุม OPEC+ Non OPEC ลดกำลังการผลิตลงอีก 6 แสนบาร์เรลต่อวัน แนะหุ้นที่มีรายได้จากเอทานอล PTG KSL
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) TPCH เรายังคงมีมุมมองเชิงบวก จากงาน Opportunity Day เมื่อวานนี้ 1) เรามองว่าโรงไฟฟ้าที่ขายไฟฟ้าอยู่แล้วสามารถเดินเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นใน 4Q16 นี้ ส่งผลให้ให้กำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ 2) คาดกำไรจะเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องในปีหน้าจากการขายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าใหม่อีก 2 แห่ง ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตที่ขายไฟฟ้าเพิ่มเป็น 60MW ภายใน กลางปี 2017 เทียบกับ 40MW ในปีนี้ และ 3) ใน 1Q17 มีอัพไซด์จากการขอ PPA โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ล่าสุด กกพ. ได้ออกประกาศให้ยื่นคำขอฯได้แล้ว ซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 23 บาท
(+) BLA เราปรับประมาณการกำไรปี 2016 ขึ้น 16 % ไปที่ 5 พันล้านบาทและปี 2017 ขึ้น 18% ไปที่ 5.8 พันล้านบาท สะท้อนการฟื้นตัวในทรงตัว V (ฟื้นเร็วและแรง) ของ Bond yield ระยะยาว ใน 4Q16 และน่าจะยืนต่อเนื่องไปในปีหน้าจากเทรนด์ขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ย นั่นหมายความว่า BLA มีโอกาสที่จะกลับรายการการตั้งสำรอง และลดสัดส่วนการตั้งสำรองจาก 73% มาอยู่ที่ 71% ในปีนี้ และจาก 70% เป็น 68% ในปีหน้า เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 65 บาท (จาก 58 บาท) และยังคงคำแนะนำ ซื้อ
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) ค้าปลีก ชงช็อปช่วยชาติ สัปดาห์หน้า รมช.คลัง ระบุให้รอชงมาตรการในสัปดาห์หน้า (ที่มา นสพ.บ้านเมือง)
(+) กลุ่มรับเหมา (SEAFCO PYLON) รฟม. คาดเปิดซอง รถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญา 1-4 และ 6 วันศุกร์นี้ (ที่มา ASPEN)
(+) BEM รฟม.จะเร่งเจรจาให้จบภายใน 16 ธค. นี้ เล็งเสนอ ครม. กพ.60 (ที่มา อินโฟเควส)
(+) BTS ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ทั้ง 2 ด้าน อยู่ระหว่างรอ กทม. เจรจากับ BTS รฟม.คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อยุติ (ที่มา อินโฟ เควส)
(*) ขสมก. จ่อปรับ และ ยกเลิก สัญญา เบสทริน กรุ๊ป หากส่งมอบรถเมล์ NGV ไม่ทันกำหนด / ความเห็น คาดจิตวิทยาบวก CHO เพราะคดีที่ฟ้องร้องค่าเสียหาย ไปก่อนหน้านี้มีโอกาสได้เงินชดเชย...แต่คาดว่าบริษัทฯจะไม่เข้าร่วมประมูลงานนี้อีก (ที่มา อินโฟเควส BLS research)
(+) ดัชนี FTSE ใหม่ มีผล 19 ธค. เป็นต้นไป FTSE SET Large Cap Index: BJC
ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 4 หลักทรัพย์ BAFS BCPG SCCC TFG
ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 15 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ ABC ALT AMATAV ASEFA BAFS BCP BTSGIF CFRESH GOLD PTL SCC SVI TKN UV VNT ที่มา ตลท.
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) มาเลเซียส่งออก ตค. -8.6% แย่กว่าคาดที่ -5.5% จาก -3% y-y ที่มา ASPEN
(+) พฤหัส ประชุมธนาคารกลางยุโรป ECB คาดคงดอกเบี้ย Refi rate 0% ส่วน Deposit rate คง -0.4% ญี่ปุ่น GDP 3Q16 2nd คาด +2.6% จาก +0.7% จีน ส่งออก พย. คาด -5% จาก -7.3% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ US Wholesale inventories ตค. คาด -0.4% m-m. ฟิลิปปินส์ ส่งออก ตค. คาด +8.6% จาก +5.1% จีน เงินเฟ้อ พย. คาด +2.2% จาก +2.1% มาเลเซีย Industrial production ตค. คาด +3.7% จาก +3.2% y-y. (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค