- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 August 2014 16:40
- Hits: 3105
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET ยังอยู่ในช่วงการ “พักฐาน” กรอบ 1,470-1,520 จุด: แม้ SET จะปรับลดลงตั้งแต่เปิดตลาดทำจุดต่ำสุดที่ 1,487 จุด แต่แรงซื้อหุ้นกลับหนุน SET ปิดตลาดที่ 1,500.20 จุด ปรับลดลง 0.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 468 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้นแม้มีแนวโน้ม “พักฐาน” ทางเทคนิคต่อ ในกรอบ 1,470-1,520 จุด อย่างไรก็ตามพัฒนาการเชิงบวกทางการเมืองคาดว่าจะหนุน SET ปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่เป้าหมาย 1,570-1,600 จุด (ดูรายละเอียดใน The Quant & The Tactical วันที่ 4 ส.ค.) สำหรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่ง (คาด 230,000) และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาที่ 6.2% จากเดิม 6.1% ลดความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed
“ทยอยสะสม” กลุ่มรับเหมาฯ ช่วงการพักฐานของ SET: แม้ SET อยู่ในช่วงการ “พักฐาน” แต่ด้วย Downside Risk ที่จำกัด และมุมมองระยะกลาง-ยาวที่ยังเป็นบวก จึงแนะนำ “ทยอยสะสม” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากนโยบายลงทุนภาครัฐฯ อย่างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แนะนำ “ซื้อ” CK (แนวรับ 24-25 บาท) และ STEC (แนวรับ 23/22.2 บาท)
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ “ถือ” AOT, BTS, CPALL, CK, EA, GFPT, SAMART, SPALI และ SPCG ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” BGH เข้าพอร์ต (เป็นหุ้นแนะนำใน Trigger Five)
Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัราผลตอบแทน -1.68% w-w (28 ก.ค.-1
ส.ค.2014) ดีกว่า SET ที่ให้อัตราผลตอบแทน -2.83% w-w อยู่ 1.15% โดยหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio ได้แก่ GFPT และ EA โดยให้อัตราผลตอบแทน 5.59%, และ 2.08% ตามลำดับ ขณะที่ HEMRAJ (แนะนำ “ขาย” ออกจาก Tactical Portfolio ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน), SPALI และ CK ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หรือให้อัตราผลตอบแทน -7.3%, -5.1% และ -3.8% ตามลำดับ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาเราแนะนำ “ขาย” HEMRAJ และเพิ่มสัดส่วนเงินสดเป็น 10% ของพอร์ต...ทั้งนี้ตั้งแต่จัดทำ Tactical Portfolio เมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ให้อัตราผลตอบแทน 35.61% ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 18.70% หรือให้อัตราผลตอบแทนดีกว่า SET อยู่ 14.25%
Technical
ดัชนีฟื้นตัวในกรอบแคบ: ตลาดอยู่ในแนวโน้มลง โดยเริ่มมีแรงซื้อหุ้นกลับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาลงมาเกือบทดสอบแนวรับ 1485 จุด มีจังหวะฟื้นตัวในวันขึ้นมาทดสอบ 1500 จุด ทำให้สัปดาห์นี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1485 – 1510 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ: SLC ฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 0.40 บาท เป็นการสร้างฐาน คาดว่าจะขึ้นทดสอบแนวต้าน 0.44 บาท ผ่านได้เป็นโอกาสซื้อเพิ่ม ด้วยเป้าหมายถัดไปที่ 0.46 บาท JUBILE แรงซื้อหนุนกลับขึ้นมาทดสอบยอดเดิมที่ 31.00 บาท คาดว่าจะมีทำยอดสูงสุดใหม่ มีเป้าหมายสำคัญที่ระดับ 33.00 บาท เป็นจุดขายทำกำไร DTAC ราคาฟื้นตัวกลับขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 104.00 บาท คาดว่าจะมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน 109.00 บาท เป็นจุดขายระยะสั้น ขณะที่เป้าหมายสำคัญอยู่ที่ระดับ 115.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา S50U14 ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงถัดไปที่บริเวณ 980-985 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,006 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFQ14 ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,500 บาท หรือถัดไปที่บริเวณแนวรับ 18,500-19,000 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,900 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงไปที่แนวรับ 3,360 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3,420 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง US$1.18/bbl หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล