- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 December 2016 17:05
- Hits: 8013
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้านสำคัญ 1520
SET Index: 1504.28 ฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1500 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่บริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1520 จุด ทำให้โครงสร้างการเคลื่อนไหวของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1470 และ 1440 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1520 จุด ในระยะสั้นฟื้นตัวเหนือระดับสำคัญที่ 1500 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1470 จุด
แนวต้าน : 1505 และ 1510
แนวรับ : 1500 และ 1494
PTTEP = 87.00 / 88.00, PTT = 354 / 358, PTTGC = 62.50 / 63.50, AOT = 390 / 398, GL = 58.00 / 60.00
Netbay (NETBAY TB; THB 15.30) - ซื้อ
แนวต้าน : 16.00 และ 16.70 / แนวต้านสำคัญ 18.00
แนวรับ : 15.20 และ 15.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ในขณะที่โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเหนือระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ NETBAY โดยมีแนวรับที่ 15.20 และ 15.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 16.00 และ 16.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่า 14.50 ลงไป
Vanachai Group (VNG TB; THB 14.20) - ซื้อ
แนวต้าน : 15.00 และ 15.20 / แนวต้านสำคัญ 16.20
แนวรับ : 14.20 และ 14.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากสร้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ฟื้นตัวทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ VNG โดยมีแนวรับที่ 14.20 และ 14.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 15.00 และ 15.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.70 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 940 หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่บริเวณแนวต้าน 950 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 938 ลงไปต่อเนื่อง จะมีแนวรับถัดไปที่ 930 และ 915 จึงยังคงแนะนำให้เน้นการ Open Short ต่อเนื่องที่แนวต้าน 940 และ 944
แนวต้าน : 940 และ 942
แนวรับ : 938** และ 934
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50Z16 ที่แนวต้าน 940-942 โดยมีแนวรับที่ 938 และ 930 เป็นจังหวะขายทำกำไร
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 944 ขึ้นไป
JASH17
เคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับที่ 8.00 ลงไป ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวมีโอกาสปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 7.10 จะทำให้มีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 6.00
แนวต้าน : 6.90 และ 7.00
แนวรับ : 6.40 และ 6.20
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน JASH17 ที่แนวต้าน 6.90-7.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 6.50 และ 6.40
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า JASH17 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.20 ขึ้นไป
IRPCH17
ปรับตัวลดลงหลังจากฟื้นตัวในระยะสั้นที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และเส้นแนวโน้มขาขึ้นเดิมที่ 4.88 แต่ยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาในระยะสั้นต่อเนื่อง ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.00 และ 5.10 ตามกรอบแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับที่ 4.80
แนวต้าน : 4.84 และ 4.88
แนวรับ : 4.80 และ 4.74
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Short ที่แนวต้าน 4.90 และ 5.00-5.05 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.60
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 5.10
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...เก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก ลุ้นนโยบายกระตุ้นประกาศพรุ่งนี้
เราคาดว่าในวันนี้จะมีการเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากมาตรการช็อปช่วยชาติ อย่างกลุ่มค้าปลีก, อาหารและห้างสรรพสินค้า หลังจากที่ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 ธ.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช็อปช่วยชาติให้ ครม.พิจารณา โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทั้งหมด 17 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15-31 ธ.ค.59 โดยผู้ที่มีเงินได้สามารถนำใบเสร็จมาหักลดหย่อนได้ 15,000 บาท ในปีภาษี 2559 ที่ต้องยื่นภาษีระหว่างเดือน ม.ค.จนถึง มี.ค.2560 ทั้งนี้มาตรการช็อปช่วยชาติที่กระทรวงการคลังเสนอให้ ครม.พิจารณาเป็นมาตรการเดิมที่นำกลับมาใช้ใหม่ โดยเมื่อปีที่แล้ว มาตรการช็อปช่วยชาติมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 7 วัน ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ 5,000 ล้านบาท แต่มีข้อดีคือรัฐบาลสามารถกระตุ้นกำลังซื้อและการบริโภคช่วงปลายปีได้ โดยพิจารณาจากยอดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จัดเก็บได้เพิ่มขึ้น 6,000-7,000 ล้านบาท รัฐบาลก็ไม่ได้สูญเสียรายได้ โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์เรียงลำดับจากมากไปน้อยได้แก่ ROBINS GLOBAL M CPN MC HMPRO CENTEL MINT BJC และ CPALL
ในส่วนของราคาน้ำมัน แม้เมื่อคืนนี้จะปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย 0.11 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ +0.2% ปิดที่ 51.79 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการที่ตลาดยังคงขานรับกับการที่โอเปกบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นมา 4 วันติดต่อกันรวม 6.56 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ +14.5% โดยเมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบระหว่างวันได้ทำจุดสูงสุดใหม่ของปีนี้ที่ 52.41 ดอลลาร์/บาร์เรล และเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบในเดือนนี้มีโอกาสปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ของปีได้ในระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 10 ธ.ค. ที่กรุงเวียนนา โดยตลาดคาดว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 6 แสนบาร์เรล/วันในการประชุมครั้งนี้ ต่อจากโอเปกที่มีมติลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วันเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนั้น demand ของน้ำมันทำความร้อน (heating oil) ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวก็จะช่วยหนุนราคาน้ำมันในช่วงนี้อีกด้วย โดยในกลุ่มน้ำมันที่จะได้ประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันยังคงเป็น PTTEP และ PTT ที่เราแนะนำให้ ซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง โดยมีราคาเป้าหมาย 98 บาทและ 402 บาทตามลำดับ
ในกลางเดือนนี้จะมีการประกาศรายชื่อหุ้นที่จะถูกเลือกนำเข้าไปในการคำนวณ SET50 สำหรับงวดเดือนม.ค.-มิ.ย. 2560 โดยหุ้นที่เราคาดว่าจะถูกเลือกเข้ามาใหม่ในครั้งนี้ประกอบไปด้วย SCCC GL THAI GLOBAL SPRC และ JAS ในขณะที่หุ้นที่คาดว่าจะถูกตัดออกประกอบไปด้วย BEC SAWAD MTLS BCP TTW และ TASCO โดยหุ้นที่เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ในประเด็นการเข้า SET50 คือ GLOBAL และ SPRC ในขณะที่หุ้นที่หากถูกตัดออกแล้วราคาปรับลดลง ที่น่าสนใจเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวได้แก่ SAWAD และ MTLS
ประเด็นที่ต้องติดตามอาทิตย์หน้าคือ การประชุม ECB ในวัน 8 ธ.ค. ว่าทาง ECB จะส่งสัญญาณการต่ออายุการทำ QE ออกไปหรือไม่ โดยตอนนี้ตลาดมองว่าทาง ECB น่าจะขยายเวลาการทำ QE ออกไปอย่างน้อย 6 เดือน (จากที่จะสิ้นสุดเดือนมี.ค 2560) แต่จะยังซื้อพันธบัตรเท่าเดิมที่ 80 พันล้านยูโร/เดือน หรือบางส่วนคาดว่าอาจจะขยายเวลาการทำ QE ออกไปมากกว่า 6 เดือน แต่อาจลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลงต่ากว่า 80 พันล้านยูโร/เดือน ไม่ว่า ECB จะเลือกทางใดก็ตามเราคาดว่าตลาดจะตอบสนองในเชิงบวกกับมาตรการดังกล่าวและจะเป็นผลบวกกับตลาดหุ้น แต่ในทางกลับกันหาก ECB ไม่มีการประกาศมาตรการเพิ่มก็จะเป็นผลลบกับตลาดเช่นเดียวกัน
จากการที่นักลงทุนต่างประเทศมีการขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่องนับจากที่ทราบผลการเลือกตั้งของสหรัฐรวม 36,934 ล้านบาทในเดือนพ.ย. ซึ่งรวมไปถึงการขายทำกำไรเพื่อปรับพอร์ทก่อนที่จะทราบผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ FOMC ในวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 0.75% ซึ่งหากขึ้นดอกเบี้ยเรามองว่าไม่น่าส่งผลอะไรกับตลาดหุ้นในเอเชีย เนื่องจากอยู่ในความคาดหมายมานานแล้ว เพียงแต่อาจต้องรอดูคำพูดของประธาน FED ถึงทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐในปีหน้า ในขณะที่ในเดือนธ.ค. นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย 369 ล้านบาท ส่งผลให้นับจากต้นปีนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิไปรวม 77,843 ล้านบาท แม้ว่าเราจะคาดว่านักลงทุนต่างประเทศอาจจะยังขายสุทธิหุ้นไทยต่ออีกไปจนกว่าจะทราบผลการประชุมเฟด แต่แรงขายน่าจะเริ่มชะลอตัวลง ในขณะที่แรงซื้อของกองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีอย่าง LTF RMF ที่จะเข้ามาช่วงปลายปีน่าจะหนุนให้ดัชนีในปีนี้สามารถปิดยืนเหนือระดับ 1500 จุดได้
จากการที่ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย, แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศชะลอตัวลง, ราคาน้ำมันยังปรับขึ้นได้ต่อจากการเก็งกำไรการประชุมกลุ่มโอเปกกับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก, การเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของ ECB, การเก็งกำไรมาตรการช็อปช่วยชาติที่คาดว่าจะประกาศวันพรุ่งนี้และแรงซื้อของกองทุน LTF, RMF ก็คาดว่าจะช่วยหนุนให้ตลาดวันนี้กลับมาฟื้นตัวได้ นำโดยกลุ่มค้าปลีก (CPALL CPN GLOBAL HMPRO MC ROBINS), พลังงาน (PTTEP PTT), โรงแรมและการท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) โดยวันนี้เราให้แนวรับที่ 1492-1498 จุดและแนวต้านที่ 1510-1518 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร CENTEL MC PLANB ROBINS
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,504.28 จุด เพิ่มขึ้น 2.62 จุด (+0.17%)มูลค่าการซื้อขาย 17,279.47 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบแคบ โดย SET ยังแกว่งเหนือระดับ 1500 จุด ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย เราคาดว่าตลาดยังคงซื้อขายอยู่ในกรอบจำกัด ด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยเป็นการเก็งกำไรในรายหลักทรัพย์เป็นส่วนใหญ่ โดยกลุ่มที่คาดว่าจะโดดเด่นช่วงบ่ายต่อเนื่องจากช่วงเช้าได้แก่กลุ่มค้าปลีก (CPALL CPN HMPRO GLOBAL M MC ROBINS) โรงแรมและการท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) จากการเก็งกำไรว่ารัฐบาลในวันพรุ่งนี้จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเกี่ยวกับการนาค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท โดยให้ช่วงเวลาทั้งหมด 17 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. - 31 ธ.ค. 59 โดยหุ้นเด่นใน 2 กลุ่มนี้เราแนะนำ CPN ROBINS และ CENTEL ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดเลือกเข้าไปในการคำนวณ SET50 ในครึ่งปีแรกของปีหน้าที่จะมีการประกาศออกมาในสัปดาห์หน้าก็คาดว่าอาจมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาได้ โดยเราคาดว่า SCCC GL THAI GLOBAL SPRC และ JAS จะถูกประกาศเข้าไปในการคำนวณและหุ้นที่จะถูกตัดออกประกอบไปด้วย BEC SAWAD MTLS BCP TTW และ TASCO ช่วงบ่ายเราให้กรอบการซื้อขายที่ 1498-1510 จุด
Technical Pick (PM)...
Netbay (NETBAY TB; THB 15.30) - ซื้อ
Vanachai Group (VNG TB; THB 14.20) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]