- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 02 December 2016 18:28
- Hits: 12907
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หุ้นพลังงานอาจยังปรับขึ้น แต่ตลาดรวมมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก
หุ้นไทยวานนี้ปรับเพิ่มขึ้นถึง 13 จุด จากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ก่อนแรงขายท้ายตลาด กดดันตลาดปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2 จุด ทั้งนี้เราประเมินแรงขายเกิดขึ้นจาก 1) การปรับพอร์ตขายทำกำไรหุ้นกลุ่มอื่นๆ เพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กลุ่มพลังงาน จากมุมมองระยะกลางดีขึ้นหลังโอเปคปรับลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เหลือ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน มีผล 1 ม.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 8 ปี 2) ตัวเลขเงินเฟ้อไทย พ.ย.59 เพิ่มขึ้น 0.60% บวกติดต่อกัน 8 เดือนและ สูงสุดรอบ 23 เดือน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับขึ้นเพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 3) ความเสี่ยงจากการทำประชามติของ อิตาลี ในวันอาทิตย์นี้
อิตาลีมีกำหนดทำประชามติปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะลดอำนาจรัฐสภาลง รวมทั้งเพิ่มอำนาจและสร้างเสถียรภาพให้แก่รัฐบาลในการแก้ปัญหารวมถึงการผ่านร่างกฎหมายมากขึ้น ซึ่งนายักรัฐมนตรี มัตเตโอ เรนซีได้ประกาศเจตนาลาออก หากไม่สามารถผลักดันการปฏิรูปได้ ขณะที่ผลโพลล่าสุดชี้ว่าพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีนโยบายไม่สนับสนุนสหภาพยุโรป มีความนิยมนำก่อนการลงคะแนนวันอาทิตย์นี้ ส่งผลให้ตลาดเกิดเกิดความกังวลถึงความปั่นป่วนที่อาจตามมา คล้ายกรณีอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
เราประเมินหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวถึงซึมลง แม้หุ้นพลังงานอาจปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ แต่การปรับพอร์ตลดน้ำหนักและจัดสรรน้ำหนักใหม่หลังมุมมองระยะกลางพลังงานเปลี่ยนไป จะสร้างแรงกดดันต่อตลาด ขณะเดียวกันระมัดระวังหรือลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ได้ผลลบจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน กลุ่มโรงกลั่น, สายการบิน ปิโตรเคมีที่มีต้นทุนจากแนฟทา เรายืนยันมุมมองตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นธ.ค. ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเพิ่มขึ้น รวมทั้งอาจได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง ทั้งจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญและช่วงไว้ทุกช์ของคนไทย
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 4 ธ.ค. - ประชามติรัฐธรรมนูญอิตาลี / 13-14 ธ.ค. - ประชุมเฟด (ทราบผลเช้า 15 ธ.ค.) / 21 ธ.ค. - การปรับลด GDP โดยธปท.
คำแนะนำทางกลยุทธ์ : ลดน้ำหนักการลงทุนลงเหลือ 40% (จาก 60%) เพิ่มความระมัดระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเมื่อเข้าสู่ช่วง ธ.ค.อันเนื่องมาจากความเสี่ยงจากการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ การเก็งกำไรหุ้นพลังงานควรกำหนดจุดทำกำไรและขาดทุน ขณะที่ยังสามารถเลือกเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปี ท่องเที่ยว รวมถึงที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวได้ // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ AOT, ERW / เก็งกำไร PSTC*, JMART*, TLUXE*
แนวรับ/แนวต้าน : 1500/1520-1530 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ: กลุ่มค้าปลีกและผู้จำหน่ายสินค้าไอที รวมถึงกระเบื้อง TK, S11, JMART, SYNEX, DCC, DRT / ห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ROBINS, BIGC, MAKRO, CPN, HMPRO / กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, CENTEL และ MINT
กลุ่มอาหาร/เกษตร/ยาง/เรือ: GFPT*, CPF, TFG*, TU, CFRESH*, STA*, TRUBB*, TTA*, PSL*, RCL*
หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า: BH, ERW, IRPC, PTT, TU / ยูโรอ่อน: THAI, TPIPL
หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)