- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 December 2016 21:56
- Hits: 1565
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'โอเปกบรรลุข้อตกลงหนุนกลุ่มพลังงาน'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้พุ่งขึ้นแรง ปิดตลาด +13.06 จุดที่ 1510.24 โดยมีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยของรัฐบาล รวมถึงการลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการปี 60 ขยายตัวแข็งแกร่ง นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 2.1 พันล้านบาท ส่วนกลุ่มที่นำซื้อสุทธิเป็นพอร์ตบล. สำหรับปัจจัยสำคัญ/จับตาในระยะสั้นมาก ได้แก่
+ กลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมวานนี้ (30 พ.ย.) หนุนราคาน้ำมันปรับขึ้นแรงและเป็น Sentiment ทางบวกกับกลุ่มพลังงาน&ปิโตรเคมี หุ้นเด่น คือ PTT, PTTGC, BCP, IVL แต่ยังแนะนำเป็นเพียงเก็งกำไรรอบสั้น
+ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน US เดือนพ.ย.แข็งแกร่งมาก ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะรายงานวันศุกร์นี้ต่อ
มีโอกาสสูงมากที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC 13-14 ธ.ค.นี้
+ คาดมาตรการชอปช่วยชาติจะออกมาเร็วๆนี้ (มีกระแสข่าวว่าจะให้นำค่าชอปช่วงครึ่งหลังเดือนธ.ค.มูลค่าไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทไปลดหย่อนภาษีได้)...เป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก หุ้นเด่น คือ ROBINS
+ แรงซื้อ LTF โค้งสุดท้ายปลายเดือนธ.ค.ช่วยหนุน
กลยุทธ์ : การซื้อเล่นรอบยังเน้นตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและดัชนี, ถือหุ้นดีที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ และทยอยสะสมหุ้นเติบโตแกร่งช่วงราคาปรับฐาน/อ่อนตัว หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์วันนี้เป็น PTT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ (ปิดเหนือ SMA10)ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ต่ำกว่า 1490 ลดพอร์ตตาม/ตัดขายขาดทุน แนวต้านระยะสั้น 1520, 1530-1540 จุด
ส่วนการ SCAN หุ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ TCAP, KTB, ESSO,AJ หุ้นที่ยังอยู่ใน List ได้แก่ SMT, TPOLY, BRR, RS, PAP, GLOBAL, STPI, SYNEX, GPSC
หุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร คือ FN, MAJOR
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
สหรัฐ : ดัชนีราคาใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นต่อ...หนุนเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับตัวขึ้น 0.2%MoM ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2%MoM เช่นกันในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญขยับขึ้น 0.1%MoM ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1%MoM เช่นกันในเดือนก.ย.
+ สหรัฐ : ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.เพิ่มแกร่ง
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.59 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง รวมทั้งเพิ่มขึ้นมากจากเดือนต.ค.59 ที่ 119,000 ตำแหน่ง โดยภาคบริการการจ้างงานเพิ่ม 228,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ส่วนภาคการผลิตจ้างงานลดลง 11,000 ตำแหน่ง
- อังกฤษ : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ย.ลดลง 5 จุด
ดัชนีความเชื่อมั่นของ UK ในเดือนพ.ย.59 ลดลง 5 จุดเป็น -8 เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของตน และความไม่แน่นนอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าจาก Brexit
ยูโรโซน : เงินเฟ้อพ.ย.เพิ่มขึ้นแต่ยังห่างเป้าหมาย 2% มาก...คาด ECB ขยาย QE ออกไปอีก
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยูโรโซนเดือนพ.ย.อยู่ที่ 0.6% เพิ่มขึ้นจาก 0.5% ในเดือนต.ค.และ 0.4% ในเดือนก.ย. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่ 2.0% อย่างมาก ซึ่งทาง ECB อาจต้องขยายโครงการ QE ต่อไปอีก ทั้งนี้ ECB เริ่มใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณมาตั้งแต่ม.ค.58 และจะสิ้นสุดมาตรการในเดือนมี.ค.60 ซึ่ง ECB จะประชุมครั้งต่อไปวันที่ 8 ธ.ค.นี้
จีน : ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยับขึ้นเป็น 51.7
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 51.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.ที่ระดับ 51.2 ซึ่งดัชนีที่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัวเมื่อเทียบ MoM
ตลาดหุ้นสหรัฐ : พุ่งขึ้นแรงแล้วเจอแรงขายทำกำไรกดลง...หุ้นพลังงานเด้ง หุ้นเทคโนโลยีร่วง
ดัชนี DJIA ปิดที่ 19,123.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ +0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,323.68 จุด ลดลง 56.24 จุด หรือ -1.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,198.81 จุด ลดลง 5.85 จุด หรือ -0.27% ปัจจัยหนุน คือ การปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบหลังกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับขึ้นตอบรับข่าวว่านายทรัมป์ เสนอชื่อนายสตีเวน นูชิน อดีตผู้บริหารธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่ตลาดปรับขึ้นจำกัดเพราะรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่จะประกาศวันศุกร์นี้ ซึ่งผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%
+ กลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันได้
กลุ่มโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.59) สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมเมื่อเดือนก.ย.59 ทั้งนี้อิหร่าน ลิเบีย ไนจีเรีย ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปรับลดปริมาณการผลิตลง เพราะการผลิตน้ำมันของประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรและเหตุการณ์การเมือง&ความไม่สงบในประเทศ โดยการปรับลดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปกนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 51 โดยมีผลบังคับใช้เดือนม.ค.60
+ ราคาน้ำมันดิบ : พุ่งขึ้นแรงราว 9% เมื่อคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 4.21 ดอลลาร์ หรือ +9.3% ปิดที่ 49.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT พุ่งขึ้น 4.09 ดอลลาร์ หรือ +8.8% ปิดที่ 50.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุนสำคัญ คือ การบรรลุข้อตกลงลดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปก ซึ่งเกิดขึ้นได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี รวมทั้ง EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 0.884 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่ม 0.636 ล้านบาร์เรล
+ ราคาทองคำ : ร่วงแรง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 16.9 ดอลลาร์ หรือ -1.42% ปิดที่ระดับ 1,173.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
- เศรษฐกิจไทย : เดือนต.ค.ขยายตัวชะลอลง
# ธปท.ระบุว่าเศรษฐกิจไทยเดือนต.ค.59 ขยายตัวในอัตราชะลอลง เนื่องจากภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการจัดการทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งกระทบต่อการบริโภคที่เกี่ยวข้องด้วย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนต.ค.59 ลดลง 10.1%MoM และมูลค่าการส่งออกหดตัว 4.3%YoY โดยหากไม่รวมการส่งออกทองคำจะหดตัว 3.6%YoY โดยลดลงในส่วนของการส่งออกรถยนต์ไปตะวันออกกลาง การส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปลดลงเพราะขาดวัตถุดิบจากเหตุภัยแล้ง หมายเหตุ : การส่งออกพวกแผงวงจรไฟฟ้า (IC) และเครื่องใช้ไฟฟ้ายังไปได้ดี
# สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) เดือนต.ค.59 เพิ่มเพียง 0.1%YoY และลดลง 0.79%MoM ส่วน 10M59 ดัชนีขยายตัว 0.1%YoY นับว่าน้อยมาก สินค้าที่ผลิตน้อยลงมากคือ เฟอร์นิเจอร์ ส่วนที่ผลิตเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์เหล็ก
# แนวโน้มพ.ย.-ธ.ค.59 คาดว่าการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวจะคึกคักขึ้นในเดือนธ.ค.59 ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นชั่วคราวของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุน และส่งออกคาดว่าจะยังซบเซาต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้
# การลงทุนภาครัฐยังเป็น Key growth ในปี 60 ส่วนภาคอื่นๆ อยู่ในทิศทางฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อยังไม่เป็นแรงกดดันต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังปรับขึ้นไม่มากเพราะอุปทานที่ยังคงสูง และอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ
+ กลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี : มีปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ
# การบรรลุข้อตกลงของกลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วันสู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ซึ่งพลิกความคาดหมายของตลาดเพราะก่อนหน้าดูเหมือนว่าประเทศผู้ผลิตขนาดใหญ่จะตกลงกันไม่ได้ โดยการปรับลดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปกนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 51 โดยมีผลบังคับใช้เดือนม.ค.60
# ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นราว 9% โดย BRENT ขึ้นไปที่ 51.84 US$/bbl และ WTI ไปที่ 49.44 US$/bbl ซึ่งเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในระยะสั้น ซึ่งหุ้นที่ทางฝ่ายวิจัยฯ DBSV แนะนำซื้อในกลุ่มพลังงานเป็น BCP (ราคาพื้นฐาน 39 บาท) และ PTT (ราคาพื้นฐาน 370 บาท) และแนะนำถือ IRPC (ราคาพื้นฐาน 5.3 บาท), PTTEP (ราคาพื้นฐาน 86 บาท), TOP (ราคาพื้นฐาน 65 บาท)
# สำหรับกลุ่มปิโตรเคมี คาดว่าจะได้อานิสงค์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบไปด้วย เพราะโดยปกติแล้วราคาผลิตภัณฑ์และ Spread ของปิโตรเคมีมักจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน หุ้นเด่น คือ IVL (ราคาพื้นฐาน 42 บาท) และ PTTGC (ราคาพื้นฐาน 70 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]