WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

          SET INDEX วานนี้ ขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,520 จุด ผลักดันด้วยหุ้นหลัก อย่าง PTT / PTTEP / SCC/ PTTGC บวกกับหุ้นกลุ่มธนาคารเริ่มทรงตัวได้ดี แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามาเป็นระยะๆ ก็ตาม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 2.14 จุด มาอยู่ที่ 1,512.38 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 62,216 ล้านบาท

ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 834 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 7,222 สัญญา แม้ว่าจะขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 2,397 ล้านบาท ก็ตาม

 

ปัจจัยสำคัญวันนี้

          ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้

          ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาว 2 สัปดาห์ของตลาดหุ้นไทย

          ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทะลุ US$50/barrel คืนวานนี้

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า

          การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของอิตาลี วันที่ 4 ธ.ค.

          การประชุมครม.วันที่ 6 อาจพิจารณา "ช็อปช่วยชาติ #2"

          การประชุม ECB วันที่ 8 ธ.ค.

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง - Sideways (วันที่ 18)

          ทิศทาง SET INDEX วันสุดท้ายของสัปดาห์แกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,510-1,520 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นต่อเนื่องจาก 2 วันทำการที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้หุ้นหลักใน SET50 Index จะยังทรงตัวถึงแรงเก็งกำไรเป็นรายตัวต่อเนื่อง อีกทั้งต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิทั้งในตลาดหุ้น และLong สุทธิใน SET50 Index Futures หนาแน่น อาจมีความเป็นไปได้สูงที่กระแสเงินทุนจะไหลเข้าต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ก่อนจะไปหยุดยาวในช่วงครึ่งหลังของเดือนธ.ค.

          ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการลงประชามติของอิตาลี ซึ่งจะเริ่มนับผลเช้าวันที่ 5 ธ.ค.ตามเวลาประเทศไทย มีความเป็นไปได้สูงที่ประชาชนจะไม่รับร่างดังกล่าว นำไปสู่ความเสี่ยงทางการเมืองในอิตาลี และอาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ ECB จำเป็นต้องขยายระยะเวลาโครงการ QE ออกไปจากปัจจุบันสิ้นสุดเดือนมี.ค. 2560 หากเป็นไปตามที่เราประเมิน มีความเป็นไปได้สูงที่เงินทุนจะไหลออกจากอียูเข้าเอเชีย รวมถึงไทย เพื่อปิดความเสี่ยงในอียู

          นอกจากนี้เม็ดเงินทุนจาก LTF / RMF จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ ทำให้ SET INDEX มีโอกาสปิดสิ้นปีบริเวณ 1,550 จุด +/- ได้ไม่ยาก

          กลยุทธ์การลงทุน "เก็งกำไรเมื่อราคาหุ้นเป้าหมายย่อตัว" ช่วงสั้นอาจเน้นเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว

Strategy of the Day         

          1. เก็งกำไร TPOLY  : ราคาปิด 3.68 บาท ราคาเป้าหมายทางเทคนิค 4.00 บาท

          a) แม้ว่า MBKET จะไม่ได้วิเคราะห์ทางด้านปัจจัยพื้นฐานของหุ้นดังกล่าว แต่เรามีการวิเคราะห์เชิงปัจจัยพื้นฐานในบริษัทลูกคือ TPCH ซึ่ง TPOLY ถือในสัดส่วน 41.26%

          b) แนวโน้มผลการดำเนินงานของ TPCH ใน 3 ไตรมาสข้างหน้า นับตั้งแต่ 4Q59 เป็นต้นไป จะเติบโต qoq ด้วยการทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 9.2MW ใน 3Q59 / 9.2MW ใน 4Q59 และ 23MW ใน 2Q60

          c) หากเทียบราคาปิดของหุ้น TPCH ที่ 17.70 บาท คำนวณกลับมายังเป็น NAV ที่ TPOLY เท่ากับ 5.17 บาท ขณะที่ราคาหุ้น TPOLY ปิดที่ 3.68 บาทหรือ Discount จากมูลค่าเงินลงทุน 29%

          d) สัญญาณทางเทคนิกเป็นบวกเด่น หลัง TPOLY ปิดยืนเหนือ 3.60 บาทได้อย่างแข็งแกร่ง ด่านถัดไป 3.80 / 4.00 บาท ตามลำดับ         

          2. เก็งกำไร IRPC : ราคาปิด 4.84 บาท ราคาเหมาะสม 5.70 บาท

          e) ราคาน้ำมัน NYMEX คืนวานนี้ปิดทะลุ US$51/barrel มาอยู่ที่ US$51.06/barrel เพิ่มขึ้น 3.28% dod ตอบรับเชิงบวกกรณีรัสเซียประกาศลดกำลังการผลิตตามกลุ่มโอเปก

          f) คาดกำไรจากกการดำเนินงานปกติ 4Q59 เติบโต qoq จากโครงการ UHV เดือนเครื่องเต็ม 100% เป็นไตรมาสแรก เป็นบวกต่อ GRM ปรับตัวขึ้น และอาจได้ข้อสรุปค่าปรับงานล่าช้าภายในปีนี้ และบันทึกเป็นกำไรพิเศษใน 1Q60

          a) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2560 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +10% yoy เป็น 11,412 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้โครงการ UHV เต็มปี นอกจากนั้น ยังมีจุดเด่นที่จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง จึงให้ผลตอบแทนจากจากเงินปันผลปี 2559 สูงถึง 4.75%

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets

ซื้อสุทธิวันที่ 4 อีก US$21 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$67 ล้าน

กระแสเงินทุนต่างชาติเบาบาง

        

Foreign Investors Action วานนี้

ต่างชาติสะสมหุ้นไทยเด่นอีกครั้ง          

          นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 834 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 5,138 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อย เป็น 78,309 ล้านบาท

          ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 7,222 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 21,245 สัญญา คาดเป็นการทยอยเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง ส่งผลให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้คงสถานะ Long สุทธิเพิ่มเป็น 24,000 สัญญา โดยที่ S50Z16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้ง 0.52 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium เท่ากับ 3.62 จุด

          แต่นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 2,397 ล้านบาท จาก 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 5,779 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยยังคงปรับฐานลงแรงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นอีก 2.10bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 7.83bps ปิดที่ 2.707%

         

Short-Selling วานนี้

เท่ากับ 1,013 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 563 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 60 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 54 หลักทรัพย์         

 

NVDR Movement

NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เน้นกลุ่มพลังงาน / ค้าปลีก / ธนาคาร

          การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 2,613 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,623 ล้านบาท โดยเพิ่มน้ำหนักกลุ่มพลังงานสูงสุด 612 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีก 583 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร 533 ล้านบาท แต่ขายสุทธิกลุ่มอสังหาฯ สูงสุดเพียง 124 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

 

สหรัฐอเมริกา

          ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นกลาง

          - ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.68 แสนตำแหน่ง สูงกว่า Bloomberg consensus คาด 2.53 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้า 2.53 แสนตำแหน่ง

          - ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนพ.ย. เท่ากับ 54.1 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus คาดเล็กน้อย 53.9 จุด และเดือนก่อนหน้า 53.4 จุด คำสั่งซื้อใหม่และการผลิตยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2558

          - ดัชนี ISM ภาคการผลิต เดือนพ.ย. เท่ากับ 53.2 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 52.3 จุด และเดือนก่อนหน้า 51.9 จุด สอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิต โดยคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกที่ทะลุ 50.0 จุด

          แคนาดาเตรียมจัดทำประชามติก่อนการเลือกตั้ง: นายกฯ แคนาดา เสนอให้มีการทำประชามติเกี่ยวกับการปฎิรูประบบการเลือกตั้ง First-past-the-post ในระบบ electoral ที่ควรมีการปรับปรุง เพราะเป็นระบบที่เอื้อต่อพรรคเล็ก

ยุโรป

          ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอียูแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2557: ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนพ.ย. เท่ากับ 53.7 จุด เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2557 และเร่งขึ้นจากเดือนต.ค.ที่ 53.5 จุด ส่วนดัชนี PMI Composite ลดลงเล็กน้อยเป็น 54.1 จุด จาก 54.6 จุดเดือนต.ค. ทั้งนี้ค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าเป็นปัจจัยบวกต่อภาคการผลิต

          รัสเซียจะลดกำลังการผลิตน้ำมันในช่วงเดือนพ.ย. - ธ.ค.: เพื่อสอดคล้องกับผลการประชุมกลุ่มโอเปกที่จะลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนม.ค. 2560 โดยรัสเซียจะลดกำลังการผลิตราว 0.3 ล้านบาร์เรล/วันในช่วง 1H60 ผู้ผลิตน้ำมันดิบในรัสเซียจะลดในสัดส่วนเท่ากัน นอกจากนี้ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกส่วนที่เหลือคาดว่าจะร่วมมือลดกำลังกาผลิต 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน เช่นกัน

จีน

          ทางการจีนเตรียมขึ้นภาษีสำหรับ Super Car: อัตราภาษีส่วนเพิ่มอีก 10% สำหรับ Super car และ รถยนต์หรูรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาตั้งแต่ 1.3 ล้านหยวนขึ้นไป โดยอัตราภาษีใหม่นี้จะมีผลต่อยอดขายรถยนต์รุ่นใหม่ของ BMW / Daimler AG/ Mercedes-Benz และ Audi รวมถึงรถยนต์ high-end ยี่ห้อหรูต่างๆ ทั้งนี้ รมว.คลัง ต้องการที่จะควบคุมภาวะฟองสบู่ในตลาดยานยนต์ของจีน

          ดัชนี PMI ภาคการผลิตดีกว่าคาด: เดือนพ.ย. เท่ากับ 51.7 จุด ดีกว่าเดือนต.ค.ที่ 51.2 จุด เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558

เอเชียแปซิฟิก

          เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวเร่งขึ้น: เติบโต 7.3% yoy ระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย. เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่เติบโต 7.1% yoy ที่เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน อย่างไรก็ตามสัญญาณเศรษฐกิจอินเดียอาจเติบโตต่ำกว่า 7% ในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า จากผลกระทบของการยกเลิกใช้ธนบัตร 500 รูปี และ 1,000 รูป ทำให้การบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัยทางด้านเศรษฐกิจ ชะงักงัน

ไทย

           อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8: ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือนพ.ย.2559 เท่ากับ 106.79 เพิ่มขึ้น 0.60% yoy เป็นการสูงขึ้นติดต่อกัน 8 เดือน และเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในรอบ 23 เดือน นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557 ที่เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.60% yoy แต่หากเทียบกับเดือนต.ค.2559 เงินเฟ้อลดลง 0.06% mom ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 11 เดือนของปี 2559 (ม.ค.-พ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.10% yoy สาเหตุที่เงินเฟ้อเดือนพ.ย. เป็นผลจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้น 1.49%  

          รองนายกฯ เตรียมเยือนจีน 7-12 ธ.ค. โชว์ศักยภาพการลงทุนพื้นที่ EEC: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ บีโอไอ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนใน 3 เมืองใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ เมืองเซินเจิ้น เมืองหางโจว และกรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 7-12 ธันวาคม โดยจะเชิญชวนนักธุรกิจจีนให้เข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC: East Economic Corridor) รวมถึงจะนำคณะบีโอไอพบหารือผู้ประกอบการรายใหญ่จากประเทศจีนไม่น้อยกว่า 10 บริษัท ที่แสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเป็นกิจการที่จัดอยู่ในกลุ่ม คลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมเป้าหมาย 

Strategist Team

          Mayuree Chowvikran, CISA   Strategist / Analyst  662-6586300 x 1440

          Padon Vannarat  Equity Analyst  662-6586300 x 1450

          Krittapol  Itthithumsakul  Assistant Analyst   

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!