WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: ทะลุผ่าน 1528 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1550
  SET Index: 1530.00 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือนทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1525-1528 จุดขึ้นไปได้ ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ SET Index น่าจะมีแนวต้านสำคัญไม่เกินระดับ 1525 จุด ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1550 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมที่ทาเอาไว้ แต่มีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1522 จุด ถ้าปรับตัวลดลงย้อนกลับลงไปอีกครั้ง จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค


  แนวต้าน : 1530 และ 1534
  แนวรับ : 1528 และ 1525

INTUCH = 50.50 / 51.50, JAS = 8.20 / 8.30, ADVANC = 146 / 148, KBANK = 172 / 174, VNT = 18.00 / 18.80

 

Communication & System Solution (CSS TB; THB 2.86) - ซื้อ
  แนวต้าน : 3.10 และ 3.20 / แนวต้านสำคัญ 3.30
  แนวรับ : 2.86 และ 2.80
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างหลัง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ CSS โดยมีแนวรับที่ 2.86 และ 2.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.10 และ 3.20 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.76 ลงไป

 

Thai Polycons (TPOLY TB; THB 3.82) - ซื้อ
  แนวต้าน : 4.00 และ 4.20 / แนวต้านสำคัญ 4.36
  แนวรับ : 3.82 และ 3.78
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่แนวต้านสำคัญ ล่าสุด ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านขึ้นไปได้แล้
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ TPOLY โดยมีแนวรับที่ 3.82 และ 3.78 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.00 และ 4.20 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.66 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET...การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐครั้งแรกมักส่งผลต่อด้านลบกับหุ้นเอเชีย
 สภาพโดยทั่วๆไปของตลาดหุ้นทั่วโลก ยังค่อยๆ ปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนของตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาน้ำมันและการคาดการณ์ว่าในปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นกว่าการคาดการณ์เดิม อย่างไรก็ตามประเด็นที่ตลาดยังติดตาม คือ แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐในปีหน้า จะเร็วขึ้นขนาดไหน ราคาน้ำมันจะสามารถยืนเหนือในระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้หรือไม่และกำไรในไตรมาส 4 จะหนุนตลาดหุ้นได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ จากบรรดากองทุนหรือนักลงทุนทั่วไป ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกมากๆ

  มีการมองกันว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้าเติบโตอย่างที่คาด อัตราการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจะมากกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ โดยตลาดคาดว่าในปีหน้าจะขึ้น 2 ครั้ง ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ก็น่าจะพุ่งขึ้นไปอีก จนส่งผลในเชิงลบกับตลาดหุ้นเกิดใหม่ แม้หลายฝ่ายมองว่าหากตลาดหุ้นหรือเศรษฐกิจสหรัฐ ดีมากกว่าคาดในปีหน้า น่าจะส่งผลด้านบวกกับตลาดหุ้นเกิดใหม่ แต่อีกฝ่ายมองว่าการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยรวมทั้งอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของประเทศเกิดใหม่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งความกังวลว่าสหรัฐจะใช้นโยบายปกป้องทางการค้า นอกจากนั้นมองว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่เริ่มแพง คือตอนนี้เล่นกันที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าที่ 12.3 เท่า เทียบระยะยาวที่ 10.5 เท่า ดังนั้นในช่วงต้นๆ ของการขึ้นดอกเบี้ยและ Bond yield สูงขึ้น ตลาดหุ้นเกิดใหม่จะยังเผชิญกับแรงขาย

  เรามองว่าภาพการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชีย น่าจะเห็นภาพที่ชัดเจน หลัง FED ขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือน และการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. เพราะช่วงเวลาดังกล่าว ตลาดน่าจะเห็นทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในปีหน้าและเห็นภาพนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐชัดขึ้น ดังนั้นเรายังมองว่าในช่วงต้นเดือน ม.ค.ปีหน้า ตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งไทยน่าจะยังเผชิญกับความผันผวนจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ รูปด้านซ้ายและขวา เราแสดงการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของสหรัฐในปี 2004 และ 2015 พบว่าเมื่อสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก กว่าที่ตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น จะรีบาวน์กลับได้ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

  เรามองว่าทิศทางดัชนี SET ในช่วงกลางเดือนนี้ น่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ สลับแรงขายในบางช่วง จนกว่าจะมีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาเสริม โดยปัจจัยหนุนของตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้คือ มาตรการช้อปช่วยชาติ ราคาน้ำมันและการทำปิดงบ ดังนั้นหุ้นในกลุ่มพลังงาน โยงท่องเที่ยวและสินค้าเกษตร คาดน่าจะยังคึกคักได้ต่อเนื่อง แต่คงไม่แรง เนื่องจากราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าว ขึ้นมารับข่าวพอสมควรแล้ว หุ้นที่น่าจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบมากที่สุดในตอนนี้ คือกลุ่มพลังงาน หลังนักลงทุนต่างชาติได้กลับมา Cover short

  วันนี้ มองทิศทางดัชนี SET จะขึ้นต่อแต่ไม่แรงมากจากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาค ขณะที่ราคาน้ำมันยังทรงๆตัว ส่วนหุ้นที่เริ่มเห็นสัญญาณการซื้อเข้ามา จะเป็นหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่ให้ Dividend yield สูงๆ วันนี้มองแนวต้านที่ 1528-1532 จุด ส่วนแนวรับที่ 1515-1510 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ STEC SCB CK และ BANPU

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

 

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,530.00 จุด เพิ่มขึ้น 9.47 จุด (+0.62%) มูลค่าการซื้อขาย 26,066.30 ล้านบาท หุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องตามตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นบวก บ้านเรามีแรงซื้อนำเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร สื่อสาร รับเหมาฯ ติดตามการประชุม ECB (วันนี้)

 

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย เราคาดว่าตลาดจะยังคงปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจากกระแสการเก็งกำไรว่าการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้จะมีการประกาศขยายวงเงิน QE ในปัจจุบันที่ระดับ 80,000 ล้านยูโร/เดือน ออกไปอีก 3-6 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2560 เพื่อสกัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการลงประชามติในอิตาลี นอกจากนั้นราคาน้ำมันก็อาจจะกลับมาฟื้นตัวได้จากประเด็นการประชุมผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกกับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกที่จะมีการประชุมกันที่กรุงเวียนนา ในวันที่ 10 ธ.ค. เพื่อหารือว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอาจจะตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 700,000 บาร์เรล/วัน ตามกลุ่มโอเปกที่ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในต้นปีหน้า ทำให้เราคาดว่าหุ้นกลุ่มน้ำมันอาจจะมีการสลับขึ้นมาเล่นเก็งกำไรในช่วงบ่ายได้ นอกจากนั้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็คาดว่าจะยังปรับขึ้นต่อได้หลังคาดว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมจะประกาศผู้ผ่านซองเทคนิครถไฟฟ้าสายสีส้มในวันพรุ่งนี้ โดยเราคาดว่า CK, STEC และ UNIQ มีโอกาสที่จะชนะการประมูลอย่างน้อย 1 สัญญา ในทั้งหมด 6 สัญญา เราคาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1535 จุด ในช่วงบ่ายนี้ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ADVANC CK UNIQ PLANB ANAN

Technical Pick (PM) & Cash Balance...
  Communication & System Solution (CSS TB; THB 2.86) - ซื้อ
  Thai Polycons (TPOLY TB; THB 3.82) - ซื้อ
  Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : ACAP, SOLAR, VNT, NETBAY*, TLUXE* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!